
“แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์มาจากตอนเด็กๆ ชอบตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นรอบตัวอย่างเช่นเวลาที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีน้ำดอกอัญชันทั้งสีฟ้าที่ได้จากสีดอกอัญชันและเมื่อเราบีบน้ำมะนาวลงไปก็จะได้เป็นสีม่วงทันทีหรือการเกิดเสียงฟู่ๆ เวลาที่เราเปิดขวดน้ำอัดลม จากคำถามเล็กๆ เหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่พาให้ตัวเองเข้าสู่โลกของวิทยาศาสตร์ในฐานะอาจารย์และนักวิจัยเคมีวิเคราะห์อย่างสนุกและมีความสุขเพราะเชื่อว่าวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นเพียงวิชาชีพ แต่สอนให้เข้าใจถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ไม่มีหยุดนิ่งอย่างแท้จริงค่ะ”
ความในใจข้างต้น เป็นของศาสตราจารย์ ดร.วีณา เสียงเพราะ อาจารย์เคมีจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ที่ได้รับการจัดอันดับเป็น นักวิทยาศาสตร์ระดับท็อป 2% ของโลก และเชื่อว่าวิทยาศาสตร์คือการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่งและกล้าเผชิญกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งวิทยาศาสตร์ยังทำให้โลกตื่นตัวจากการค้นพบสิ่งใหม่ๆ เช่นเดียวกับงานวิจัยโดดเด่นของอาจารย์วีณาคือ การพัฒนาตัวตรวจวัดหรือเซ็นเซอร์ ที่มีความไว ราคาถูกมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในด้านสิ่งแวดล้อม อาหารและคลินิก โดยเฉพาะการพัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจวัดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังและการสลายตัวของคอลลาเจน
รศ.ดร. วีณา เล่าถึงผลงานวิจัยว่า หลักๆ คือตัวตรวจวัดที่เราพัฒนาสามารถเอาไปใช้ในการตรวจวัดสาระสำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นในด้านของสิ่งแวดล้อม อาหารและก็ทางด้านคลินิก เพราะเราเชื่อว่างานวิจัยที่ดีต้องตอบโจทย์สังคมได้จริง ใช้ได้จริง ซึ่งมีงานวิจัยชิ้นโบว์แดงที่ทำร่วมกับกลุ่มลูกศิษย์ก็คือ การนำเอากรดอะมิโนที่เรารู้จักกันทั่วไป มาใช้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตัวตรวจวัด ทำให้เราได้ตัวตรวจวัดที่มีความจำเพาะเจาะจงแล้วก็มีความไว ในการตรวจวัด มีราคาถูกกว่าการใช้ตัวตรวจวัดแบบดั้งเดิมและมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“ตัวอย่างเช่น เรานำเอาเซ็นเซอร์หรือตัวตรวจวัดที่เราพัฒนาขึ้นนี้ไปใช้ในการวินิจฉัยการถูกทำลายของ DNA ในปัสสาวะของเรา ก็จะนำไปสู่สถานการณ์ร่างกายของเราที่ต้องเผชิญกับการถูกทำลายของ DNA หรือพัฒนาวิธีการตรวจวัดวิธีใหม่สำหรับประเมินโรคมะเร็งผิวหนัง แทนที่เราจะใช้วิธีการตรวจแบบตัดชิ้นเนื้อซึ่งคนไข้จะเจ็บ ก็เปลี่ยนมาใช้วิธีนำปัสสาวะของผู้ที่มีความสงสัยว่าตนเองจะเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังหรือไม่ เอามาตรวจหาสารเคมีที่มันปล่อยหลุดออกมาในปัสสาวะ ซึ่งปริมาณสารเคมีที่ตรวจพบได้นั้นจะสามารถใช้ประเมินโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังของผู้ที่ได้รับแสงแดดเป็นระยะเวลานานหรือกลุ่มคนที่ชอบอาบแดดได้ด้วยค่ะ”
นอกจากนี้ รศ.ดร.วีณา ยังมีงานวิจัย ไฮไลท์ที่ได้รับรางวัลจาก วช. (สำนักงานวิจัยแห่งชาติ) คือ การพัฒนาระบบการตรวจวัดการสลายตัวของคอลลาเจน ซึ่งเป็นการตอบโจทย์สังคมในกลุ่มผู้สูงอายุกับปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรคกระดูกพรุนอันเนื่องมาจากการขาดคอลลาเจน ถ้าเราตรวจแบบดั้งเดิมก็จะพบว่าเราเป็นโรคนี้เมื่อกระดูกพรุนหรือเสื่อมไปแล้วประมาณ 40 % ถึงจะตรวจเจอได้ แต่หากใช้ตัวตรวจวัดที่พัฒนาขึ้นนี้ก็จะตรวจเจอในระยะเริ่มต้นที่เป็นการเตือนภัย ว่าตอนนี้เราเสี่ยงต่อการที่จะเกิดภาวะกระดูกพรุนหรือข้อเข่าเริ่มเสื่อมแล้ว ทุกเซ็นเซอร์หรือตัวตรวจวัดนี้ได้ผ่านการทดสอบกับตัวอย่างจริงแล้ว คือ ปัสสาวะของคน
ผลงานชิ้นนี้ ยังไม่ได้เผยแพร่สู่ภายนอก รศ.ดร.วีณาบอกว่า เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการขอจริยธรรมในมนุษย์เพราะเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคนจึงต้องให้ผ่านวิจัยในมนุษย์หรือจริยธรรมในมนุษย์ด้วย
“นอกจากนี้ ส่วนตัวยังชอบศึกษาการไหลของอิเล็กตรอนที่ไม่ได้บอกเพียงแค่ปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้น แต่การไหลของอิเล็กตรอนนี้จะพาเราไปสู่การหาปริมาณที่แท้จริงของสารที่เราสนใจวิเคราะห์ เช่น การที่จะได้มาซึ่งเซ็นเซอร์ทางเคมีไฟฟ้า ก็ผนวกความรู้ด้านเคมีเข้ากับความรู้ด้านนาโนเทคโนโลยีรวมถึงความรู้ด้านวัสดุศาสตร์จนได้เป็นเซ็นเซอร์หรือตัวตรวจวัดใหม่ที่ให้ผลแม่นยำ รวดเร็ว คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเหมือนกับของเดิม แต่ราคาถูกกว่าและใช้งานได้ยาวนานกว่า”
จากผลงานวิจัยมากมายที่รองศาสตราจารย์ ดร.วีณา ได้เผยแพร่จนเป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ส่งผลให้เธอได้รับการจัดอันดับโดยศาสตราจารย์ ดร.จอห์น( Prof.Dr.John P.A.Ioannldis จาก Stanford สหรัฐอเมริกา ให้ได้รับการคัดเลือกเป็น “นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก World’sTop 2% Scientists 2025” เธอกล่าวด้วยยิ้มอย่างภาคภูมิว่า

“การได้รับจัดอันดับในสาขา Analytical Chemistry ประเภท Recent Single Year เป็นรางวัลที่ภูมิใจและรู้สึกว่ายิ่งใหญ่มากค่ะ เพราะเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก แต่คิดว่าตัวเองเป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์หญิงคนหนึ่งของไทย ที่มีความสุขได้สอนวิชาเคมี ได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กๆ ลูกศิษย์ซึ่งบางคนก็เป็นครูวิทยาศาสตร์เหมือนกัน รางวัลนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้อย่างทรงพลังและไม่มีที่สิ้นสุด ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ “
ในการทำงานวิจัย รศ.ดร.วีณา กล่าวว่า เราได้ทำวิจัยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตอนเรียนปริญญาโทและปริญญาเอกที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหลังจากจบปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์ มศว ทำให้มีงานวิจัยที่เป็นประโยชน์แก่สังคม เผยแพร่สามารถใช้งานวิจัยเราเป็นงานอ้างอิงได้ ซึ่งคงทำให้ได้รับรางวัลนี้และก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์ท่านอื่นๆ อีกหลายคน มีหลายคนที่ได้ 1% ซึ่งสูงสุด ก็มีการคเลือกคนใหม่ๆ หรือเราอาจจะได้เลื่อนหรือไม่เลื่อนขึ้นไปอยู่ใน 1% หรืออาจจะอยู่หรือไม่อยู่ใน 2% นี้ก็เป็นไปได้ แต่ก็จะยังไม่หยุดพลังสร้างสรรค์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ แม้จะเป็นรางวัลปีต่อปี
“มักบอกกับลูกศิษย์ลูกหาเสมอว่า วิทยาศาสตร์คือสิ่งที่อยู่รอบตัวคนเราก็จริงค่ะ เพียงแต่เราจะต้องรู้จักมองให้ลึกแล้วก็ตั้งคำถามให้ถูก เพราะทุกความล้มเหลวคือก้าวแรกของการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ดีมีประโยชน์เพื่อสังคม นี่คือความเป็นนักวิทยาศาสตร์ในแบบของอาจารย์วีณาเองด้วย” นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ
สวธ.จับมือ มศว.พัฒนาสร้างสรรค์ผลงานต้นแบบ 5 ชุมชนจากมรดกวัฒนธรรม
5 มี.ค.2568 นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) เป็นประธานในพิธีเปิดงานเสวนาวิชาการเพื่อพัฒนาความรู้ทางวัฒนธรรมสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ โดยมีนายชุมพล พรประภา นายกสภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รศ.ดร.หทัยรัตน์ มาประณีต หัวหน้าโครงการฯ และรศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์
'ดิว' พร้อมเพื่อนโชว์งานธีสิส ขึ้นแท่นว่าที่บัณฑิตป้ายแดง
4 นักแสดง ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์, สตางค์-กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์, วิว- เบญญาภา จีนประสม, มาร์ค-ณฐริศร์ วรกรเลิศสิทธิ์ ว่าที่บัณฑิตป้ายแดงจากรั้วมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โล่งอก หลังจากที่ทุ่มเทเวลาและตั้งใจให้กับทั้ง Thesis (ธีสิส) และโปรเจกต์จบแล้ว ในที่สุดผลงานเหล่านั้นก็ออกมาเสร็จสมบูรณ์ พร้อมอวดให้แฟนๆ ได้ชื่นชมในความครีเอทสร้างสรรค์เก่งรอบด้านกันทุกคน
เติมฝันต่อไฟนักวาดการ์ตูนรุ่นใหม่
“ค่าย 7-11 ถอดรหัสนักวาดการ์ตูนในฝัน” เป็นกิจกรรมประจำปี จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 18 โดยสำนักกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมการ์ตูนไทย และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภายใต้แนวคิด “ฝันใหม่ในโลกพลิกผัน (Dream and Disruption)


