ปชป.ขอโทษสังคม ‘จุรินทร์’รับผิดชอบปมฉาว‘ปริญญ์’/นายกฯให้กำลังใจ

"จุรินทร์” เสียงสั่นกราบขอโทษ ปชช. ปมฉาว “ปริญญ์” ทำพรรคเสียหาย รับเป็นคนพาเข้า ปชป. ขอรับผิดชอบลาออก 2 ประธานบอร์ดด้านเพศ    พร้อมตั้ง กก. 2 ชุดวางมาตรการป้องกัน-สอบไลน์หลุดเรื่องใต้เตียงในพรรค "ดร.เอ้"     เชื่อสังคมแยกแยะได้ไม่กระทบเลือกตั้งผู้ว่าฯ "บิ๊กตู่" ให้กำลังใจพรรคร่วมเผชิญปัญหา "ตร." เผยมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 14 ราย พบพฤติการณ์ล่อลวงก่อเหตุคล้ายกัน ผงะ! มีบางรายบอกถูกวางยาก่อนข่มขืน เร่งรวบรวมหลักฐานขอหมายจับ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วันที่ 19 เม.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป., นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีผู้เสียหายหลายรายกล่าวหานายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ

นายจุรินทร์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกราบขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีที่เกี่ยวข้องมาถึงบุคลากรของพรรค ในฐานะหัวหน้าพรรค ขอเรียนว่าตนมีส่วนสำคัญนำนายปริญญ์เข้าพรรค แม้กระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และต้องได้ลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่ก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าหนีไม่พ้นต้องรับผิดชอบ และหนีไม่พ้นต้องร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

"สิ่งที่เป็นจุดยืนของพรรค ขอย้ำพรรคมีจุดยืนชัดเจนต่อต้านคุกคามทางเพศ มีความชัดเจนในการต่อต้านการใช้ความรุนแรงเด็ก สตรี และครอบครัว ต่อต้านการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศ พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง ขณะเดียวกันขอเรียนให้ทราบเพื่อความสบายใจ พรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่ากระบวนการจะทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง ที่สำคัญพรรคจะไม่เพิกเฉยดูดายต่อสถานการณ์นี้" นายจุรินทร์กล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า สิ่งที่จะดำเนินการคือพรรคได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น แม้นายปริญญ์จะลาออกไปแล้วก็ตาม โดยคณะกรรมการจะตรวจสอบข้อเท็จจริงกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาและเยียวยา รวมถึงมาตรการป้องกันด้วย โดยตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้ามาทำหน้าที่ในพรรค นอกเหนือที่กำหนดไว้ 21 ข้อ โดยจะมอบหมายให้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคทำหน้าที่เป็นประธาน นอกจากนั้นจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโพสต์ในไลน์ของพรรค โดยมอบให้นายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการบริหารพรรครับผิดชอบ

 “ในฐานะที่ผมดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ เพื่อป้องกันเกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ผมจะขอลาออกจากประธานคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดต่อไป และต้องขออภัยท่านนายกฯ ด้วยที่ยังไม่ได้แจ้งให้ท่านทราบก่อนแถลงข่าว" หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

ถามว่า ตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรค พูดได้หรือไม่ว่ากรณีนายปริญญ์ทำให้พรรคได้รับผลกระทบมาก นายจุรินทร์กล่าวว่า ขณะที่ตนดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต้องถือว่าทำให้พรรคได้รับผลกระทบและส่งผลกระทบความเสียหายมากทีเดียว ส่วนเรื่องการโพสต์เรื่องชู้สาวในกลุ่มไลน์ขอให้คณะกรรมการชุดของนายนราพัฒน์ทำหน้าที่ก่อน

ซักว่าทำไมถึงเพิ่งออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวตอนนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลายครั้งแล้วตั้งแต่ต้น แต่อาจจะไม่เป็นประเด็นใหญ่ และตนอยู่ในช่วงไปปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัด แต่ก็ได้มอบหมายบุคลากรของพรรคออกมาแถลงข่าวหลายครั้งก่อนหน้านี้

'ปริญญ์'บทเรียน ปชป.

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายศุภชัย พานิชภักดิ์ บิดาของนายปริญญ์บ้างหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ไม่ได้คุย เพราะท่านไม่สะดวกรับโทรศัพท์ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่านายศุภชัยไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้อง และไม่ใช่คนที่จะไปใช้อำนาจหรืออิทธิพลแทรกแซงใดๆ

พอถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้ผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นไปโดยลำบากหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ไม่สามารถตอบได้ แต่ตราบใดที่เป็นหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ต้องผลักดันให้พรรคเดินต่อไปข้างหน้า และเมื่อมีอุปสรรคก็ต้องแก้ปัญหาเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

"เราก็จะต้องทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ และหวังว่าในอนาคตจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากคนไทยทั้งประเทศ แต่สถานการณ์นี้อาจจะทำให้พรรคได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผมที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ โดยจะขับเคลื่อนพรรคไปในทิศทางที่ดีที่สุด" หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

ถามต่อว่า มีกระแสสังคมเรียกร้องให้ คณะกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราได้ไตร่ตรอง 2 แนวทาง แต่สุดท้ายก็มี 2 มุม หากอยู่ๆ ก็ลาออกแล้วทิ้งปัญหาไว้ ก็จะเป็นการหนีปัญหา นั่นคือความไม่รับผิดชอบ เราต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วง ไม่ใช่ทิ้งปัญหาให้คนรุ่นหลัง

"ขอเรียนว่าผมมีส่วนสำคัญในการพานายปริญญ์เข้ามาในพรรค ซึ่งต้องรับผิดชอบและเป็นบทเรียนในการคัดคนเข้าพรรคในอนาคตควรจะแก้ไขอย่างไรบ้าง นอกเหนือจาก 21 ข้อตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งต่อไปพรรคต้องเข้มงวดมากขึ้นในการตรวจสอบคุณสมบัติ และคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรค เพราะพรรคเป็นเอกภาพการถกเถียงกันก็เป็นเรื่องปกติ" นายจุรินทร์กล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. เป็นหน้าที่รองผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ของพรรค ตัวผู้สมัคร และทีมงาน ในการดำเนินการ ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในพรรคจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ ซึ่งขณะนี้รองผู้อำนวยการเลือกตั้งและตัวผู้สมัคร ทำงานอย่างเข้มแข็ง ส่วนผลจะออกมาอย่างไร มั่นใจว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนผลโพลที่ออกมานั้น ก็มีทั้งบวกและลบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

ถามว่า คิดว่าเก้าอี้หัวหน้าพรรคสั่นคลอนเพราะเรื่องนายปริญญ์หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า หลักของตนคือเน้นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเมื่อได้ทำหน้าที่ ส่วนเก้าอี้สั่นคลอนหรือไม่ ไม่ขอตอบ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง แต่ตนไม่ขอให้ความเห็นกับคำถามนี้

ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรค ปชป. กล่าวถึงผลกระทบการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ต่อกรณีนายปริญญ์ว่า ท้ายที่สุดประชาชนจะแยกแยะได้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนและทีมงานที่กำลังเดินหน้าหาเสียงอยู่ โดยส่วนตัวรู้สึกตกใจและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือเดินหน้าทำงานและขยันให้มากขึ้น ซึ่งการไม่มีผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ส่งผลกระทบต่อการหาเสียง เพราะได้วางแผนงานล่วงหน้าไว้หมดแล้ว

บิ๊กตู่ให้กำลังใจทุกพรรค

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลกำลังเผชิญปัญหาถาโถม โดยเฉพาะพรรค ปชป.ว่า ตนได้ให้กำลังใจทุกพรรค ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละพรรค เพราะมีคนจำนวนมาก ก็เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคที่ต้องแก้ปัญหาภายในพรรคให้ได้ ซึ่งเป็นกำลังใจให้กับทุกพรรค

ถามถึงกรณีนายจุรินทร์แถลงลาออกจาก 2 ตำแหน่งคือ ตำแหน่งประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ เพื่อรับผิดชอบกรณีนายปริญญ์นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ตนจะมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีดูแลแทน

วันเดียวกัน พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์ทั้งคดีอนาจารและข่มขืนว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย. มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 9 ราย ซึ่งรวมทั้งสิ้นในคดีนี้มีผู้เสียหายแล้ว 14 ราย พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลการสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละคดีมาทำการแยกแยะ ว่าผู้เสียหายรายใดที่เป็นผู้เสียหาย หรือผู้เสียหายรายใดเป็นพยาน ก่อนนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะทำงานในคดีดังกล่าว เพื่อพิจารณาแนวทางการสืบสวนสอบสวนทางคดี

พ.ต.อ.นิมิตรกล่าวว่า หากมีประเด็นใดที่พนักงานสอบสวนยังสงสัย ก็จะมีความจำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายแต่ละคนนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ ก็จะนำไปตรวจสอบว่าสามารถใช้เป็นหลักฐานทางคดีได้หรือไม่ หรืออาจจะต้องพิจารณาส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพิ่มเติม เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้เสียหาย 9 คน พบพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุมีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน โดยเริ่มจากการชวนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจหรือล่อลวงมาที่คอนโดฯ ที่เกิดเหตุ หรือยังสถานที่อื่นๆ ก่อนจะทำการลวนลาม ล่วงละเมิด และบางรายถูกข่มขืน โดยมีผู้เสียหายบางรายถูกกระทำในลักษณะวางยาก่อนลงมือข่มขืน ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องแยกแยะพฤติการณ์การก่อเหตุและความผิดที่จะเข้าข่ายข้อหาต่างๆ ต้องพิจารณาในคณะทำงานทางคดี โดยจะมี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ร่วมพิจารณาด้วย

"หากการพิจารณาเสร็จสิ้นเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่ชัดเจนได้ และภายหลังจากที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายปริญญ์ในเรื่องการเข้ามามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด" พ.ต.อ.นิมิตรกล่าว

ถามถึงการไปตรวจค้นคอนโดฯ ที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างถึง พบหลักฐานอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีบ้าง ผกก.สน.ลุมพินีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาเสร็จสิ้นเรียบร้อย ส่วนพยานหลักฐานที่เก็บได้จะมีประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อรูปคดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่เตรียมนัดผู้เสียหายมาชี้ภาพจุดที่เกิดเหตุต่อไป

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีการระบุพรรคก้าวไกลเกี่ยวข้องการออกมาแฉนักการเมืองถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศว่า พรรคก้าวไกลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ การคุกคามทางเพศถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ไม่ควรถูกลดทอนให้เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งเวลานี้ผู้เสียหายมีจำนวนมากสังคมควรโฟกัสไปที่ตัวผู้เสียหาย และผู้ที่กระทำความผิด

"เราคงไม่ฟ้องคนที่พาดพิงพรรคให้เสียหาย เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการพูด ซึ่งผมก็มีสิทธิเสรีภาพในการชี้แจงว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งการดึงให้เรื่องนี้เป็นการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเป็นนักการเมืองต้องเข้าใจและชี้แจงให้ไว และสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ" นายพิธากล่าว

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกระทรวงยุติธรรมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันทำผิดซ้ำทางเพศ-ความรุนแรง (JSOC) โดยนำเข้า ครม.และส่งไปวุฒิสภา ใช้เวลาเพียง 9 เดือน เร็วกว่ากฎหมายปกติที่เฉลี่ยใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ปีว่า การพิจารณาที่เร็วเพราะตนมองเห็นปัญหาของสังคมที่วิจารณ์เรื่องการทารุณทางเพศ หรือเรื่องเกี่ยวกับฆาตกรรม การเรียกค่าไถ่ ขณะนี้กฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.ป้องกันทำผิดซ้ำทางเพศ-ความรุนแรง  วุฒิสภา

"การพิจารณาที่เร็ว ต้องขอบคุณคนที่เห็นความสำคัญของกฎหมายที่จะออกมาป้องกันการกระทำทารุณทางเพศ ความรุนแรงที่เกี่ยวกับเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ที่ถูกกระทำ เช่น การฆ่าข่มขืน หากออกมาเร็วจะช่วยป้องกันสุภาพสตรีและสร้างความปลอดภัยให้สตรีได้ จึงขอร้องวุฒิสภาพิจารณาให้เสร็จก่อนที่จะเปิดประชุมสภาเพื่อนำเข้าพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ต่อไป ให้ออกมาเป็นกฎหมาย เพราะกว่าจะบังคับใช้ได้ จะต้องกฎหมายรองหรือประกาศกระทรวงตามออกมาอีก และเวลานี้อายุของสภาเหลืออีกแค่ไม่กี่เดือน จึงไม่ควรชักช้า อยากบอก กมธ.ของวุฒิสภาให้เร่งรีบ" นายสมศักดิ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมศักดิ์' บอกให้เกียรตินายกฯ ตัดสินใจเรื่องเก้าอี้!

'สมศักดิ์' ไม่หลุดปากมีชื่อนั่ง รมว.สาธารณสุข วอนให้เกียรตินายกฯเป็นคนตัดสินใจ ระบุ รมต.เก่าไม่ต้องกรอกประวัติใหม่ ไม่ขอตอบพร้อมไป สธ.หรือไม่ แต่นั่งมาแล้ว 2 ครั้ง เผย 'อนุชา' สบายดี แม้มีข่าวถูกปรับออก