"ในหลวง" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายทหาร-นายตำรวจชั้นนายพล เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ

"ในหลวง" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายทหาร-นายตำรวจชั้นนายพล เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ ทรงให้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต เที่ยงธรรม รอบคอบ ทุ่มเท "อนุทิน" กำชับ ส.ส.ภูมิใจไทยร่วมงานมีตติ้งสามฝ่าย ครม.-สภา-ส.ว. 12 เม.ย. ทำเนียบฯ "อุ๊งอิ๊ง" เอฟเฟกต์ยังไม่จบ พรรคสุวัจน์จมูกไวแบะท่าพร้อมจับมือเพื่อไทย "สุรนันทน์" วิ่งตีนขวิด ซบสี่กุมาร ยกก้น "สมคิด" นั่งนายกฯ 2 ส.ส.อีสานใต้เศรษฐกิจไทยโผล่ใกล้วงประชุม ภท.

 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. เวลา 19.22 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำนายทหารชั้นนายพล และนายตำรวจชั้นนายพล จำนวน 1,040 นาย ที่ได้รับพระราชทานยศ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในโอกาสนี้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ ร่วมเข้าเฝ้าฯ ด้วย

ในการนี้ พระราชทานพระบรมราโชวาท ความตอนหนึ่งว่า “การถวายสัตย์ปฏิญาณตนนี้เป็นทั้งการประกาศความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นทั้งการเตือนใจให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบ ซึ่งย่อมมีมากขึ้น ในฐานะที่ทุกท่านได้รับยศสูงขึ้น เป็นนายทหารและนายตำรวจชั้นนายพล ท่านทั้งหลายเมื่อให้คำสัตย์ปฏิญาณไว้แล้วอย่างเข้มแข็ง จึงจำเป็นต้องรักษาไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต เที่ยงธรรม ระมัดระวัง รอบคอบ และทุ่มเทเสียสละอย่างสูงสุด ถ้าท่านปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยดีสมกับความรับผิดชอบที่มีแล้ว ผลงานของท่านก็จะอำนวยประโยชน์แก่ประเทศชาติโดยตรง และทุกท่านก็จะภูมิใจได้เต็มที่ทั้งในการรักษาหน้าที่และการถวายคำสัตย์ปฏิญาณ”

วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ปรารภในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ให้มีการเชิญสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาร่วมทำบุญตักบาตรและรดน้ำดำหัวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์วันที่ 12 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยฝากหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปเชิญมาร่วมงานนั้น

มีรายงานว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานไปยัง ส.ว.แต่อย่างใด แต่ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น มีบางพรรคได้แจ้งต่อ ส.ส.แล้ว อาทิ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ได้แจ้งต่อ ส.ส.ระหว่างการประชุมพรรคในช่วงเย็นวันที่ 22 มี.ค. ว่าหากใครสะดวกก็ให้มาร่วมงานในวันดังกล่าว อีกทั้งยังแจ้งว่า นายกฯ ระบุว่าถึงอย่างไรก็ต้องทำงานกันอีกปีกว่า  

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า  ขณะนี้ทางวิปวุฒิสภายังไม่ได้รับการประสานงานแต่อย่างใด หรือถ้ามีการจัดงานจริง ก็คาดว่าน่าจะเป็นการทำบุญตักบาตรตามประเพณีเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทยมากกว่า

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเช่นกันว่า ส.ส.หลายคนมีความต้องการอยู่แล้ว เพราะหลายคนคงรู้สึกดีใจที่ได้ใกล้ชิดนายกฯ มีอะไรจะได้เอ่ยได้บอกได้ว่าในพื้นที่ต้องการอะไร

เมื่อถามถึงงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปจะจัดขึ้นเมื่อใด นายสุชาติ กล่าวว่า งานเลี้ยงหรืองานกินข้าว ปัญหาของประเทศของประชาชนมันหนักมากกว่า การกินข้าวกันหลายๆ คนมันปิดไม่ได้ เป็นไปได้ที่จะคุยกันบ้างอะไรกันบ้าง ไม่ได้กินเพื่อล็อบบี้อะไรกัน มันไม่ใช่ การกินข้าว อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาหลายพรรคไม่ได้เจอกัน ก็มาคุยกันบ้าง สิ่งสำคัญคือต้องทำเพื่อประชาชน การที่จะเลือกตั้งใครจะเป็นรัฐบาลหรือนายกฯ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องตัดสินใจว่าใครชัดเจน ใครคือของจริง ใครจับต้องได้ ใครจริงใจ และใครที่รักประเทศชาติที่สุด

ด้านความเคลื่อนไหวการเมืองอื่นๆ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวหลังถูกถามถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค พปชร. ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ จะมีการปรับโครงสร้างตัวบุคคลอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เพิ่มเติมบุคคลเท่านั้น

พอมีการถามว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เซอร์ไพรส์อะไร เซอร์ไพรส์ที่ผมล่ะสิ เมื่อถามย้ำว่าจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมไปร่วมในการประชุมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนว่า ไปได้หรือ ไปไม่ได้ ไปร่วมในพรรคไม่ได้เลย คนอื่นไปไม่ได้ ผิดกฎหมาย

สำหรับการเปิดประชุมสภาในเดือนพ.ค.นี้ ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ  พรรค พปชร.เตรียมความพร้อมอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ไม่ต้องห่วง เมื่อถามย้ำว่าต้องมีการเช็กเสียง ส.ส.กันไว้ตั้งแต่ต้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องเช็ก ผ่านอยู่แล้ว ส่วนกรณีพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่เป็นไร และเป็นเรื่องของตนที่จะต้องคุย

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบ่นเรื่องการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลที่ไม่ได้รับการสื่อสารถึงประชาชน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นายกฯ ก็บ่นทุกครั้งว่ารัฐบาลทำตั้งเยอะแยะ และให้ทุกหน่วยงานได้ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้กับประชาชนแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้ผู้สื่อข่าวรู้

เมื่อถามว่า ในส่วนของรองนายกฯ จะปรับการทำงานอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า “ผมทำดีหรือยัง ถ้าไม่ดีก็มาไล่ผมออก”

2ส.ส.ศท.โผล่ใกล้วงถก ภท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคภูมิใจไทยช่วงเย็นที่โรงแรมชื่อดังแถวซอยรางน้ำ ปรากฏว่ามีคนพบเห็น 2 ส.ส.พิษณุโลกของพรรคพลังประชารัฐอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวใกล้ๆ กับที่ประชุมของพรรค ภท. รวมถึงยังเห็น 2 ส.ส.อีสานใต้ของพรรคเศรษฐกิจไทยซึ่งเพิ่งจะจัดประชุมใหญ่พรรคไปวันที่ 18 มี.ค.อยู่บริเวณนั้นด้วยเช่นกัน คือนายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี เขต 6 และนายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 ทำให้มีการจับตามองกันว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส.เหล่านี้จะย้ายมาอยู่กับ ภท.หรือไม่ เพราะ ภท.มีฐานเสียงสำคัญอยู่ที่จังหวัดในโซนภาคอีสานใต้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มี ส.ส.ในภาคอีสานที่ถูกไล่ออกจากพรรคพลังประชารัฐย้ายมาอยู่กับพรรค ภท.แล้ว 2 คนคือ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 

ขณะที่ยังคงมีควันหลงทางการเมือง กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง เข้าเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และแกนนำพลังประชารัฐ ให้ความเห็นว่า ก็ดีประชาชนจะได้มีทางเลือกหลายทาง เป็นสีสันทางการเมืองคิดว่าก็โอเค แต่ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชน เมื่อถามว่าเป็นการเปิดตัวเร็วไปหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า เป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจ แต่ไม่ได้มองอย่างนั้น มองว่าวันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาอะไรให้ประชาชนบ้าง

ถามว่ามองว่า น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าใครๆ ก็เป็นได้ถ้าพร้อมที่จะเสนอตัว และคนที่เสนอตัวตนคิดว่าเขาคงคิดว่าพร้อมแล้ว สุดท้ายอยู่ที่เสียงของประชาชนจะมองว่าที่ผ่านมาใครเป็นอย่างไรมากกว่า

ส่วนที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าชะตากรรมจะเหมือนนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วงในส่วนของครอบครัวของเขา ตนว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องของครอบครัว พยายามพูดตลอด การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนที่ใช้ชีวิตร่วมอยู่กับเราในทางการเมือง เราทำการเมืองเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อครอบครัว

ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวประเด็นนี้ว่า พรรคเพื่อไทยได้อุ๊งอิ๊งมายืนในตำแหน่งนี้มองว่าก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะมีคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทานการเมืองก็เป็นสิ่งที่ดี และดูคุณอุ๊งอิ๊งก็เป็นคนรุ่นใหม่ มีคุณสมบัติที่ดีและอีกอันก็คืออันนี้ผ่านการคัดสรรจากพรรคเพื่อไทยมาแล้ว คงควบคุมได้ ส่วนมองดูที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่ทราบว่าทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ประกาศ

"ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยได้คุณอุ๊งอิ๊งหัวหน้าครอบครัว พรรคชาติพัฒนาจะจับมือพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น คิดว่าปกติพรรคชาติพัฒนาเราเป็นพรรคที่ไม่เคยมีปัญหากับใครอยู่แล้ว เราก็ทำงานของเรา และไม่เคยมีปัญหากับพรรคไหนๆ ทั้งนั้น ส่วนการมองสถานการณ์การเมือง ณ ตอนนี้ ยังนิ่งอยู่ รัฐบาลเองเสียงก็ยังมากอยู่" หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาให้ความเห็น

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ภาพข่าว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โค้งคำนับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าอันที่จริงหากอยู่ในที่ประชุมจะเห็นภาพสมบูรณ์กว่านั้น คือต่างฝ่ายต่างยกมือไหว้ให้เกียรติกัน วันนั้น น.ส.แพทองธารยกมือไหว้ นพ.ชลน่านด้วยความนอบน้อม ส่วนภาพบนเวทีที่ นพ.ชลน่านโค้งคำนับ น.ส.แพทองธารนั้น เข้าใจว่าเป็นเรื่องของบริบทและบรรยากาศมากกว่า ไม่ได้คำนึงถึงตำแหน่งของตัวเอง แต่คำนึงถึงการส่งมอบเนื้อหาให้คนต่อไป เป็นการโค้งส่งเนื้อหาให้อีกคนมากกว่า ก็โค้งคำนับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เพื่อส่งต่อเนื้อหาให้ เชื่อว่า นพ.ชลน่านก็รู้สึกแบบนั้นเช่นเดียวกัน

 “อยากให้ดูการทำงานของ นพ.ชลน่านมากกว่า ซึ่งเป็นคนเชื่อมั่นในการทำงาน ทำงานเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ได้คิดว่าจะต้องอยู่ภายใต้อาณัติของใคร แต่การให้เกียรติกันและกันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีงามของคนไทยไม่ใช่หรือ” นายสุทิน กล่าว

'อดีตเลขาฯ ปู' เกาะสี่กุมาร

วันเดียวกันนี้ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟซบุ๊ก Suranand Vejjajiva โดยเปลี่ยนภาพปกพร้อมติด #ทีมสมคิด ว่าได้พูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย มาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าไปร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย แต่ช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ได้ตัดสินใจว่าน่าจะถึงเวลาที่จะต้องเข้าไปช่วยงานอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาที่หันมาทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้ทำการเมืองกับใคร เมื่อปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง และการที่เป็นผู้ประกอบการทำให้เห็นปัญหามากมาย จึงคิดว่าหากสามารถกลับเข้าไปช่วยได้ ทั้งการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจในบางเรื่อง หรือเข้าไปช่วยงานในทางการเมืองบางเรื่อง พรรคสร้างอนาคตไทยจึงน่าเป็นพรรคที่น่าสนใจ

นายสุรนันทน์กล่าวว่า รู้จักกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มากว่า 30 ปี เมื่อนายสมคิดชักชวน จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับทางพรรคสร้างอนาคตไทย ส่วนที่สื่อออกไป ก็เป็นแฮชแท็กธรรมดาง่ายๆ

"แม้ว่านายสมคิดจะยังไม่ประกาศตัวว่าจะกลับมาทำงานการเมืองหรือไม่ แต่ในใจของผม คนที่เหมาะสมที่สุดที่น่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งคือนายสมคิด เพราะโจทย์ของปีนี้และปีหน้าที่ชัดเจนคือการวางแผนเรื่องเศรษฐกิจ นายสมคิดเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ผ่านมาทั้งรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงแค่นายสมคิดยังไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง หากมีโอกาสที่นายสมคิดจะได้เป็นเบอร์หนึ่ง หรือเป็นแคนดิเดตนายกฯ เราคิดว่านายสมคิดจะมีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ปัญหาและแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายสมคิด" นายสุรนันทน์กล่าว

นายสุรนันทน์กล่าวว่า ขณะนี้เข้ามาช่วยดูแลนโยบายของพรรคไปก่อน ยังไม่ได้มีตำแหน่งที่ชัดเจน ต้องรอการประชุมพรรคในช่วงต้นเดือนเม.ย.นี้ ได้บอกกับนายอุตตมอย่างชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เพราะอยากทำเพียงแบ่งปันประสบการณ์ให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่มากกว่า

เมื่อถามว่า นายสมคิดจะอยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทยใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ตอบว่า หวังเช่นนั้น เพราะยังไม่รู้อนาคตว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาเมื่อใด ขณะนี้นายสมคิดเป็นคนหนึ่งที่ช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรค และช่วยแนะนำการชักชวนคนที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ เข้ามาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย หวังว่านาทีสุดท้ายนายสมคิดจะตัดสินใจเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถ้ามีโอกาสอยู่ในพรรคสร้างอนาคตไทยจะยกมือให้นายสมคิดเป็นแคนดิเดตนายกฯ

'ลูกเสนาะ' ลุ้นกกต.รับรอง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สัปดาห์หน้า ทางสำนักงาน กกต.จะเสนอเรื่องให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะประกาศรับรองให้นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ได้รับเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็น ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ เนื่องจากในวันที่ 30 มี.ค.นี้ จะครบกำหนดระยะเวลา 60 วันนับแต่วันเลือกตั้งคือวันที่ 30 ม.ค. ที่กฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ นายสุรชาติถูกนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบกรณีที่ขึ้นป้ายหาเสียงว่า "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน" เข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73(5) ที่ระบุว่า หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.จะพิจารณาสำนวนคำร้องดังกล่าวหากเห็นว่ายังต้องสืบสวนไต่สวนเพิ่มเติม จะต้องประกาศรับรองให้นายสุรชาติเป็น ส.ส.ไปก่อน เนื่องจากครบระยะเวลา 60 วัน หรือที่ประชุมอาจยกคำร้อง หากเห็นว่าคำร้องที่ยื่นมานั้นไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ผิดตามข้อกฎหมายการเลือกตั้ง

ด้านประเด็นกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. จงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อมูลที่ควรแจ้งให้ทราบ โดย น.ส.ปารีณาให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ว่า ทราบจากที่เป็นข่าว โดยกำลังหารือกับทนายความ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปลื้มปีติ ในหลวง-พระราชินี ทรงประกอบพิธีเจิมเรือหลวงช้าง เรือรบลำใหม่ของไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเจิมเรือหลวงช้าง ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือพลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เฝ้า ฯ รับเสด็จ