เขื่อนเชี่ยวหลานในสายฝน ล่องเรือ ผจญภัยถ้ำปะการัง

เขาสามเกลอ ความงามของเขื่อนเชี่ยวหลาน 

เขื่อนรัชประภา หรือที่รู้จักกันในชื่อ เขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับการขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ด้วยทิวทัศน์อันงดงามของผืนน้ำสีเขียวมรกตที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณเขียวชะอุ่ม สร้างบรรยากาศดุจแดนสวรรค์กลางหุบเขา ไม่ว่าจะล่องเรือชมวิว พักแพกลางน้ำ หรือออกผจญภัยในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์

เขื่อนแห่งนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2525 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2530 และได้รับพระราชทานนามจากในหลวงรัชกาลที่9 ว่า “เขื่อนรัชประภา” หมายถึง “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” ปัจจุบันถือเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สำคัญของภาคใต้ มีความสูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้กว่า 5,600 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่อ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ถึง 185 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีระบบนิเวศป่าดิบชื้นอันอุดมสมบูรณ์ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ธรรมชาติเขียวชอุ่มที่สุด แม้สภาพอากาศอาจแปรปรวนบ้าง แต่ก็ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยเสน่ห์ของสายหมอก ส่วนในฤดูร้อน บรรยากาศอาจอบอ้าวแต่ก็เหมาะแก่การล่องเรือชมวิวท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆ

วิวจุดรอลงเรือเพื่อนั่งไปยังเขื่อนเชี่ยวหลาน

การเดินทางครั้งนี้ เรามีโอกาสได้ร่วมทริปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นพอดีกับช่วง Green Season ฤดูฝนที่ใครหลายไม่อยากออกจากบ้าน แต่สำหรับบางคนกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว เพราะเป็นช่วงที่ป่าเขียวขจี มีหมอกปกคลุม และอากาศสดชื่นเย็นสบาย แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางที่เลือกมาเยือนก็คือ เขื่อนเชี่ยวหลาน สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้

ระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ ฝนตกหนักแทบตลอดสาย บางช่วงก็แผ่วเบาโปรยลงมาเป็นละออง พี่คนขับรถตู้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคุ้นชินว่า “ถ้าเป็นหน้าฝนที่นี่ ฝนจะตกทั้งวัน ไม่ค่อยหยุด มีแค่ตกหนักกับตกเบาเท่านั้นเอง” คำพูดนั้นฟังดูเหมือนเล่นมุขหยอก แต่ก็คือไปด้วยความจริง ซึ่งสำหรับเราและคณะเพื่อนร่วมทริปแล้วกลับไม่ใช่อุปสรรคยิ่งเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นว่าจะได้สัมผัสความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง

หมอกจางๆลอยคลอไปตามไหล่เขา

 มาถึงท่าเรือแม้เม็ดฝนยังโปรยลงมาไม่ขาดสาย แต่บรรยากาศกลับคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่กำลังเตรียมตัวจะเดินทางเข้าสู่เขื่อนเชี่ยวหลาน สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดคือทิวเขาสูงใหญ่ที่ถูกห่มคลุมด้วยสายหมอกสีขาวบาง ๆ ราวกับกำลังเชื่อเชิญนักท่องเที่ยวเลย เรารีบสวมเสื้อกันฝน เตรียมกระเป๋าที่ห่อด้วยถุงพลาสติกดำกันน้ำอย่างมิดชิด แล้วเดินลงไปยังท่าลงเรือ ทุกคนนั่งประจำที่บนเรือเรียบร้อย เครื่องยนต์ก็เริ่มเดินเครื่อง พาเรามุ่งหน้าฝ่าสายฝนและผืนน้ำสีเขียวมรกต เพื่อเข้าไปสัมผัสความงดงามด้านในของเขื่อนเชี่ยวหลาน ด้วยตัวเอง

เรือล่องเข้ามาลึกพอสมควร ภาพที่แรากฎอยู่ตรงหน้า คือภูเขาหินปูนสูงใหญ่ ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มแน่นขนัด สายหมอกค่อย ๆ ลอยคลอไปตามไหล่เขา เหนือผืนน้ำสีเขียวมรกตที่สะท้อนแสงระยิบระยับ ราวกับก้าวเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่ง แม้ฝนจะโปรยตลอดทาง แต่กลับไม่ลดทอนความสุขในการชมวิวลงเลย

ชมทิวทัศน์เบื้องหน้ายามที่ฝนริน

เมื่อเดินทางมาถึงที่พักซึ่งเป็นแพกลางน้ำ บรรยากาศสงบเงียบ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ถือว่าโชคดีที่แพอยู่ช่วงต้น ๆ ของเขื่อน ยังพอมีสัญญาณโทรศัพท์บ้าง แม้จะติด ๆ ดับ ๆ ต่างจากแพที่อยู่ลึกเข้าไปซึ่งแทบจะไม่มีสัญญาณเลย ที่นี่มีกำหนดเวลาการใช้ไฟฟ้า ในห้องพักจะใช้ไฟได้ตั้งแต่ 13.00-07.00 น. ส่วนช่วง 07.00-13.00 น. จะมีเพียงพัดลมและเครื่องทำน้ำอุ่นให้ใช้ แต่ถ้าอยากชาร์จอุปกรณ์ ก็สามารถใช้ปลั๊กส่วนกลางที่ล็อบบี้ได้ 24 ชั่วโมง

เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยก็ไม่รอช้า ออกเดินทางผจญภัยในเชี่ยวหลานกันเลย จุดหมายวันนี้คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำปะการัง ที่อยู่ทางทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา บริเวณทะเลใน 500 ไร่ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณ 20–30 นาที ก็มาถึงหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยถ้ำจันทน์ จากนั้นต้องเดินเท้าอีก 1.1 กิโลเมตร เพื่อไปยังท่าลงแพไม้ไผ่ติดเครื่องยนต์ ผ่านเส้นทางป่าเขียวชอุ่ม ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยตลอดทาง ใครมาเที่ยวช่วงนี้แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันทากมาด้วย เพราะมีไม่น้อยทีเดียว เพื่อนร่วมทริปต่างก็โดนทากเกาะไปคนละตัวสองตัว สร้างเสียงกรี๊ดเบาๆให้บรรยากาศครื้นเครง

จุดจอดเรือหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยถ้ำจันทน์

เดินจนถึงท่าลงแพไม้ไผ่ต้องล่องแพไปอีกประมาณ 900 เมตร จึงจะถึงทางขึ้นถ้ำปะการัง ข้างหน้าเป็นบันไดสูงราว 20 เมตรที่พาเราขึ้นสู่ปากถ้ำ สำหรับถ้ำปะการัง เป็นถ้ำหินปูนขนาดกลางที่มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว โถงถ้ำหลักทอดยาวประมาณ 80 เมตร วางตัวในแนวตะวันตกเฉียงใต้–ตะวันออกเฉียงเหนือ ปากถ้ำกว้างราว 12.2 เมตร สูง 11.5 เมตร พอเข้าไปก็จะเห็นหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายปะการังเขากวางสวยงามสะดุดตา

 ส่วนกลางถ้ำมีหินลักษณะเหมือนม่านน้ำไหลสีน้ำตาลสวยงาม และลึกเข้าไปจะเจอเสาหินที่เกิดจากหินงอกหินย้อยเชื่อมต่อกัน แม้ถ้ำจะไม่ลึกมากนัก แต่ความหนาแน่นของหินย้อยที่เรียงตัวกันเต็มพื้นที่ บางช่วงหินปูนก่อตัวกันราวกับประการังที่หนาแน่นในท้องทะเล มีอีกจุดซึ่งเป็นหินที่ตายแล้วมีลักษณะสามเหลี่ยมคล้ายกับพระเครื่อง ทิ้งร่องรอยของความเชื่อที่เอาแป้งมาโรยถูหาเลขเด็ด  ที่นี่เราได้ชมทัศนียภาพแปลกตาและน่าประทับใจ และสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

เดินป่าระวังทาก ซึมซับบรรยากาศดีๆ

ออกมาจากถ้ำปะการังแล้ว การผจญภัยยังไม่จบ เรามุ่งหน้าไปยังจุดชมวิวไฮไลท์ของเขื่อนเชี่ยวหลาน จุดแรกเป็นเหมือนหุบเขากว้างใหญ่ เมื่อเรือพาเข้ามาใกล้ๆ ได้มองรอบตัวแบบเต็มตารู้สึกว่าภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านสูงตระการตาทำให้เราตัวเล็กนิดเดียวยังมีค่างแว่นโผล่มาทักทายบนยอดไม้ไกล ๆ เพิ่มสีสันให้กับการเดินทาง ไปต่อยังจุดที่ทุกคนต้องมาให้เห็นสักครั้ง คือ เขาสามเกลอ เขาหินปูนสามยอดตั้งเรียงเคียงกันกลางผืนน้ำ กลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ บรรยากาศรอบด้านคือความอลังการของภูเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มที่ทอดยาวสุดสายตา และเบื้องล่างคือผืนน้ำสีเขียวมรกตที่สะท้อนแสงระยิบระยับ ทัศนียภาพที่อยู่ตรงหน้างดงามจนยากจะละสายตา

ล่องแพไปยังถ้ำปะการัง

เมื่อกลับมาถึงที่พัก ได้พายเรือสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติยามเย็น ให้ความสงบช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า พร้อมเก็บเกี่ยวความประทับใจไว้ในความทรงจำ เขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากรอให้เราได้มาสัมผัส และแน่นอนว่าจะต้องกลับมาเยือนอีกครั้ง

ผ่านหินงอกหินย้อยสุดงดงาม
หินงอกหินย้อย ที่มีรูปร่างคล้ายกับปะการังใต้ท้องทะเล
หุบเขาในเขื่อนเชี่ยวหลาน นั่งเรือชมวิวภูเขาหินปูนและแมกไม้
แพที่พักในเขื่อนเชี่ยวหลาน
แพที่พักในเขื่อนเชี่ยวหลาน
สันเขื่อนรัชประภา ท่ามกลางสายหมอก
หินที่ก่อตัวเป็นลักษณะคล้ายกับปะการัง 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุราษฎร์ธานี’ น่าห่วง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

สถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเริ่มเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รักษาการผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

'ผบ.ทบ.' สั่งกำลังทหารช่างเคลื่อนย้ายเข้าช่วยประชาชน จ.สุราษฎร์-ชุมพร

“ผบ.ทบ.” สั่งกำลังทหารช่างเคลื่อนย้ายจาก จ.ปัตตานี เข้าช่วยใน จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพร สมทบหน่วยทหารในพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชนหลังเกิดอุทกภัย

‘ลุงป้อมสู้ๆ’ กองเชียร์กระหึ่ม ต้อนรับ ‘ประวิตร’ ยกคณะลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี

‘บิ๊กป้อม’ควง’ชัยวุฒิ-สันติ-บิ๊กช้าง’ลงสุราษฎร์ธานี ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.แห่รับ กองเชียร์กระหึ่ม ‘ลุงป้อมสู้ๆ’ พร้อมรับปากจัดหาที่ดินทำกินให้ชาวสวนปาล์ม จี้ 13 มาตรการรับฤดูฝนป้องอุทกภัยใต้

นายกฯ ห่วงน้ำท่วมสุราษฎร์ธานี สั่งหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชน เฝ้าระวังหลายพื้นที่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชน จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับทราบรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี