ศบค.ผ่อนคลาย ปรับพื้นที่สีเขียว ถอดแมสก์ที่โล่ง

ไทยติดเชื้อ 2.1 พันราย ดับ 17 คน สธ.ชง ศบค.ชุดใหญ่ ปรับพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ ไม่ขัดข้องเปิดผับบาร์ตามเวลากฎหมายกำหนด ยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเท่าที่เป็นไปได้ "อนุทิน" ยันไม่มีประกาศให้ถอดแมสก์ แค่ประเมินสถานที่ให้ถอดได้ ศบค.ชุดเล็ก ชง ศบค.ใหญ่เคาะถอดหน้ากาก 

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,153 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,133 ราย, มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,133 ราย, มาจากเรือนจำ 16 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 2,512 ราย อยู่ระหว่างรักษา 21,205 ราย อาการหนัก 594 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 301 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17 ราย เป็นชาย 11 ราย หญิง 6 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 13 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,492,913 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,441,305 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 30,403 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 542,503,603 ราย เสียชีวิตสะสม 6,336,592 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พอใจกับสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังการเปิดภาคเรียน 1/2565 และการผ่อนคลายมาตรการให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ผ่านมา สถานการณ์ผู้ติดเชื้อภายในประเทศทรงตัว จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มลดลงเร็วกว่าประมาณการ จำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 20 ราย 4 วันต่อเนื่อง ซึ่งนายกฯ คาดหวังไว้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ส่งผลต่อการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมศบค. ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอให้ปรับพื้นที่เป็นสีเขียว หรือพื้นที่เฝ้าระวังทั่วประเทศ เข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งผ่านการพิจารณาในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) แล้ว

ทั้งนี้ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธาน ศบค.ชุดเล็ก ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่าหากจะให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดบริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนดได้หรือไม่ จึงหารือกับปลัด สธ. และอธิบดีกรมควบคุมโรคแล้ว เห็นว่าหากเปิดถูกต้องตามกฎหมายจริงๆ ก็ไม่มีข้อขัดข้องใด ซึ่งสธ.จะให้ความเห็นนี้ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมติขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค.

ส่วนเรื่องการถอดหน้ากากอนามัยนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีการประกาศให้ถอดอยู่แล้ว เพราะเป็นมาตรการสังคม การให้ถอดหน้ากากเลยไม่ใช่เจตนารมณ์ของ สธ. แต่จะประเมินสถานที่ให้ถอดได้และมีข้อแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จะมีการเสนอให้ทุกจังหวัดปรับเป็นพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่เฝ้าระวัง ส่วนมาตรการว่าอะไรทำได้บ้าง จะเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ จริงๆ ทำได้เกือบทุกอย่างตามกฎหมาย น่าจะไม่มีข้อห้ามอะไรแล้ว แต่ขอให้ระมัดระวัง ส่วนที่มีการขอความเห็นให้เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด สธ.จะให้ความเห็นในที่ประชุม ศบค. ว่าไม่ได้มีข้อกังวลอะไร เป็นไปตามกฎหมาย แต่เราจะมีการเฝ้าระวังจากจำนวนผู้ป่วยรุนแรง ผู้เสียชีวิต เช่นวันนี้ผู้ใส่ท่อช่วยหายใจลดต่ำมากแล้ว เหลือประมาณ 200-300 ราย แต่ทั้งหมดก็ยังต้องผ่านการพิจารณาของ ศบค.

เมื่อถามว่า หากไม่มีการระบุพื้นที่ให้ถอดหน้ากากได้ ประชาชนอาจเข้าใจไม่ตรงกันนั้น นพ.โอภาสตอบว่า การสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้มีประเด็นอะไร แต่ยังตีความกันอยู่ว่าเป็นการบังคับหรือการแนะนำ เพราะเราไม่เคยไปจับปรับคนไม่สวมหน้ากาก แต่ สธ.ยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเท่าที่เป็นไปได้ ส่วนการถอดหน้ากากได้ตามที่เคยแนะนำ เช่น รับประทานอาหารอยู่คนเดียว อยู่ห่างกัน หรืออยู่ในที่อากาศถ่ายเท กลางแจ้ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า ในการประชุม ศปก.ศบค. เพื่อสรุปข้อเสนอตามนโยบาย ข้อสั่งการของ ศบค. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายไว้ตั้งแต่การประชุมครั้งที่ผ่านมา และให้สอดคล้องกับแนวทางการผ่อนคลายมาตรการสังคม ชุมชน และองค์กร เป็นไปตามแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic ทั้งนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์รอบ 10 วัน และสถานการณ์ภาพรวมที่ผ่านมา โดยจัดทำข้อเสนอให้ สธ.พิจารณามาเป็นลำดับ ควบคู่กับนโยบายด้านการป้องกันการแพร่ระบาดที่ สธ.ดำเนินการอยู่ด้วย

"ในวันศุกร์ที่ 17 มิ.ย. จะมีการเสนอประเด็นต่างๆ เข้าที่ประชุม ศบค. เกี่ยวกับการพิจารณาปรับให้มีการผ่อนคลายให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และมีแผนด้านสาธารณสุขรองรับในทุกพื้นที่ เช่น การปรับพื้นที่สถานการณ์ให้เป็นพื้นที่ตามมาตรการสีเขียว (มาตรการเฝ้าระวัง) ให้มากที่สุด การผ่อนคลายการเปิดกิจการ และสถานบริการกลางคืนที่มีความเสี่ยง ให้ดำเนินการได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนที่เป็นห่วงโซ่การประกอบอาชีพด้านนี้ได้มีงานทำและมีรายได้"

เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เรื่องการสวมหน้ากาก ได้พิจารณาเสนอให้มีการผ่อนคลายให้ไม่ต้องสวมหน้ากากในสถานที่หรือกิจกรรมบางประเภทได้โดยสมัครใจ  ภายใต้ข้อแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับส่วนรวมด้วย นอกจากนี้จะเสนอให้มีการปรับมาตรการเข้า-ออกประเทศที่เกี่ยวข้องกับระบบ Thailand Pass ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับผลการประเมินที่พบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก และเอื้อต่อการจูงใจนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง