‘เดชา’ฟ้องสส.เต้ กมธ.ชงให้อัยการ วัตถุพยานแตงโม

คดี "แตงโม" ไม่จบ! ซัดกันฝุ่นตลบลามเขย่าพรรคไทยศรีวิไลย์ “ทนายเดชา” แค้นฝังหุ่น “มงคลกิตติ์" จัดหนักยื่นฟ้องกราวรูดให้หลุดเก้าอี้ ขณะที่ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ดับฝันแม่แตงโมขอรับวัตถุปริศนาจากบังแจ๊ก  “สมชาย” ยันให้ไม่ได้ ต้องรออัยการชี้ขาดเพราะตำรวจปิดสำนวนคดีแล้ว ด้าน "คุณหญิงพรทิพย์" ชี้กุญแจไขบาดแผล ต้องพิสูจน์คราบเลือดบนเสื้อผ้าเกิดก่อนตายหรือหลังจากลงน้ำ ขณะที่ "อัยการ" พร้อมตรวจสอบวัตถุพยาน

เมื่อวันจันทร์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของนางภนิดา  ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา พัชรวีระพงศ์ อดีตดาราสาว เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ข่มขู่ทำร้ายร่างกายโดยการจะส่งคนมากระทืบหากไม่เลิกยุ่งกับคดีแตงโม ลักษณะเป็น ส.ส.มาเฟีย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่กลับมาข่มขู่ประชาชน จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือถึงประธานชวน หลีกภัย  ให้สอบจริยธรรมส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยื่น ป.ป.ช.ที่ผิดจริยธรรมร้ายแรงรวม 3 ที่

 “คนอย่างนี้สมควรจะเป็น ส.ส.ต่อไปหรือไม่ พรรคนี้สมควรโดนยุบหรือไม่ ขณะนี้มีทนายความซึ่งเป็นผู้หญิงก็ถูกข่มขู่ในลักษณะเดียวกัน มีคลิปเสียงก็จะเข้ามาร่วมด้วย  นับจากที่ผมเริ่มขบวนการนี้เขาจะไม่ได้เป็น ส.ส.อีกต่อไป  จะเอาให้หลุดจากความเป็น ส.ส. คนกร่างๆ ทำตัวเป็นมาเฟียแบบนี้ไม่สมควรเป็น ส.ส. ยืนยันไม่ยอมต้องให้หลุดจากการเป็น ส.ส. เหมือนเป็นคนบ้าอำนาจ เขาคงคิดว่าเขาใหญ่เหลือเกิน อยากจะข่มขู่ใครก็ได้” นายเดชาระบุ

ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า เป็นแค่การหยอกล้อ การใช้คำไม่สุภาพเพราะคุยกันในฐานะเพื่อน ขณะนี้พรรคไทยศรีวิไลย์มารับผิดชอบคดีแล้ว การที่นายเดชาจะดำเนินคดีกับตนเองข้อหาข่มขู่นั้น การคุยโทรศัพท์กัน 2 คน มีกฎหมายระบุชัดเจนว่า การเอาข้อความที่โทร.คุยกัน 2  คนไปเปิดเผย มีความผิดฐานดักฟังโทรศัพท์ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายเกี่ยวกับโทรเลขและโทรศัพท์  มาตรา 24 มีโทษจำคุก 6 เดือน ถือว่ามีความผิดแน่ถ้าเอาข้อความที่โทร.คุยกันไปเผยแพร่โดยตนเองไม่อนุญาต

 “และตามคำพิพากษาศาลฎีกา การบันทึกเสียงไม่สามารถนำไปดำเนินการอะไรได้ เพราะได้ข้อมูลมาโดยทุจริต การที่นายเดชาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะถูกข่มขู่นั้น ขอให้รับรองความปลอดภัย ผมก็ไม่ได้บอกจะทำอะไรนายเดชา แค่บอกว่าถ้าเป็นคนอื่นผมจะไม่มาคุยกับพี่แบบนี้ ผมจะไม่เตือนอีก” นายมงคลกิตติ์ระบุ 

วันเดียวกัน นายมงคลกิตติ์พร้อมด้วยนางภนิดาได้มายื่นหนังสือถึงนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอรับวัตถุพยานจาก กมธ.ไปส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยนางภนิดากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนอยากให้วัตถุพยานนี้เป็นประโยชน์ต่อคดี

ขณะที่นายสมชายกล่าวว่า ที่ผ่านมาที่ประชุม กมธ.ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้เป็นวาระด่วน ภายหลังจากที่ได้รับพัสดุจากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้หวังดี โดยประสานผ่านทาง  พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ซึ่งได้เสนอต่อ กมธ.ว่าจะรับพัสดุดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ โดยที่ประชุมมีมติรับพัสดุห่อนี้ไว้  แต่เราไม่ยืนยันว่าข้างในเป็นอะไร เนื่องจากยังไม่ได้แกะห่อพัสดุที่ส่งมาจากสหรัฐอเมริกา ที่ระบุชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Sukmak Kanlaya DA เป็นผู้ส่ง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จักว่าคือใคร แต่มีการบอกว่าอาจจะเป็นชื่อของบังแจ๊กหรือไม่ 

นายสมชายกล่าวต่อว่า เมื่อได้รับพัสดุแล้วก็ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้สรุปปิดสำนวนคดีไปแล้ว และขณะนี้คดีอยู่ในขั้นตอนของอัยการ กมธ.จึงทำหนังสือส่งให้อัยการ แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา ทั้งนี้เราอยากให้เปิดพัสดุดังกล่าวในที่ประชุมของ กมธ. โดยเชิญอัยการมาดูหรืออาจส่งไปที่อัยการ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร และจะเป็นวัตถุพยานสำคัญหรือไม่ ถ้ามีส่วนสำคัญอัยการจะไปตรวจสอบต่อและ กมธ.ขอทำหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้ กมธ.คงให้พัสดุดังกล่าวแก่นางภนิดาไม่ได้ เนื่องจากพัสดุที่ส่งมาไม่ได้ระบุชื่อของนางภนิดา และไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร ซึ่งเราจะยังไม่เปิดจนกว่าอัยการจะตอบเรื่องกลับมา

ด้านนางภนิดาสอบถามนายสมชายว่า จะเก็บพัสดุดังกล่าวไว้ที่ กมธ.นานแค่ไหน นายสมชายกล่าวว่า นี่ก็เก็บไว้มานาน 27 วันแล้ว ยังไม่ได้เปิด ซึ่งต้องรอคำตอบจากอัยการก่อน เพราะ กมธ.ไม่มีหน้าที่ส่งให้คนนอก นอกจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ในฐานะกมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา กล่าวว่า บังแจ๊กติดต่อมาทางตนเองเพราะต้องการจะส่งผ้าสีขาว ตนเองจึงบอกให้ส่งมาในนาม กมธ. ซึ่งผ้าดังกล่าวถูกส่งมา 4 สัปดาห์กว่าแล้ว โดยเราวางระบบเพื่อไม่ให้มองว่าเราเข้าไปก้าวก่าย  และเพื่อรักษาวัตถุห่วงโซ่พยาน จึงยังไม่เปิดกล่องที่บังแจ๊กส่งมา และแจ้งกับตำรวจและอัยการทันที 

 “ผ้าชิ้นนี้จะจริงหรือเท็จตอบไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผ้าที่แตงโมใช้ แม้ว่าจะอยู่ในน้ำแต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนยังกังขาคือ  บาดแผลเกิดขึ้นก่อนตายหรือเกิดขึ้นหลังจากลงน้ำ โดยวิธีพิสูจน์คือถ้าบาดแผลเกิดขึ้นบนเรือ เสื้อผ้าของผู้ตายจะเปื้อนเลือด ต่อให้ซักเท่าไหร่หรือลงน้ำเท่าไหร่ก็ยังเจอคราบเลือด ฉะนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ดีเอ็นเอแต่อยู่ที่คราบเลือด ทั้งนี้ กมธ.ไม่สามารถส่งตรวจได้ แต่นางภนิดาอยากส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์" พญ.คุณหญิงพรทิพย์ระบุ

ขณะที่นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หาก กมธ.มีหนังสือขอให้อัยการไปร่วมตรวจสอบ อัยการจะดูว่าพยานหลักฐานดังกล่าวมีความสำคัญเกี่ยวข้องโดยตรงในประเด็นของคดีหรือไม่ น่าเชื่อถือมีน้ำหนักหรือไม่ การจะนำพยานหลักฐานนี้เข้ามาในสำนวน ก็ไม่ต่างจากการทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เมื่ออัยการสนใจก็เข้าไปดู  เมื่อดูแล้วถ้าสนใจอีกก็จะให้เข้ามาในสำนวนเป็นพยานหลักฐาน โดยอัยการอาจจะสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพราะพยานแต่ละชิ้นจะเข้ามาในสำนวนได้ ต้องผ่านการสอบสวนโดยชอบของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเสียก่อน ดังนั้นถ้ามีหนังสือเชิญมาก็ส่งมาได้  เคยมีเหมือนกันในคดีอื่น เมื่ออัยการดูแล้วก็จะดูอย่างละเอียด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง