‘ปริญญ์’อ่วม! ตร.แจ้งอีก2คดี ไม่สนฟ้องกลับ

ตร.ไม่หนักใจ “ปริญญ์” เตรียมฟ้องกลับ ยันพยานหลักฐานแน่นหนา จ่อคิวอีก 2 คดี! สน.ห้วยขวางเรียกรับทราบข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ ส่วนตำรวจลุมพินีออกหมายเรียกแจ้งข้อหาอนาจารฯ วันศุกร์นี้

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีที่นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศ รวม 15 คดี โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้น พล.ต.ต.ไตรรงค์เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายปริญญ์ให้มารับทราบข้อกล่าวหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ในวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น. ที่ สน.ลุมพินี หลังสอบปากคำผู้เสียหาย 1 ใน 6 ที่เป็นความผิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี ซึ่งสามารถระบุวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงพฤติการณ์ของนายปริญญ์ได้ชัดเจน ส่วนอีก 5 คดีในพื้นที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ส่วนกรณีนายปริญญ์เตรียมส่งทีมกฎหมายแจ้งความกลับผู้เสียหายฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทนั้น รอง ผบช.น.กล่าวว่า ในกรณีนี้ไม่กังวลใจว่าจะเป็นเหตุให้ผู้เสียหาย หรือพยานในคดีถอนตัว หรือไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นสิทธิที่นายปริญญ์สามารถดำเนินการได้ และหากจะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนก็ไม่หนักใจ เพราะจากการสืบสวนสอบสวนคดีที่ผ่านมา มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอให้ศาลออกหมายจับ

เมื่อถามว่า นายปริญญ์ฟ้องกลับผู้กล่าวหาเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวหรือไม่ พล.ต.ต.ไตรรงค์กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะเป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาทำได้

สำหรับคดีที่นายปริญญ์ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจารหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ล่าสุดได้นัดหมายให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 5 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. โดยนายปริญญ์ยังไม่ติดต่อขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ทุกอย่างยังเป็นไปตามขั้นตอนเหมือนเดิม

พล.ต.ต.ไตรรงค์ยังสรุปจำนวนคดีที่มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์ ยังอยู่ที่ 15 คดีเท่าเดิม แบ่งเป็นเหตุเกิดในท้องที่ สน.ลุมพินี 9 คดี โดย 3 คดี ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว และ 1 คดี จะเรียกมารับทราบข้อหาในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ จังหวัดเพชรบุรี 1 คดี,  จังหวัดเชียงใหม่ 1 คดี และขาดอายุ 2 คดี และคดีนอกราชอาณาจักร 1 คดี จากการสอบสวนอย่างละเอียด เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าขาดอายุความแล้ว 2 คดี แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าจะเข้าให้การเป็นพยานในคดีอื่นที่ยังไม่ขาดอายุความ

ทางด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวขณะอยู่ประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า "เหยื่อถูกข่มขืนกระทำชำเรา มักถูกคนร้ายก่อเหตุในที่ลับ จึงทำให้พิสูจน์หลักฐานกันได้ยาก พวกนี้เลยได้ใจ และยิ่งแบ็กดี ยิ่งทำตัวยิ่งใหญ่เหมือนเจ้าโลก ถ้าโดนกันแค่คนเดียว ก็อาจจะเชื่อได้ว่าถูกใส่ร้ายเพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง แต่พอมีเหยื่อที่ไม่รู้จักกันหลายสิบคน ต่างสถานที่ ต่างช่วงเวลา ให้การไปในทิศทางเดียวกัน ว่าถูกบุคคลนี้ข่มขืนหรือทำมิดีมิร้าย แบบนี้คือภัยสังคมที่น่าหวาดกลัว อย่าหลงตัวเอง และคิดว่าผู้หญิงเขาง่ายและอยากมีอะไรด้วยกับคุณทุกคน ส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะครับ คดีหมิ่นประมาทและแจ้งความเท็จที่เสิร์ฟมา ผมจะจัดคืนให้แบบจุกถึงลิ้นปี่เลย กลับไปไทยรอบนี้จะประชุมผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อตอบโต้กลับทุกคดีครับ".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง