พบติดเชื้อไวรัส 1 ราย จีนสั่งปิดดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้

รายเดียวก็ไม่ได้ ทางการจีนยึดมั่นยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ก่อนถึงโอลิมปิกฤดูหนาว สั่งปิดดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้อย่างน้อย 2 วันตั้งแต่วันจันทร์ ภายหลังตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 1 รายหลังกลับจากเที่ยวสวนสนุกแห่งนี้

รายงานของเอเอฟพีและบีบีซีเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 อ้างข่าวของสื่อทางการจีนว่า สวนสนุกดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ได้รับคำสั่งให้ปิดบริการอย่างน้อย 2 วัน ในจันทร์และวันอังคาร "ตามข้อกำหนดการป้องกันและควบคุมโรคระบาด" หลังจากพบว่า มีหญิงคนหนึ่งที่มาเที่ยวสวนสนุกแห่งนี้ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเดินทางกลับถึงบ้านที่อยู่ในมณฑลติดกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ทันทีที่รู้ข่าว ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวรายใหม่เข้าสวนสนุกทันทีเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนผู้ที่อยู่ภายในแล้วถูกตรวจเชื้อไวรัสก่อนได้รับอนุญาตให้ออกจากสวนสนุก โดยนักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่ภายในต้องรอการตรวจเชื้อนานหลายชั่วโมงจนถึงช่วงค่ำของวันอาทิตย์

รัฐบาลท้องถิ่นของเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า ถึงเช้าวันจันทร์ มีนักท่องเที่ยวและพนักงานของสวนสนุกได้รับการตรวจเชื้อเกือบ 34,000 คน แต่ผลตรวจไม่พบการติดเชื้อแม้แต่รายเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับการตรวจทั้งหมดยังต้องงดการออกไปทำงานหรือไปโรงเรียนอย่างน้อย 2 วัน และต้องรับการตรวจเพิ่มเติมอีก

การปิดสวนสนุกแห่งนี้เป็นไปตามนโยบายการติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน ซึ่งประกาศว่าการกำจัดไวรัสเป็นงานท้าทายที่สุดก่อนถึงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะเปิดฉากในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจีนยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง และทำให้ประชาชนราว 6 ล้านคนอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ โดยส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ

หมี่ เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ทางการจีนจะยังคงห้ามประชาชนในชุมชนที่อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ออกจากบ้านเรือนอย่างเด็ดขาด

จีนรายงานเมื่อวันจันทร์ด้วยว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่อีก 92 คน เป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับแต่กลางเดือนกันยายน

แม้จะพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดเป็นครั้งแรกของโลกที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2562 แต่การควบคุมโรคอย่างเข้มงวดทำให้จีนมีผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 109,666 คน เสียชีวิต 4,849 คน ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกนั้นอยู่ที่เกือบ 247 ล้านคนแล้ว และเสียชีวิตเกิน 5 ล้านคน.