ถอดแมสก์ปชช.ประเมินเอง

ศบค.รายงานคนไทยติดเชื้อ 2.6 พันราย เสียชีวิตเพิ่ม 21 ราย   "อนุทิน" เผยมีความพยายามคืนความเป็นปกติสุขให้กับประชาชนมากที่สุด เป้าหมายคือการถอดหน้ากาก ใช้ชีวิตอย่างปกติ เปิดทุกอย่าง ไม่มีข้อจำกัดใดๆ สธ.จ่อลดระดับเตือนภัยโควิดกลาง​ มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,688 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,680 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,680 ราย, มาจากเรือนจำและสถานที่ต้องขัง 8 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 4,130 ราย อยู่ระหว่างรักษา 25,426 ราย อาการหนัก 708 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 340 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 21 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 11 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 18 ราย มีโรคเรื้อรัง 2 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,473,867 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,418,202 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 30,239 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 536,580,377 ราย เสียชีวิตสะสม 6,323,397 ราย

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวตอนหนึ่งในงาน "Move on จาก Covid ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ" ของกระทรวงสาธารณสุขว่า สถานการณ์โควิดในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 3,000 รายต่อวัน และผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 30 รายต่อวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว ซึ่งเป็นผลเกิดจากการที่ประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตัวเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องสื่อสารเพิ่มเติมในการเตรียมความพร้อมของประชาชนในการปรับวิถีชีวิตไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น

นายอนุทินกล่าวว่า โรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงของโรคจะลดลง เพียงแต่เป็นโรคที่จะต้องอยู่กับเรา และเราจะต้องอยู่กับมันในทุกช่วงของชีวิต แต่การเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้เกิดความคุ้นชิน มีความเข้าใจในการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ถึงแม้ว่าเราจะมีผู้คนมากมายที่ยังไม่ได้รับวัคซีนตามที่สมควรจะได้รับ ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งรณรงค์ให้ผู้ที่ไม่ยอมรับวัคซีนได้รับวัคซีนต่อไป

"เรามีความพยายามที่จะคืนความเป็นปกติสุขให้กับประชาชนมากที่สุด มีการถอดหน้ากาก ใช้ชีวิตอย่างปกติ เปิดทุกอย่าง ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ซึ่งเป็นเป้าหมาย เพียงแต่ว่าเราต้องใช้ความเข้าใจของสถานการณ์แต่ละคนด้วย ถ้าอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เราก็สามารถนำหน้ากากมาใส่ได้ แต่ที่บอกว่าต้องมีกฎต้องมีประกาศให้ถอดหน้ากาก คงไม่มีประกาศเช่นนั้น จะใส่ก็ใส่ จะถอดก็ถอด ประเมินสถานการณ์กันด้วยความรู้ที่เราได้ประสบมา" นายอนุทินกล่าว

ด้าน นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งป้องกันโรคต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสา​ธารณสุขได้เสนอเข้าที่ประชุม ศบค.เพื่อพิจารณาแล้ว​ ทั้งกรณีกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ทั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโควิด-19  มีการพิจารณาสถานการณ์ดีขึ้นเป็นไปตามแผน โรคนี้น่าจะเข้าสู่ระยะท้ายๆ แล้ว ทุกจังหวัดเข้าสู่ระยะขาลง (declining) ไม่มีการระบาดใหญ่ เปิดเทอมก็ไม่พบปัญหา เปิดสถานบันเทิงก็ยังไม่พบปัญหา แต่เฝ้าระวังต่อว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ แต่มีการประเมิน คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเราผ่านระยะการระบาดใหญ่มาแล้ว สามารถเข้าสู่การดูแล เฝ้าระวังตามสมควร ส่วนจะประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิด-19 หรือไม่นั้น รอดูสถานการณ์หลังเปิดผับบาร์ก่อน คาดว่ากลางเดือน มิ.ย.นี้

วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2565 ว่า ที่ประชุมหารือถึงเรื่องการถอดหน้ากากอนามัย และได้ดูข้อมูลพบว่าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น และมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ คือในพื้นที่ที่เป็นสวนสาธารณะ กับพื้นที่โล่งแจ้งซึ่งมีคนไม่หนาแน่น โดยวัดจากการที่มีการเว้นระยะห่าง 1 เมตร ซึ่งจะเสนอต่อ ศบค.ชุดเล็กในวันที่ 9 มิ.ย. ว่าหากไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก อยู่ที่ความสมัครใจ ของพื้นที่ 2 ส่วนคือ สวนสาธารณะและพื้นที่โล่งแจ้ง แต่อาจจะมีการยกเว้น ตลาดนัด สนามกีฬา และสนามม้าที่มีคนดูเยอะ กลุ่ม 608 และกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะยังต้องสวมหน้ากากอนามัยตามประกาศของ ศบค.ตามเดิม

 “ผมคิดว่าถึงเวลาที่สามารถผ่อนคลายได้แล้ว เราเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามา และผมคิดว่าหลายประเทศทั่วโลกเปิดแมสก์กันแล้วในพื้นที่สาธารณะ แต่สำหรับประเทศไทยต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ต้องดูตัวเลขผู้ติดเชื้อก่อน การถอดทั้งหมดผมคิดว่ามันเร็วไป” นายชัชชาติกล่าว และว่าหลังจากที่เปิดสถานบริการผับบาร์นั้น ยังไม่มีปัญหาหรือเรื่องร้องเรียนใดๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' สั่ง 'ชลน่าน' แล้วให้จับตาโรคแอนแทรกซ์อย่างใกล้ชิด

นายกฯ สั่งการติดตามสถานการณ์เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ ดูแลประชาชน ย้ำหากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่