ดีเซลพุ่ง!เร่งหาทางช่วย ตีปี๊บเฟส4สะพัด6หมื่นล.

พลังงานจับตาราคาน้ำมันตลาดโลกยังพุ่ง! "สุพัฒนพงษ์" สั่งทุกหน่วยงานเร่งหามาตรการลดผลกระทบ หลัง 1 พ.ค. เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท “คนละครึ่งเฟส 4” สะพัด 6 หมื่นล้าน คลังกระทุ้ง 1.2 แสนรายใช้สิทธิก่อน 30 เม.ย.

เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า  กระทรวงติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยได้หารือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ราคาช่วงเม.ย.-พ.ค.65 ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงทรงตัวระดับสูง โดยเฉพาะดีเซล จะอยู่ในระดับ 140-150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และหากมีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ราคาจะสูงขึ้นอีก ซึ่งทำให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นห่วงเรื่องค่าครองชีพประชาชน จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งหาทางลดผลกระทบ โดยเฉพาะมาตรการตรึงดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.นี้

 “มองราคาน้ำมันดิบดูไบทั้งปี 2565 ใกล้เคียง 100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล และจะทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ทรงตัวระดับ 130-140 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ถือว่าเป็นอัตราที่สูง รมว.พลังงานจึงมอบให้เร่งดูแลผลกระทบ โดยเฉพาะการขึ้นดีเซล ที่ให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ศึกษาแนวทางว่าจะทยอยขยับขึ้นราคาอย่างไร เพราะหากขึ้นตามแผนเดิมคือขึ้นครึ่งหนึ่ง ในส่วนของราคาที่เกิน 30 บาทต่อลิตร ราคาจะไปอยู่ที่ราว 35-36 บาทต่อลิตร ประชาชนก็จะเดือดร้อน” ผอ.สนพ.ระบุ

ขณะที่มาตรการช่วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบคือช่วยเหลือในการน้ำมันกลุ่มเบนซิน ในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน พ.ค.-ก.ค. ทางกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้เผยแพร่ข้อมูลในเว็บไซต์ระบุว่า  โครงการนี้ใช้ชื่อว่า "วินเซฟ" ผู้มีสิทธิเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก  106,655 ราย (ข้อมูลภายในวันที่ 22 มีนาคม 2565) โดยให้ยืนยันสิทธิได้ตั้งแต่ 5 พ.ค. และใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 8 พ.ค.นี้

สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมัน วันที่ 17 เม.ย.65 เงินกองทุนฯ ติดลบ 50,614 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 19,332 ล้านบาท, บัญชีแอลพีจีติดลบ 31,282 ล้านบาท ส่วนการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุน ก้อนแรก 20,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินกู้ทั้งหมด 40,000 ล้านบาทนั้น ปรากฏว่าในขณะนี้ยังไม่สามารถกู้ได้แต่อย่างใด ทางกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างหารือ ว่าหากกู้ไม่ได้ ทางกองทุนจะดำเนินการอย่างไร เพราะที่ผ่านมา การที่กองทุนติดลบมูลค่าสูง ก็เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ดูแลราคาดีเซลและแอลพีจี เพื่อลดผลกระทบของประชาชน  

วันเดียวกัน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 19 เม.ย.2565 ณ เวลา 23.00 น. พบว่า มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนกลุ่มเดิม) จำนวน 25.46 ล้านราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 58,865.1 ล้านบาท และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนกลุ่มใหม่) จำนวน 8.04 แสนราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 1,752.7 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 26.26 ล้านราย และยอดการใช้จ่ายรวม 60,617.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 30,863.4 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 29,754.4 ล้านบาท

ทั้งนี้ มียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 25,329.7 ล้านบาท, ร้านธงฟ้า 10,473.3 ล้านบาท, ร้านโอท็อป 2,757.0 ล้านบาท, ร้านค้าทั่วไป 20,859.3 ล้านบาท, ร้านบริการ 1,083.0 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 115.5 ล้านบาท

สำหรับประชาชนที่ได้รับสิทธิทั้งหมด 26.38 ล้านราย เป็นประชาชนกลุ่มเดิมที่กดยืนยันสิทธิและมีการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 25.46 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย และในส่วนของผู้ประกอบการ มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 1.35 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.93 หมื่นราย

 “ขณะนี้มีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 1,200 บาท ประมาณ 12.69 ล้านราย คิดเป็น 48% ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด และยังมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิที่ยังไม่ได้เริ่มใช้สิทธิประมาณ 1.2 แสนราย ซึ่งโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 จะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เม.ย.2565 จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่ยังมีสิทธิเหลืออยู่ให้เร่งใช้จ่ายก่อนวันสิ้นสุดโครงการด้วย” นายพรชัย ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง