โฆษกรัฐบาลเย้ยฝ่ายค้าน มีข้อมูลเด็ดแค่พูดเพื่อเป็นสีสัน โต้ "เพื่อไทย" หาก 8 ปี "บิ๊กตู่" ไม่เข้ามาแก้ปัญหาแบ่งฝ่าย ทุจริตกัดกร่อนกินยิ่งกว่าบ้านถูกปลวกแทะ เตือนดึงเสื้อแดงอย่ากลับไปสู่จุดเดิมอีก “ชัยวุฒิ” จ่อทำความเข้าใจหลัง "พิเชษฐ" ส่อโหวตสวนซักฟอก "แกนนำ พท." แจงเพิ่มชื่อ “สุชาติ” ก่อนยื่นซักฟอกทำได้ ก.ก.สวนถ้าไม่มีแผลอย่ากลัวตรวจสอบ เลขาฯ ประธานสภาขอ 7 วันตรวจสอบ "อนุทิน" ลั่น ภท.หัวใจคิดบวกเกทับกวาด ส.ส.ศรีสะเกษยกทีม “น้องแรมโบ้” อบรม “อุ๊งอิ๊ง” พรรษาอ่อนหัด เตรียมยื่นสอบหาเสียงล่วงหน้า
เมื่อวันอาทิตย์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ขอให้ชาวบ้านจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ให้ดี เพราะจะมีการเปิดเผยข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เองก็คาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้อยู่ในยุคของท่านว่า เข้าใจได้ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคตัวเองหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง จึงพยายามคุยโวไว้ก่อนว่ามีข้อมูลอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อหวังจะให้ชาวลำปางเลือกผู้สมัครของพรรคตัวเอง หลังจากที่พ่ายแพ้ย่อยยับมาแล้วไม่รู้กี่สนาม หากมีข้อมูลเด็ดจริงก็ขอให้นำมาอภิปรายในสภา กลัวอย่างเดียวว่าอย่าอภิปรายแต่เรื่องเดิมๆ ที่สภาไม่อนุญาต แต่ก็ยังจะดันทุรังพูดจนถูกปิดไมค์หรือเชิญออกจากห้องประชุมสภา แล้วก็มาอ้างที่หลังว่าเสียดายข้อมูลเด็ดที่ไม่ได้อภิปราย
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าประชาชนทนไม่ไหวแล้วกับสถานการณ์และเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำดีอะไรให้กับประเทศ นายธนกรกล่าวว่า พท.ควรย้อนดูตัวเองด้วยว่า ที่ประเทศไทยต้องเจอกับสถานการณ์และเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้เพราะรัฐบาลไหนทุจริตคอร์รัปชันมโหฬาร ชนิดที่อดีตนายกฯ ต้องหนีออกนอกประเทศ อดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน หาก 8 ปีที่ผ่านมาท่านนายกฯ ไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ วันนี้ประเทศคงจะแบ่งสีแบ่งฝ่ายกันอีกนาน คงจะถูกการทุจริตกัดกร่อน พรุนยิ่งกว่าบ้านถูกปลวกแทะไปนานแล้ว
"อยากให้พรรค พท.ย้อนถามตัวเองก่อนว่า การเชิญชวนแกนนำคนเสื้อแดงกลับมาร่วมงานกับพรรคอย่างออกหน้าออกตาอีกครั้งนั้น เป็นการทำเพื่อช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจริงหรือไม่ หรือกำลังทำเพื่อใครหรือไม่ อยากเตือนคนเสื้อแดงว่า ขอให้ย้อนดูอดีตนายกฯ ท่านหนึ่งเป็นตัวอย่างให้ดี ที่ท่านเชื่อคำกล่อมว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯ รอบที่ 2 แต่สุดท้ายก็ถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด จนต้องเดินออกจากสภา กลับบ้านอย่างเดียวดาย วันนี้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งของคนในชาติมานานแล้ว อย่ากลับไปจุดเดิมอีกเลย" นายธนกรกล่าว
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. ระบุมีรัฐมนตรีหลายคนที่จะไม่โหวตให้ โดยมีชื่อนายชัยวุฒิอยู่ด้วย และยังมีท่าทีจะโหวตไปในทิศทางเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ว่า ก็ต้องกังวล หากโหวตสวนมันก็ไม่ดี ต้องไปทำความเข้าใจกันว่ามีประเด็น มีข้อมูลอะไรที่ทำให้ไม่ไว้วางใจเรา ซึ่งต้องชี้แจงกันและดูตอนอภิปรายด้วย ทั้งนี้ การโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคน คงไม่สามารถใช้มติพรรคบังคับได้ ส่วนเสียงโหวตหนุนอภิปรายเรียบร้อยเหมือนการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2566 หรือไม่ ต้องมีการพูดคุยกันอีกที แต่ในภาพรวมเสียงของรัฐบาลก็เยอะกว่าอยู่แล้ว มีเสียงที่เพียงพอที่จะผ่านอยู่แล้ว แต่ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน
ฝ่ายค้านยันเพิ่มชื่อ"สุชาติ"ได้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นคร ราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ระบุการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นญัตติเถื่อน เพราะไปเพิ่มชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายเป็น 11 คน จากเดิม 10 คน ว่าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านทำถูกต้องทุกขั้นตอน ไม่ได้เป็นอย่างที่นายสุชาติกล่าวหา ชื่อนายสุชาติอยู่ในโผถูกยื่นซักฟอกตั้งแต่รอบแรกๆ ที่มีเสนอชื่อเข้ามา 13-14 คน แต่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่ามากเกินไป อยากให้เอาเฉพาะคนที่มีหลักฐานชัดเจนจริงๆ การมีรายชื่อรัฐมนตรี 10คนที่จะถูกยื่นซักฟอกตอนนั้น ก็ยังไม่นิ่ง ชื่อนายสุชาติ ก็เข้าๆ ออกๆ ตลอดเวลา แต่สุดท้ายเมื่อผู้อภิปรายยืนยันจะอภิปรายและที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เห็นด้วย จึงใส่ชื่อนายสุชาติเข้าไปเป็นคนสุดท้าย สามารถทำได้ตราบใดที่ยังไม่ยื่นญัตติต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนที่อ้างว่า ส.ส.ที่เข้าชื่อยื่นญัตติเข้าใจว่ามี ส.ส.ถูกยื่นอภิปรายแค่ 10 คน ไม่ใช่ 11 คนนั้น นายประเสริฐกล่าวว่า ตอนที่ ส.ส.ลงชื่อก็ไม่มีใครทราบจะมีรัฐมนตรีคนใดถูกยื่นอภิปรายบ้าง เพราะต้องเก็บรายชื่อผู้ถูกอภิปรายเป็นความลับ ไม่ให้ข้อสอบรั่วไหล กลัวจะมีการเจรจาให้ถอนชื่อ จะทราบชัดเจนคือตอนยื่นชื่อต่อประธานสภาฯ ญัตติจะสมบูรณ์ ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อเมื่อประธานสภาฯ รับญัตติไปแล้วเท่านั้น แต่ก่อนที่จะยื่นญัตติอย่างเป็นทางการ จะเพิ่มหรือลดรายชื่อก็เป็นการคุยกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้าน การที่นายสุชาติเดินเกมเช่นนี้ ไม่รู้เพราะอะไร หากกลัวจะได้คะแนนอภิปรายน้อยที่สุดแล้วอาจถูกปรับออกจาก ครม.ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะนายสุชาติเป็นคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี โอกาสถูกปรับออกคงยาก แต่ถ้าได้แต้มน้อยเกินไปก็คงดูไม่สวยเท่าไร
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวว่า ในวันที่ 15 มิ.ย. ก่อนจะยื่นอภิปรายญัตติก็ยังไม่สมบูรณ์ 100% ตอนที่ ส.ส.ฝ่ายค้านลงชื่อในญัตติรู้แค่มี ส.ส.ถูกยื่นซักฟอกหลายคน แต่ไม่ทราบมีจำนวนที่แน่ชัดกี่คน ถึงชื่อนายสุชาติ จะเข้ามาเป็นคนที่ 11 ก็ทำได้ เพราะสามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ก่อนจะยื่นญัตติอย่างเป็นทางการ ทราบว่าการยื่นอภิปรายรอบที่แล้วชื่อนายสุชาติก็เข้ามาเป็นคนสุดท้ายเช่นกัน การที่นายสุชาติยื่นร้องเรียนเป็นสิทธิทำได้ ขึ้นอยู่กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะเห็นอย่างไร แต่คงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะมั่นใจการยื่นญัตติไม่ได้ทำผิดขั้นตอน นายสุชาติไม่ควรกังวล ไม่ต้องดิ้น ควรเอาเวลาไปรวบรวมตอบคำถามดีกว่า
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า การตรวจสอบรัฐมนตรี ชื่อนายสุชาติอยู่ลำดับต้นๆ เกือบทุกครั้ง ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเถื่อน-ไม่เถื่อน แต่โฟกัสที่ฝ่ายบริหารที่เป็นคณะรัฐมนตรี ควรพอใจกับการตรวจสอบ รัฐมนตรีที่สุจริตจริงต้องไม่กลัวการตรวจสอบ การตรวจสอบจึงเหมือนการเอาน้ำเกลือ ทิงเจอร์ ไปราดหลัง ถ้าคนที่หลังไม่มีแผล จะได้โชว์ว่าหลังสะอาด แต่ถ้าหลังมีแผลอาจจะทำให้ร้อน ให้แสบ จนทนไม่ได้ การแสดงอาการแบบนี้เป็นการแสดงความหวาดกลัว ทำให้เกิดข้อสังเกตว่ามีแผลเยอะ อย่าไปเล่นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เห็นความหวาดกลัว คิดว่านายสุชาติควรเตรียมข้อมูลมาตรวจสอบ มาชี้แจงในสภาดีกว่ามาดิ้นรนว่าเป็นญัตติเถื่อน เบี่ยงประเด็น เรื่องของผู้มีอิทธิพลนอกพรรคฝ่ายค้านยิ่งแสดงอาการยิ่งเสียหายกับตัวเอง
เมื่อถามว่า อาจมีเหตุให้อภิปรายไม่ไว้วางใจสะดุดหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า ในความเห็น ไม่มี การแถลงข่าวจะยื่นอภิปราย 10 คน จะเพิ่มหลังแถลงข่าวเป็น 11 คน ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน การจะมาเพิ่มชื่อก่อนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่เรื่องแปลก ทำได้เสมอเมื่อมีเหตุก็เพิ่มขึ้นมา การยื่นญัตติให้ประธานสภาฯไปแล้ว แต่มาเติมรายชื่อทีหลัง รวมทั้งเป็นกรณียื่นญัตติไปแล้ว แต่ไม่มีลายเซ็นส.ส.ร่วมเสนอญัตติให้ครบ แล้วมาเติมลายเซ็น ส.ส.ใหม่อาจมีปัญหาได้ แต่ถ้าลักษณะดังที่เป็นข่าว อย่างไรก็ไม่มีทางทำให้สะดุดอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจะเจอแผลใหญ่ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า เท่าที่ทราบ มีหลักฐานชัดเจน น่าจะหนัก อาการสาหัสพอสมควร คนใดบ้างเดี๋ยวคอยดู
"ชวน"ขอเวลา7วันสอบญัตติ
ด้านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่นายสุชาติขอให้ตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า จะใช้เวลาประมาณ 7 วัน ในสัปดาห์หน้า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ต้องพิจารณาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องนำกลับไปตรวจสอบก่อนอีกครั้ง ต้องเป็นไปตามจำนวนรายชื่อที่ยื่น ตรวจสอบว่าครบถ้วนหรือไม่ เป็นไปตามรายชื่อของผู้ยื่นจริงหรือไม่
เมื่อถามว่า ในอดีตเคยมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องญัตติเถื่อนหรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ไม่เคยมี ปกติยื่นตามระบบ ยื่นผ่านประธานสภาฯ หลังจากนั้นประธานสภาฯ จะตรวจสอบความถูกต้องในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อมาต้องตรวจสอบว่ามี ส.ส.ลงชื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครบตามจำนวนหรือไม่ ส่วนหากมีปัญหาคือ 1.รายชื่อ ส.ส.ร่วมลงชื่อเสนอญัตติไม่ครบ 2.ญัตติอภิปรายไม่ตรงกับเรื่องบริหารงานของรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบเรื่องของการบริหารงาน คุณสมบัติของรัฐมนตรี หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ที่มีผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ถึงจะตรงตามญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
"เมื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมา และไม่ตรงกับที่แถลงข่าว ทางสภาไม่ได้ตรวจสอบในส่วนนั้น สภาจะพิจารณาเรื่องญัตติที่ยื่นเข้ามาตามระบบ เมื่อจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมีการเพิ่มรายชื่อผู้ถูกอภิปรายในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมาทีหลัง ไม่ใช่เรื่องของสภา" เลขาฯ ประธานสภาฯ กล่าว และว่า ประธานสภาฯ ไม่เป็นกังวล ต้องตรวจสอบตามข้อบังคับ ยึดถือตามรัฐธรรมนูญเป็นหลัก
จากกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ภายใต้ชื่อ "ไปศรีสะเกษ ไล่หนู ตีงูเห่า" ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 18 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คนภูมิใจไทย หัวใจคิดบวก ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน #ศรีสะเกษยกทีม #พรรคภูมิใจไทย”
สำหรับภาพที่โพสต์มี ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค ภท.ปัจจุบัน และ ส.ส.ที่จะย้ายมาสังกัด และลงสมัครในนามพรรค ภท.ในอนาคตรวม 6 คน คือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย, นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล พร้อมข้อความระบุว่า "ไม่มีหนู ไม่มีงูเห่า มีแต่คนบ้านเรา ที่พัฒนา" แขกทุกท่านที่จะมาช่วยพัฒนาบ้านเรา ยินดีต้อนรับ
นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ศรีสะเกษ ว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมานายกฯ ไม่ได้ทำข้อดีอะไรให้กับประเทศ ว่า น.ส.แพทองธารคงแยกแยะไม่ออกว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี ใครทำงาน แก้ไขปัญหาให้ประเทศหรือไม่ทำ เพราะเท่าที่ตนเองและประชาชนได้เห็น นายกฯ ประยุทธ์ ได้บริหารงานที่ทำเพื่อประชาชนมาโดยตลอด ทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงปัญหาที่คนในตระกูลชินวัตรก่อเอาไว้ รวมทั้งพัฒนาประเทศในหลายด้าน แตกต่างจากกันมากกับคนของตระกูลชินวัตร สมัยเป็นนายกฯ ไม่เห็นว่าจะทำข้อดีอะไรให้กับประชาชนและประเทศเลย มีแต่ทำเพื่อครอบครัวของตัวเอง มุ่งแต่อยากจะให้คนในครอบครัวกลับประเทศ จนคนทั้งประเทศออกมาขับไล่ ในที่สุดก็ยังถูกดำเนินคดีและหนีไปอยู่ต่างประเทศ น.ส.แพทองธารไปแอบมุดซ่อนอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้ว่านายกฯ ประยุทธ์ได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ทั้งเรื่องของการขนส่งทางคมนาคม รถไฟ สนามบิน ท่าเรือ ถนน โครงการ EEC และยังมีโครงการอื่นๆ อีกมากมาย
"บิ๊กตู่"ผลงานเหนือ"ชินวัตร"
"เพียงเท่านี้ก็ถือว่าทำมากกว่ารัฐบาลของคนตระกูลชินวัตรถึง 3 คนที่เป็นนายกฯ ทั้งนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดังนั้นก่อนที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรนั้นก็ขอให้นำข้อเท็จจริงมาพูด ไม่ใช่อยากจะกล่าวหาคนอื่นเพียงอย่างเดียว บางครั้งการพูดอะไร ด้วยความอ่อนหัดอ่อนพรรษาการเมือง พูดไม่ระวังคำพูด พูดอะไรไม่คิดถึงอดีตของคุณพ่อคุณอาที่สร้างวีรกรรมอันเจ็บปวดกับคนไทยไว้ มันจะย้อนกลับมาทำลายตัวเองมากกว่า ไม่ต่างกับสุภาษิต ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า สุดท้ายกลับลงมารดหน้าตัวเอง" นายชนะศักดิ์กล่าว
นายชนะศักดิ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดต่อพรรคเพื่อไทยที่จัดกิจกรรมที่ จ.ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ว่าในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ได้มอบหมายให้นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ไปยื่นเรื่องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะเสนอเรื่องร้องต่อ กกต. ซึ่งเรื่องนี้ได้พูดคุยกับนายสนธิญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“การที่พรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่ายังไม่มีการเลือกตั้งสามารถดำเนินการอะไรก็ได้นั้น ขอถาม กกต.ว่า ถ้าเช่นนั้นผมไปซื้อเสียงหัวละ 1,000 บาทก่อนเลือกตั้งก็ไม่ผิดอย่างนั้นหรือ การจ่ายเงินกันโจ๋งครึ่มอย่างนี้ถือว่าไม่ผิดใช่หรือไม่ หรือจำเป็นต้องรอให้มีกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาก่อนหรือถึงมีความผิด เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องออกมาชี้แจง ซึ่งทางเราก็จะไปยื่นเรื่องเพื่อให้มีต้นเรื่องเสียก่อน” นายชนะศักดิ์กล่าว
ขณะที่ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวตอบโต้นายชนะศักดิ์ว่า สิ่งที่ น.ส.แพทองธารพูดบนเวทีคือความจริงทั้งหมด และ น.ส.แพทองธาร ไม่เคยมีความคิดที่จะก้าวเข้าสู่การเมืองเพื่อหวังล้างคดีให้ ดร.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายชนะศักดิ์ไม่ควรมาโหนกระแสพรรคเพื่อไทยจากกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษไล่หนูตีงู่เห่าที่ประสบความสำเร็จ นายชนะศักดิ์จะชอบพรรคการเมืองใดก็เป็นสิทธิ แต่ไม่ควรไปปรามาสดูหมิ่นหรือด้อยค่าพรรคที่ลงพื้นที่ไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ความจริงถ้าพรรคพลังประชารัฐยากทราบความนิยมที่แท้จริงจากประชาชนก็สามารถจัดงานแบบพรรคเพื่อไทยได้ จะได้ทราบว่าความเป็นจริงประชาชนรู้สึกเช่นไร และอยากให้เอาเวลาที่เหลืออยู่หาวิธีช่วย พปชร.หาคะแนนช่วย พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคก่อน แทนการเอาเวลามานั่งมโนเกินความจริง
“เราจะไม่ทรยศต่อศรัทธาที่ประชาชนมอบให้ ไม่โอนเอนหวั่นไหวไปกับอำนาจและกล้วยหวีใหญ่ที่มีคนมาหยิบยื่นให้แล้ว แปรพรรค ไปโดยไม่สนใจประชาชนที่เลือกเข้ามาเพราะเห็นว่าเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เราพร้อมที่จะเดินหน้าไม่หวั่นไหวต่อการย้ายพรรคของ ส.ส.เพื่อไทยอย่างน้อย 3 คนที่กำลังไปยังพรรคอื่น หากไปแล้วก็คงไปลับ ไม่กลับมาทรยศพี่น้องประชาชนด้วยการชักจูง ส.ส.เพื่อไทยไปอีก ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในระยะเวลาอันใกล้นี้” น.ส.ตรีชฎากล่าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า กรณีนายชนะศักดิ์ขู่จะร้อง กกต.เอาผิดพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียง จ.ศรีสะเกษ ในกิจกรรม “ไล่หนู ตีงูเห่า” เข้าข่ายซื้อสิทธิขายเสียงและหาเสียงล่วงหน้า เพราะมีการเกณฑ์คนไปฟังปราศรัยโดยจ่ายเงินค่าจ้างและมีการแจกเสื้อนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะนี้ยังไม่มีการเลือกตั้งจะผิดกฎหมายเลือกตั้งได้อย่างไร ยืนยันไม่มีการขนคนมาฟังการปราศรัยโดยให้ค่าจ้าง เหตุที่มาคนมาฟังปราศรัยเป็นหมื่นๆ คนนั้น เพราะห่างหายจากบรรยากาศการหาเสียงแบบนี้มานาน จึงตื่นตัวมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก เป็นการมาด้วยความสมัครใจ พรรคพร้อมชี้แจงต่อ กกต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
ใต้อ่วม! ทางรถไฟ-ถนนขาด
ฝนตกหนักน้ำท่วม เส้นทางลงใต้อัมพาต ทางขาดทั้งรถไฟและถนนสายเอเชีย รถไฟไปต่อไม่ได้ ติดค้างที่ชุมพรเพียบ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนที่นครศรีฯ น้ำทะเลจ่อหนุนซ้ำเติม
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ผสมนํ้ายาดองศพ
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า พบน้ำยาดองศพ สารก่อมะเร็งในบุหรี่ไฟฟ้าเพียบ เสี่ยงเกิดมะเร็ง แนะผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ย้ำเตือนเด็กและเยาวชนอย่าหลงเชื่อค่านิยมผิดๆ
บึ้มงานกาชาด สอบเกียร์ว่าง! ตำรวจอุ้มผาง
"ผบ.ตร." สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุ 2 คนร้ายปาระเบิดกลางเวทีรำวงงานกาชาดอุ้มผาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เจ็บ 48 คน "อุ๊งอิ๊ง"
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
สจ.จอยประกาศไม่เผาศพ!
7 ผู้ต้องหาคดียิง "สจ.โต้ง" คอตกเข้าคุกเรียบร้อย