อนุทินเปิดงานกัญชาเมืองกาญจน์ ย้ำพืชเศรษฐกิจแนะใช้เพื่อสุขภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผัดกะเพราหมูกรอบโดยใช้กัญชาประกอบ ในระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 5 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 อำเภอพนมทวน จ.กาญจนบุรี

"อนุทิน" เปิดงานกัญชา-กัญชง "เมืองกาญจน์" โชว์ผัดกะเพรากัญชา ย้ำให้ประชาชนใช้ดูแลสุขภาพ เป็นพืชเศรษฐกิจชุมชน เผยปี 64 ธุรกิจกัญชาสุดคึก เงินสะพัดกว่า 7 พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 ที่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 อำเภอพนมทวน จ.กาญจนบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ ทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 5 (จ.ราชบุรี, เพชรบุรี, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, นครปฐม และประจวบคีรีขันธ์ ในหัวข้อ กัญชา กัญชง ความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจ มีผู้บริหารกระทรวง และข้าราชการฝ่ายปกครอง บุคลากรด้านการสาธารณสุข  อสม. ประชาชน เข้าร่วมงานจำนวนมาก

นายอนุทินกล่าวว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นขั้นเป็นตอนในการทำให้กัญชากลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ มีความโดดเด่น เรานับหนึ่งจากการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ ไปจนถึงการทำให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน และความสำเร็จล่าสุดคือ มีการแก้กฎหมายทำให้กัญชาหลุดจากการเป็นยาเสพติดให้โทษ เราได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการผลักดันนโยบายนี้

ทั้งนี้ เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลง  กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมการไว้ 2 เรื่อง คือ 1.พัฒนาองค์ความรู้การใช้กัญชาเพื่อดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้น เสริมสร้างความรู้ให้ประชาชน โดยฝึกอบรมผ่านเครือข่าย อสม.ทั่วประเทศ จัดทำเป็นคู่มือ และอบรมบุคลากรทางการแพทย์ในการใช้กัญชา เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วย ให้เป็นยาสุนไพร และ 2.พัฒนาทักษะของกลุ่มเครือข่ายธุรกิจชุมชนที่พัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากองค์ความรู้ทางสมุนไพร การเพิ่มประสิทธิผลและความปลอดภัย รวมทั้งการสนับสนุนอุตสาหกรรมยา อาหาร ในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากกัญชา ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การสกัด และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล

ขอเรียนย้ำว่า การใช้กัญชา กัญชง ต้องใช้อย่างเข้าใจ ให้เป็นไปตามเพลงที่คุณยืนยง โอภากุล แต่งไว้ ว่า "กัญชามีจารึกในประวัติศาสตร์ ว่าไทยแลนด์เป็นชาติที่ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ" มาถึงตอนนี้ เราปลดกัญชาพ้นจากรายชื่อยาเสพติดสำเร็จ เหลือแต่เพียงสารสกัด THC เกิน 0.2% ที่เป็นยาเสพติด ขณะที่ส่วนต่างๆ หลุดออกมาหมด จะให้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือนได้ จดแจ้งขอปลูกได้ แต่ถ้าจะปลูกใช้ในเชิงอุตสาหกรรมต้องขออนุญาต ความชัดเจนจะเกิดขึ้นหลังบังคับใช้ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ซึ่งขณะนี้ พิจารณาอยู่ในสภา กฎหมายที่ได้เสนอเข้าไป เกิดจากความร่วมมือของผู้แทนประชาชนจากทุกพรรคการเมือง ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน เมื่อกฎหมายออกมา ขอให้ใช้กัญชาให้เป็นคุณ อย่าใช้ให้เป็นโทษ เราคบแต่เรื่องดี ส่วนเรื่องไม่ดี ต้องไม่คบ  ต้องไม่ยุ่ง

"ขอเรียนเน้นย้ำว่า กัญชา กัญชง มีประโยชน์มาก สามารถนำมาใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ เรากำลังเดินหน้าให้คนไทยสามารถปลูกกัญชาเพื่อใช้รักษาโรคได้เช่นเดียวกับพืชสมุนไพรตัวอื่น แต่จะต้องมีกระบวนการควบคุม ที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา เพื่อให้มีกฎหมายมาควบคุมเฉพาะ ประชาชนที่ต้องการปลูก เพื่อใช้ในครัวเรือน ไม่ต้องขออนุญาตแบบแต่ก่อน เปลี่ยนเป็นมาจดแจ้งให้รัฐทราบ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสนธิสัญญาระหว่างประเทศ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศกิจกรรมภายในงาน นอกเหนือจากการประชุมวิชาการแล้ว ยังมีนิทรรศการ ตลาดนัดความรู้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีผลงานโดดเด่นมาร่วมจัดแสดงให้ประชาชนได้เห็น สัมผัส  ชิมและลงมือทำ นายอนุทินได้เดินชมบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกัญชง นอกจากนั้นยังได้ร่วมประกอบอาหารที่ใช้กัญชาเป็นวัตถุดิบ เช่น ผัดกะเพราหมูกรอบ, ลาวากัญชา (ไส้กล้วยหอมใบกัญชาแห้ง กับไส้มันเทศกัญชาสด) ท่ามกลางความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับการดำเนินกิจกรรมเรื่องการพัฒนาการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ ในเขตสุขภาพที่ 5 มีการดำเนินการครอบคลุมทุกมิติ ในด้านต้นน้ำ มีพื้นที่การปลูกที่กำลังดำเนินการมากกว่า 3,000 ไร่ ครอบคลุมทั้ง 8 จังหวัด และยังมีกัญชาพันธุ์พื้นถิ่น  ได้แก่กัญชาพันธุ์ตะนาวศรีอีกด้วย ในส่วนกลางน้ำ มีโรงงานมาตรฐาน GMP/WHO ถึง 3 แห่งที่พร้อมกำลังการผลิตตอบสนองต่อการรักษาตามมาตรฐาน ได้แก่ โรงพยาบาลดอนตูม จังหวัดนครปฐม, โรงพยาบาลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี อีกทั้งในส่วนของปลายน้ำ ทั้งด้านการสาธารณสุข ที่มีโรงพยาบาลราชบุรีนำร่องการดำเนินงานกัญชาในผู้ป่วย Palliative Care ทางการแพทย์แผนไทย รวมทั้งด้านการเศรษฐกิจที่ผลักดันสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตรสมุนไพร และผลิตภัณฑ์กัญชาจากชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนด้วยกัญชาเสรีทางการแพทย์

ปัจจุบัน จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข มีผู้ป่วยได้รับยากัญชา มากกว่า 240,000 ราย เป็นยาแผนไทย 85% แผนปัจจุบัน 15% รวมถึงมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูงกว่า 7 พันล้านบาท และเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน เป็นการเปิดโอกาสให้สามารถนำพืชกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และในครัวเรือนได้มากขึ้น โดยไม่ต้องขออนุญาต เปลี่ยนเป็นการจดแจ้งให้รัฐทราบ ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชากว่า 400 แห่ง กัญชงกว่า 1,800 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตและมีผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง ออกสู่ตลาดอย่างกว้างขวาง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง