ลุ้นเคาะ‘โซนนิ่งสงกรานต์’ แนะคัดกรองก่อนเดินทาง

ไทยติดเชื้อใหม่ 2.7 หมื่นคน ดับ 82 ราย ศบค.แนะคัดกรองตัวเอง-คนรอบข้างก่อนเดินทางเทศกาล ปรับโหมดรายงานสัปดาห์ละครั้ง สธ.ยังไม่เคาะโซนนิ่งเล่นน้ำสงกรานต์ ขอดูมาตรการผู้ประกอบการก่อน แนะยื่น ศปก.ศบค.พิจารณา เซ็นซื้อยาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นคอร์สแล้ว คาดถึงไทยต้นเม.ย.

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เวลา 12.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,024 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 26,924 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 26,740 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 184 ราย, มาจากเรือนจำ 54 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 46 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,450,980 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 23,721 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,186,052 ราย อยู่ระหว่างรักษา 240,349 ราย อาการหนัก 1,553 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 583 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 82 ราย เป็นชาย 46 ราย หญิง 36 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 60 ราย มีโรคเรื้อรัง 18 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 24,579 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ประกอบด้วย กทม. 3,722 ราย, นครศรีธรรมราช 1,746 ราย, ชลบุรี 1,341 ราย,  สมุทรปราการ 920 ราย, สงขลา 861 ราย, สมุทรสาคร 849 ราย, ร้อยเอ็ด 730 ราย, ระยอง 593 ราย, ราชบุรี 592 ราย  และฉะเชิงเทรา 573 ราย ทั้งนี้ มีผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,553 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 20 ราย อัตราครองเตียงของผู้ป่วยปอดอักเสบอยู่ที่ร้อยละ 26.4 อย่างไรก็ตาม มีความกังวลในกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข ทั้งจากโรงพยาบาลศิริราช, กรุงเทพคริสเตียน และพระราม 9 ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาคลัสเตอร์โรงเรียนและโรงงานเริ่มน้อยลง เนื่องจากผู้ปกครองและผู้ประกอบการเข้าใจในมาตรการของสาธารณสุข แต่ขณะที่คลัสเตอร์พิธีกรรมทางศาสนายังมีอยู่ต่อเนื่อง คือ คลัสเตอร์งานบวชที่ จ.มหาสารคาม, คลัสเตอร์งานบุญแจกข้าวที่ จ.กาฬสินธุ์ และคลัสเตอร์งานแต่งที่ จ.อุดรธานี 

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการหารือหลักการการอยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยกระทรวงวัฒนธรรมเน้นย้ำว่า สงกรานต์ปีนี้สามารถจัดได้ และสามารถเดินทางข้ามพื้นที่ไปพบปะสังสรรค์และพบญาติผู้ใหญ่ได้ เพื่อขับเคลื่อนเดินหน้าเศรษฐกิจและดำรงวัฒนธรรมประเพณีได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยทางสาธารณสุข ห้ามการละเล่นใกล้ชิด งดสาดน้ำ ประแป้ง ปาร์ตี้โฟม และไม่จำหน่ายแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ พื้นที่จัดงาน และท้องถนน นอกจากนี้ ขอให้เตรียมหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจ ATK ไม่ว่าจะนั่งเครื่องบินหรือการขนส่งสาธารณะอื่นๆ และระหว่างเดินทางขอให้ระมัดระวังเพื่อนร่วมทาง แม้จะเป็นรถส่วนตัว ขอให้ตรวจสอบว่าผู้ร่วมเดินทางมีประวัติเสี่ยงหรือไม่ ต้องคัดกรองความเสี่ยงด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกันขอให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันในพื้นที่ปิดที่ใช้ระยะเวลานาน สุดท้ายเพื่อป้องกันให้ผู้สูงอายุปลอดภัย ก่อนจะถึงเทศกาลสงกรานต์ขอให้ลูกหลานพาไปฉีดวัคซีน รวมถึงกลุ่มโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวด้วยว่า วันนี้มาปฏิบัติหน้าที่แทน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ที่อยู่ระหว่างกักตัว รอผลตรวจ ATK ที่คาดว่าจะเป็นลบ โดยขอส่งกำลังใจให้ นพ.ทวีศิลป์ด้วย นอกจากนี้การรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขจะปรับมาเป็นรายงานทุก 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์ โดยจะสรุปสถานการณ์โลกมารายงานให้ทราบ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีกลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการถนนคนเดิน เช่น ถนนข้าวสาร ถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เรียกร้องให้ศูนย์ ศบค. พิจารณาผ่อนปรนพื้นที่จัดกิจกรรมให้เล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ เหมือนที่เคยทำได้ ว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอเรื่องให้ที่ประชุม ศบค.พิจารณาให้เล่นน้ำได้ตามประเพณี ซึ่งมติที่ประชุมของ ศบค. วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมาชัดเจนแล้ว ส่วนหน่วยงานอื่นหากจะขอยกเว้น ต้องเสนอเรื่องถึงคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เช่นเดียวกับ กทม. จากนั้นให้ส่งเรื่องถึงศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (ศปก.ศบค.) เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอที่ประชุม ศบค.ต่อไป ขณะนี้ยังมีเวลาเสนอเรื่องให้พิจารณาตามกลไกกระบวนการ

เมื่อถามว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเปิดให้เล่นน้ำสงกรานต์ได้ตามปกติหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดที่กลุ่มผู้ประกอบการจะเสนอมาให้พิจารณาว่าเป็นอย่างไร แต่เวลานี้ยังไม่เห็นรูปแบบวิธีการจัดการของกลุ่มผู้ประกอบการ และหากมีมาตรการชัดเจนแล้วให้เสนอมาที่ ศปก.ศบค.พิจารณา

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวระหว่างลงนามในสัญญาการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำยาที่จัดซื้อ จำนวน 50,000 คอร์ส มาใช้กับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มอาการรุนแรง เนื่องจากผลและประสิทธิภาพของยาจากการศึกษาวิจัยในผู้ติดเชื้อ 1,379 คน ช่วยลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาล (รพ.) และเสียชีวิตลงได้ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการ และพบว่าคนที่ได้รับยาแพกซ์โลวิด นอน รพ.ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต โดยการให้ยาผู้ป่วย 1 คน ต้องได้รับยาแพกซ์โลวิด 3 เม็ด ร่วมกับยาเนอร์มาเทรลเวียร์ 2 เม็ด เช้า/เย็น และยาริโทนาเวียร์ 2 เม็ด รวมวันละ 6 เม็ด รับประทานติดต่อกัน 5 วัน รวม 30 เม็ด ทั้งนี้คาดว่ายาจะมาถึงไทยต้นเม.ย.นี้ จากนั้นตั้งเป้ากระจายยาก่อนเม.ย. เพื่อให้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์ พร้อมย้ำประชาชนที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ให้มารับก่อน เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของโรค

สำหรับเกณฑ์การจ่ายยาแพกซ์โลวิด เหมือนกับโมลนูพิราเวียร์คือ ให้กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง คนอายุ 60 ปีขึ้นไป  มีโรคประจำตัว ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน แต่สำหรับที่ไม่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาการเล็กน้อย ได้รับวัคซีนครบ ก็จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์หรือฟ้าทะลายโจรแทน ส่วนการกระจายยาจะใช้แนวทางเดียวกันกับยาโมลนูพิราเวียร์ ให้ส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ จากนั้นในเขตกระจายยาไปในผู้เชี่ยวชาญ และในวันที่ 25 มี.ค. จะมีการหารือและติดตามการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่ จ.เชียงใหม่ นายวร​วิทย์​ ​ชัย​สวัสดิ์​ ​รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า​ ขณะนี้ได้เน้นย้ำทุกอำเภอลงพื้นที่ให้วัคซีน​ป้องกัน​เข็มที่​ 3​ แก่ประชาชน​ตามเป้าหมายก่อนสงกรานต์​นี้ ตามโครงการ “ถกแขนเสื้อ เตื้อที่ 3 เตรียมฮับลูกหลานปิ๊กบ้านปี๋ใหม่เมือง” ตอนนี้รับไปเพียง​ 583,780 คน​ หรือ​ 70% ของเป้าหมาย​ อีก 30% ต้องให้ครอบคลุม​ในสิ้นเดือน​นี้​  ขณะที่พบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่เพิ่ม 370 ราย และผล ATK 3,585 ราย รวม​ 3,955 ราย เป็นยอดสูงที่สุดอีกครั้ง​

ทางด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลารายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี 861 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ยังไม่รวมผล ATK อีกประมาณวันละ 5,000-6,000 ราย ซึ่งมียอดสะสมกว่า 44,000 ราย และที่กำลังรักษากว่า 42,000 ราย ช่วงที่เครือข่ายสาธารณสุขยังเป็นห่วงคือช่วงหลังวันที่ 13 เม.ย. ที่มีการพบปะของผู้คนจำนวนมาก และประเทศมาเลเซียเปิดด่านพรมแดน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น จะเป็นช่วงที่อาจจะมีการแพร่ระบาดของโควิด

 ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในช่วงสงกรานต์ได้ประกาศขอให้ทุกพื้นที่งดกิจกรรมการสาดน้ำ งานคอนเสิร์ต รถแห่ที่จะก่อให้เกิดงานร่วมตัวกัน แต่สามารถจัดกิจกรรมได้ตามประเพณีเท่านั้น เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด ซึ่งจะต้องระวังในระดับสูงสุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง