ตร.แถลงปิดคดีแตงโม ยื่นอัยการฟ้อง26เม.ย.

"ผบช.ภ.1" แถลงปิดคดีแตงโม 26 เม.ย. มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ขณะที่ศาลแขวงนนทบุรีอนุญาตยกเลิกผัดฟ้อง "กระติก"  ให้การเท็จ หลังตำรวจยื่นร้องเหตุแจ้งข้อหาทำลายหลักฐานเพิ่ม ด้าน "อัจฉริยะ"  จ่อเอาผิดพนักงานสอบสวนละเลยปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันพุธ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่พลัดตกเรือเสียชีวิตว่า ได้นำข้อมูลโดยสรุปไปแจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. รับทราบ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่กำกับดูแลเรื่องนี้มาโดยตลอด ในส่วนของพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานใกล้เรียบร้อย ยังไม่มีประเด็นใหม่เกิดขึ้น อยู่ในช่วงสรุปรายละเอียดเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ทั้งพยานบุคคล วัตถุพยาน ผลการรายงานทางวิทยาศาสตร์

พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวว่า พนักงานสอบสวนกำลังไล่เรียงเอกสารไปตามวงรอบที่จะต้องเสนอสำนวน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานอัยการในวันที่ 26 เม.ย.นี้ โดยมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีในขณะนี้ว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานนั้น ได้มีการทำในรูปของคณะกรรมการตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเวลากว่า 1 เดือน จึงเชื่อมั่นในพยานหลักฐานทั้งหมดที่มี

 “ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ จะมีการชี้แจงทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นในประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเหตุการณ์ เรือลำเกิดเหตุ ความผิด อัตราโทษ ข้อเท็จจริง ไปจนถึงประเด็นการปัสสาวะ โดยขณะนี้พยานหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย เนื่องจากบาดแผลตามร่างกายนั้นเข้ากับใบพัดเรือ จึงมีความเห็นสรุปสำนวนเช่นนี้ และมั่นใจว่าสามารถชี้แจงให้ประชาขนหายสงสัยได้ อย่างไรก็ตาม หากอัยการมีข้อสงสัยที่ต้องการให้สอบสวนเพิ่มเติม ตำรวจก็ยินดี” พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าว

พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานใหม่มามอบให้กับพนักงานสอบสวนนั้น ตำรวจก็ยินดีรับฟัง และรวบรวมหลักฐานเข้าสู่สำนวน แต่หากเป็นหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่แล้ว ก็จะรับไว้ตามแต่ละประเด็น ทั้งนี้เชื่อว่าหลักฐานดังกล่าวเป็นหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่แล้ว และอยากฝากถึงประชาชนว่า การทำงานในรูปของคณะกรรมการที่มีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงานสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน จะมีน้ำหนักมากกว่าหลักฐานของคนคนเดียวหรือไม่

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ยื่นคำร้องขอยกเลิกการผัดฟ้อง น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้ต้องหาคดี ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172

ทั้งนี้ เหตุผลในการยื่นระบุว่า วันที่ 12 เม.ย.65 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมผู้ต้องหา กระทำความผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิดเพื่อช่วยผู้อื่นมิให้ต้องได้รับโทษหรือได้รับโทษน้อยลง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184

โดยศาลแขวงนนทบุรีพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกเลิกผัดฟ้องคดีนี้ ซึ่งการยกเลิกผัดฟ้องมีผลตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง (19 เม.ย.) โดยไม่มีการผัดฟ้องข้อหาดังกล่าวอีกต่อไป ส่วนการดำเนินคดี ก็จะขึ้นอยู่กับอายุความของแต่ละข้อหา ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีก่อนหน้านี้ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรียื่นคำร้องต่อศาลแขวงนนทบุรี ขอผัดฟ้องครั้งที่ 3 โดยศาลแขวงนนทบุรีอนุญาตให้ผัดฟ้องครั้งที่ 3 เป็นเวลา 6 วัน จนถึงวันที่ 22 เม.ย.

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแฉขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม โดยนำหลักฐานเป็นคลิปกล้องวงจรปิดที่อ้างว่า แตงโมไม่ได้ตกเรือที่บริเวณด้านท้ายเรือ โดยนายวัชรไกรศร เกตุจรัส ผู้เชี่ยวชาญด้านแสงและเงา วิเคราะห์จากภาพกล้องวงจรปิดที่ได้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรือ กฟผ. ในเวลา 22.34 น.ของวันเกิดเหตุ ระบุว่าวิเคราะห์จากภาพนี้ แตงโมได้ลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในตัวเรือ เชื่อว่าแตงโมน่าจะตกจากหัวเรือ และน่าจะเป็นการบิดเบือนพยานหลักฐาน ซึ่งตนมั่นใจว่าคดีดังกล่าวเป็นการฆาตกรรม ไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ

 “ส่วนกรณีพบเส้นผมที่ตำแหน่งด้านท้ายเรือและด้านข้างส่วนท้ายเรือทั้งหมดจำนวน 3 เส้น ขอตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการสร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้นมา เพราะไม่ได้ตรวจพบตั้งแต่วันแรก อาจทำให้รูปคดีบ่งบอกว่าเป็นการเกิดจากอุบัติเหตุ และส่วนเรื่องบาดแผลที่ต้นขาด้านขวา เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ โดยอ้างจากบทวิเคราะห์จากศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พบว่าเกิดจากของมีคม ต้องเป็นระดับมีดผ่าตัด คัตเตอร์ กระจกหรือขวดแก้วแตกกรีดหรือบาด แต่บาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือขณะกำลังหมุนจะมีลักษณะฉีกขาดหลายแผลลึกและขนานกัน” นายอัจฉริยะระบุ

นายอัจฉริยะระบุด้วยว่า ส่วนกรณีที่ ทนายเดชา ทนายคลายทุกข์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า สำนวนคดีจะมีการปิดแล้ว แต่ทำไมยังนำหลักฐานที่อ้างว่าเป็นหลักฐานชิ้นใหม่นำมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนนั้น ทนายเดชารู้ได้อย่างไรว่าสำนวนปิดแล้ว ซึ่งการนำหลักฐานมาให้กับพนักงานสอบสวนของตน เชื่อว่าจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในคดีแตงโม หากเป็นหลักฐานเท็จ ก็ขอให้มีการฟ้องร้องมา ตนจะรับผิดชอบทุกคำพูดและทุกการกระทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 21 เม.ย. นายอัจฉริยะจะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามเพื่อแจ้งเอาผิดกับพนักงานสอบสวนคดีแตงโม ในข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในเวลา 10.00 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง