เคาะกำไรการกลั่น เข้า‘กองทุนนํ้ามัน’

"บิ๊กตู่" เรียกถกทีมเศรษฐกิจรัฐบาลด่วน หลังสารพัดปัญหาของแพง  เห็นชอบขยายเวลามาตรการช่วยเหลือประชาชนบางส่วนที่ใกล้หมดอายุเดือนมิ.ย.นี้ออกไปอีก 3 เดือน ขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน นำส่งกำไรค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล-เบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ลดเบนซินลง 1 บาทต่อลิตร พร้อม ชง ครม.สัปดาห์หน้า

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นการด่วน เพื่อหามาตรการรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง, ปลัดกระทรวงพลังงาน, ปลัดกระทรวงการคลัง, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ภายหลังการประชุม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในที่ประชุมได้หารือมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนิน 10 มาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว ซึ่งบางมาตรการใกล้จะครบอายุของมาตรการ โดยที่ประชุมได้พิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวโน้มของปีนี้ ที่เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าค่าเฉลี่ยของเงินเฟ้อปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 6.2% แต่แนวโน้มทั้งปีเศรษฐกิจยังคงจะเติบโตได้จากการเปิดภาคการท่องเที่ยว แต่ปัญหาหลักในวันนี้คือราคาพลังงานและค่าครองชีพของประชาชน ดังนั้น กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังจึงได้นำเสนอมาตรการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยบางส่วนเป็นเบื้องต้น

นายธนกรกล่าวว่า การต่ออายุในส่วนของมาตรการที่ใกล้จะหมดอายุ เช่น การให้ความช่วยเหลือเรื่องก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถแท็กซี่ การให้ส่วนลดในการซื้อก๊าซแอลพีจีสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันให้คงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร ที่จะต่อถึงสิ้นเดือนกันยายน 2565 ส่วนมาตรการเรียกเก็บกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมัน ที่กระทรวงพลังงานมีอำนาจดำเนินการได้ตามกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการอุดหนุนราคาดีเซลและราคาก๊าซต่างๆ ที่ประมาณการ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน จะมีสถานะกองทุนติดลบอยู่ที่กว่า 9 หมื่นล้านบาท

"โดยกระทรวงพลังงานขอความร่วมมือจากกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ในการขอให้นำส่งกำไรส่วนหนึ่งที่เกิดจากการกลั่นน้ำมัน ส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤตราคาน้ำมันแพงจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เพื่อเป็นการช่วยเหลือกองทุนเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคม ถึงกันยายน 2565 โดยเป็นการเก็บจากการกลั่นน้ำมันดีเซลส่วนหนึ่งประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อเดือน และเรียกเก็บจากการกลั่นน้ำมันเบนซิน ที่จะเรียกเก็บน้อยกว่าดีเซล ซึ่งคาดว่าจะเก็บในส่วนของเบนซินได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยในส่วนของเบนซินจะนำมาลดราคาให้กับผู้ใช้น้ำมันเบนซินในทันทีทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ คาดว่าจะลดราคาได้ประมาณ 1 บาทจากราคาปัจจุบัน แต่ในส่วนของการกลั่นที่เก็บได้จากน้ำมันดีเซล จะนำเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อช่วยบรรเทาสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบอยู่"

นายธนกรกล่าวว่า ยังมีมาตรการขอความร่วมมือจากโรงแยกก๊าซที่มีต้นทุนแอลพีจีที่จำหน่ายเป็นวัตถุดิบในภาคปิโตรเคมีที่มีกำไรส่วนเกินอยู่ส่วนหนึ่ง โดยกระทรวงพลังงานจะขอให้นำกำไรส่วนเกินนี้ 50% เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเช่นกัน คาดจะนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานจะเสนอขอความร่วมมือภาคเอกชน โดยเฉพาะห้างร้านต่างๆ ได้ช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยจะมีการจัดทำรายละเอียดต่างๆ เสนอเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้

นายธนกรกล่าวว่า ขณะที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว เป็นมาตรการเชิงภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว สนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาในประเทศสำหรับบริษัทเอกชนที่เป็นนิติบุคคลต่างๆ หักรายจ่ายสำหรับค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าเดินทาง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับอบรมสัมมนาในประเทศ รวมถึงค่าจัดงาน Event/Exhibition เมืองรอง หักภาษีได้ 2 เท่า เมืองหลัก หักภาษีได้ 1.5 เท่า ระยะเวลาตั้งแต่ 15 กรกฎาคมถึง 31 ธันวาคม 2565 โดยมาตรการดังกล่าวจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการบรรเทาผลกระทบประชาชนเรื่องราคาน้ำมัน รัฐบาลได้มีการเจรจากับโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซทั้งหมดที่มีกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมาช่วยเหลือค่าน้ำมันประชาชน โดยส่งเงินเข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และลดราคาน้ำมันเบนซิน มาตรการนี้ป็นการขอความร่วมมือจากภาคเอกชน ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดี และไม่ต้องมีการออกกฎกระทรวงหรือประกาศกระทรวงแต่อย่างไร

ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ส่วนมาตรการลดค่าครองชีพอื่นๆ ที่จะหมดอายุในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่ประชุมให้มีการต่ออายุเกือบทุกมาตรการ ยกเว้นการลดการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม โดยจะเสนอเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า ก่อนมีผลบังคับใช้ก่อนมาตรการเดิมหมดอายุ นอกจากนี้กระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมาตรการส่งเสริมการประชุม จัดสัมมนา หรือนิทรรศการในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งหากบริษัทเอกชนไปจัดงานการประชุม สัมมนา หรืออีเวนต์ในพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ โดยในจังหวัดที่เป็นเมืองหลักสามารถลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า และเมืองรองสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือเบาเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน เป็นหน้าที่ของ สศช. เป็นผู้รวบรวมมาตรการเพื่อเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ ในส่วนของกระทรวงการคลังได้มีการเสนอมาตรการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ สศช.ไปพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง

สำหรับมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.นี้ กระทรวงคลังจะร่วมกับฝ่ายนโยบายพิจารณาว่าต้องขยายเวลาต่อไปเพื่อพยุงราคาน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง