เคาะ19ก.ค.ซักฟอก ปล่อยอภิปราย4วัน/พท.เต้น‘บิ๊กตู่’เหยียบถิ่นแม้ว

“บิ๊กตู่” ลั่นกลาง ครม. พร้อมรับศึกซักฟอกมาราธอน ย้ำแจงเองทุกประเด็น แจ้งสภาเปิดได้ตั้งแต่ 19 ก.ค. ไม่เกี่ยงโหวตวันเสาร์ กำชับพรรคร่วมรัฐบาลชูมือทิศทางเดียวกัน “วิษณุ” ติวข้อบังคับ-ธรรมเนียมปฏิบัติ บอก รมต.ห้ามโหวตตัวเอง แนะตอบฝ่ายค้านทันทีอย่าปล่อยข้ามวัน "สาธิต" แย้มส่งวิป รบ.เจรจาอภิปราย 4 วันเหมาะสุด "ประวิตร" เมินโพลชู "อุ๊งอิ๊ง" แซง "ประยุทธ์" โวคนอายุ 35 ปีขึ้นไปหนุน พปชร. มั่นใจรอบหน้าไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง "ส.ส.เชียงใหม่ พท." เต้นนายกฯ บุกพื้นที่ เย้ยกวาดผักชีมาโรยหน้า

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 มิ.ย. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรัฐมนตรีหลายคนได้ลาการประชุม อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ที่ติดโควิด-19 หลังจากเดินทางกลับจากภารกิจที่ประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ รวมทั้งมีรัฐมนตรีปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ภายหลังการแถลงข่าวผลการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถามถึงประเด็นได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถึงเรื่องที่ไม่ได้ปิดช่องการนำเสนอคนอื่นเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.เพิ่มเติม หลังจากผลโพลระบุประชาชนอยากให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรีบเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที 

มีรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. ระหว่างการพิจารณาในวาระจร นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ประสานวิปรัฐบาล ได้รายงานเรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งมาสอบถามถึงความพร้อมเรื่องวันของ ครม. ว่าสะดวกที่จะให้มีการอภิปรายไว้วางใจตั้งแต่วันใด โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ให้ข้อสังเกตกรณีที่ฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายตั้งแต่วันที่ 18-22 ก.ค.มานั้น เห็นว่าในช่วง 1 สัปดาห์ ต้องมีการประชุม ครม. 1 วัน ดังนั้นหากเป็นไปได้ขอให้ประชุม ครม.ในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค. แล้วเริ่มอภิปรายในวันอังคารที่ 19 ก.ค.เป็นต้นไป อาจจะอภิปรายไปถึงวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. แล้วไปลงมติในวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.ก็ได้ จึงขอให้ ครม.ตอบกลับไปว่า ครม.พร้อมตั้งแต่วันอังคารที่ 19 ก.ค.เป็นต้นไป

"พล.อ.ประยุทธ์ยังย้ำที่ประชุมว่ามีความพร้อมที่จะชี้แจง และยืนยันจะเป็นผู้ชี้แจงหลักให้ตัวเอง ขณะนี้ได้ทำการบ้านอยู่ โดยประเมินจากที่ฝ่ายค้านได้นำเสนอออกมาเป็นระยะๆ ว่าจะอภิปรายในเรื่องใดบ้าง เป็นเรื่องเดิมๆ และขอให้รัฐมนตรีทุกคนที่มีชื่อถูกอภิปรายหรือไม่มีชื่ออยู่ในญัตติไปทำการบ้านมาให้ดี" แหล่งข่าวระบุ

จากนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายสไลด์ข้อกฎหมาย ข้อบังคับ และธรรมเนียมปฏิบัติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา พร้อมกับเน้นย้ำนอกจากรัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายแล้ว รัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ต้องเตรียมให้พร้อมด้วย เนื่องจากบางเรื่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ถูกอภิปรายสามารถมอบให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงตอบได้ ในฐานะที่กำกับดูแลหน่วยงานนั้นๆ รวมไปถึงรัฐมนตรีที่ไม่ได้ถูกอภิปรายสามารถสนับสนุนข้อมูล เช่น แผ่นสไลด์ ชาร์ตเอกสารให้กับรัฐมนตรีที่กำลังถูกอภิปรายได้นำไปชี้แจงได้

นอกจากนี้ นายวิษณุยังกำชับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายด้วยว่าให้รีบลุกขึ้นชี้แจงในทันทีที่ถูกอภิปรายในเรื่องนั้นๆ ไม่ให้ทอดเวลาข้ามวัน และยังบอกถึงธรรมเนียมปฏิบัติของการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เมื่อถึงการโหวตของรัฐมนตรีคนใด ที่ผ่านมารัฐมนตรีคนนั้นๆ จะไม่โหวตให้ตัวเอง จะใช้วิธีงดออกเสียง แต่สามารถโหวตให้กับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ฝากนายอนุชาเรื่องคิวอภิปรายว่า ขอให้มีการแจ้งรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายก่อนล่วงหน้า เพื่อจะได้เตรียมตัวชี้แจงได้ทันที รวมถึงป้องกันการสับสนคิวและเวลาที่จะใช้ในการชี้แจง 

บิ๊กตู่กำชับพรรคร่วม รบ.

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับวิปรัฐบาลให้ไปประสานความร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องการลงมติ โดยให้เป็นทิศทางเดียวกัน ไม่ให้เหมือนกับการลงมติร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ปรากฏว่า ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลโหวตไปคนละทิศละทาง ไม่เป็นไปตามมติวิปรัฐบาล

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุม ครม. ตอนหนึ่งระบุว่า นายกฯ มอบหมายให้ทุกส่วนราชการและทุกหน่วยงานเร่งสร้างการรับรู้ผลสำเร็จที่ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุก 5 ปี รวมทั้งให้เตรียมเป็นข้อมูลเพื่อนำเสนอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาล

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ในวันที่ 18 ก.ค. จำเป็นจะต้องประชุมครม. เพราะใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษา รัฐบาลพร้อมไปอภิปรายที่สภาวันที่ 19 ก.ค.เป็นต้นไป ส่วนที่มีการขอ 5 วัน ก็จะให้ไปคุยกันในวิป 

ซักว่ากรอบในการอภิปราย 5 วันมองว่าเยอะไปหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่ โดยจะให้วิปแต่ละฝ่ายไปคุยกัน ทางรัฐบาลไม่มีเงื่อนไขอะไร และทางรัฐบาลยินยอมว่าจะให้อภิปราย 4 หรือ 5 วันก็ได้

ส่วนนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ครม.คุยเรื่องกรอบเวลา แต่จะให้วิปไปหาข้อตกลงว่าไม่ควรเกิน 4 วัน เพราะวันที่ 18 ก.ค. เป็นวันประชุม ครม. โดยเริ่มอภิปรายวันที่ 19-22 ก.ค. และต้องมีวันลงมติ ดังนั้นกรอบวันจึงต้องไปหารือกันอีกที ส่วนการหารือกันก็จะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสำนักนายกฯ ไปเจรจากับวิปว่าได้ความว่าอย่างไร แต่กรอบใหญ่ๆ เป็นวันที่ 19-22 ก.ค.นี้

"หากฝ่ายค้านไม่ยอมก็คงต้องมาหารือกัน แต่เข้าใจว่าไม่มีช่วงเวลาไหนแล้วของเดือน ก.ค.ที่ไม่มีวันหยุด ผมเชื่อว่ามันจะลงตัวได้ 4 วันก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าฝ่ายค้านอยากได้ 5 วัน ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องของเวลาที่ในสภาบริหารเวลากัน ส่วนเป้าหมายต่างคนต่างทำหน้าที่ก็น่าจะตกลงกันได้" นายสาธิตกล่าว

ถามว่า พรรค ปชป.มีรัฐมนตรี (รมต.) ของพรรคหลายคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้เตรียมความพร้อมอย่างไร รองหัวหน้า ปชป.กล่าวว่า ส่วนตัวเขาคงเตรียมกันอยู่แล้ว เพราะการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตในการดำรงตำแหน่ง รมต. คือการที่ฝ่ายค้านจะได้เอาข้อมูลในเชิงลบมาให้ประชาชนทราบ ส่วนตัวคนที่ถูกอภิปรายก็จะได้เอาข้อมูลที่ตัวเองได้ทำงานไว้มาแก้ข้อกล่าวหา ดังนั้นถือเป็นโอกาสของ รมต. ที่ถูกอภิปรายในการแก้ข้อกล่าวหา ถือเป็นกลไกของการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลและชั่งน้ำหนัก

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์ลงพื้นที่ 10 ภาค 10  จังหวัด ของพรรค พปชร.ว่า จะไปแล้วแต่หัวหน้าภาคแต่ละภาค เขาจัดการโดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และเลขาธิการพรรค พปชร. เป็นหัวหน้าในการดำเนินการในทุกภาค ส่วนตนจะไปทั้ง 10 จังหวัดหรือไม่ขอดูก่อน ถ้าว่างก็จะไปเพราะเรื่องนี้เลขาธิการพรรคเป็นหัวหน้าดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว

ถามถึงผลสำรวจของนิด้าโพลที่ประเมินผลสำรวจความนิยมแคนดิเดตนายกฯ ของแต่ละพรรคมองเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เคยบอกไปแล้วเราก็มีการประเมิน ก็รู้อยู่แล้วโพลระบุว่าพรรค พปชร.ก็ตกต่ำ แต่ไม่เป็นไร ต้องแก้ไขไป ส่วนจะแก้ไขทันหรือไม่ต้องไปพูดคุยกันในพรรคต้องสามัคคีกัน และร่วมมือกัน

มั่นใจ พปชร.ได้ 150 ส.ส.

ซักว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมีคะแนนนำ พล.อ.ประยุทธ์กังวลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของโพลก็ว่าไปไม่เป็นไรแล้วแต่ประชาชน

เมื่อถามว่าคะแนนนิยของ พล.อ.ประยุทธ์ลดลง จะต้องเพิ่มแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องวันข้างหน้า อย่าเพิ่งถามและตนตอบเองคนเดียวไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของพรรคจะให้ตอบอย่างไร

ถามถึงกรณีให้คำตอบถึงอนาคตการเมืองคนละทางกับนายกฯ พล.อ.ประวิตร ถามสื่อกลับว่า “เป็นยังไงคนละทาง” ซึ่งสื่อตอบกลับไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ชัดเจนจะว่าลุยต่อหรือไม่ ส่วน พล.อ.ประวิตรก็ยังไม่ระบุว่าพรรค พปชร.จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ กี่คน ซึ่ง พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบอะไรต่อ และขึ้นรถออกจากทำเนียบฯ ทันที

ต่อมา พล.อ.ประวิตรเดินทางเข้าพรรค พปชร. ร่วมประชุม ส.ส.พรรค โดยมีแกนนำและ ส.ส.พรรคเข้าร่วมจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินกลับมาที่ห้องทำงานชั้น 21 เพื่อหารือกับแกนนำบางคนกว่า 1 ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พล.อ.ประวิตรยิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวทักทาย ส.ส.ที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่หยอกล้อกับสื่อและเชิญออกจากห้องประชุม โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งถึงการทำงานภายในพรรค เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ ส.ส. พร้อมกับเรื่องผลโพลที่ออกมาว่า “อย่าไปเชื่อโพลมาก บางทีไปถามเด็ก แต่คนอายุ 35 ปีขึ้นไปยังสนับสนุนเรา ดีกว่าเดิมด้วย ผมมั่นใจว่าครั้งหน้าได้ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง 2 เดือนที่ตั้งพรรค เราได้ ส.ส.กว่า 100 คน แล้วทำงานมา 4 ปี มีผลงานมากมาย จะไม่ได้150 เสียงได้อย่างไร ครั้งหน้าใครที่อยู่กับเราได้แน่นอน ส่วนภาคใต้จะได้ 20 เสียง ดังนั้นใครที่ได้ข่าวว่าจะย้ายพรรคจะว่าอย่างไร” 

 ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงตรงนี้ พล.อ.ประวิตร ได้หันไปแซว ส.ส.หลายคน โดย พล.อ.ประวิตรได้แกล้งนายสมบัติ อำนาคะ ส.ส.สระบุรี ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า “ยืนยันอยู่ด้วยกันต้องมีสมบัติ” ขณะที่นายสมบัติยืนยันว่า “อยู่แน่นอน” จากนั้น พล.อ.ประวิตรหันไปมองนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พร้อมกับพูดว่า “ใครจะย้ายไปไหน ให้มาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม มีข่าวอยู่นะ อยู่ด้วยกันนะ” ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตรยังได้หันไปพูดนายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาสว่า “เป็นไง โทร.หาพ่อ (นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส) ไม่รับสาย มีข่าวว่าพ่ออยู่ทีม ลูกอยู่ทีม มีข่าวว่าจะไปไหนนะ ยังอยู่นะ” นายวัชระจึงตอบกลับว่า “ยังอยู่ครับ” พล.อ.ประวิตรจึงพูดอีกว่า “ไม่รู้นะ กระแสข่าวมาว่าไม่อยู่แล้ว ไม่เป็นไร จะไปไม่ว่า จะได้หาคนอื่นลง” โดยนายวัชระได้แต่ยิ้ม นอกจากนี้ ยังได้แซวนายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี เกี่ยวกับเรื่องย้ายพรรคด้วย 

พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังประชุม ส.ส.ถึงเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่ต้องฝาก ส.ส.รู้อยู่แล้ว ซึ่งขุนพลมีทั้งหมดในพรรค แต่ไม่ใช่องครักษ์ คอยดูว่าอันไหนเรื่องจริง เรื่องไม่จริง ส่วนจะลุกขึ้นสู้หรือตอบโต้ทันทีเลยหรือไม่นั้น แล้วแต่ ส.ส.

จากนั้น นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.   ได้เปิดตัวนายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ซึ่งย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นสมาชิกพรรค พปชร. เพื่อเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 ในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งจะไปชนกับเจ้าของพื้นที่คือนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์

นายสุนทรกล่าวว่า สาเหตุที่ย้ายมา พปชร. เนื่องจากเป็นพรรคที่มีผลงาน มีความชัดเจนในเรื่องนโยบาย และเยียวยาความเดือดร้อนให้ประชาชนชัดเจนมากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความจงรักภักดี  ส่วน พล.อ.ประวิตรก็เป็นคนมากบารมี

เย้ยนายกฯ ลงเชียงใหม่

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. กล่าวถึงการจัดโรดโชว์พรรค พปชร.เวทีแรกที่ จ.ชลบุรี วันที่10 ก.ค.นี้ว่า พรรคต้องการแสดงผลงานที่ทำมาให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงบอกทิศทางการทำงานของพรรคในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับแฟนคลับของพรรค ส่วนที่เลือกจัดที่ จ.ชลบุรี เนื่องจากพื้นที่ภาค 2 เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรค พปชร.มีผู้แทนถึง 8 คน และในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเพิ่มมาอีก 2 เขต ซึ่งเราตั้งเป้าจะให้ได้ทั้ง 10 เขต

ถามว่า พรรค พปชร.ต้องปรับตัวแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ หลังความนิยมของอุ๊งอิ๊งแซงหน้า พล.อ.ประยุทธ์ นายสุชาติ กล่าวว่า ขอย้ำว่าคนที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯ ของประเทศไทยยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์

เช่นเดียวกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคและหัวหน้านโยบายพรรค พปชร. ยืนยันว่า พปชร.สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม แต่ยังไม่ได้มีการพูดถึงความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ที่ลดลง รวมถึงการหาจุดขายสำหรับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากนี้พรรคจะได้มีการหารือว่าจะใช้นโยบายหรือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการหาเสียงสู้ศึกเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม พรรคจะมีการปรับกิจกรรมทางการเมืองของพรรค

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเตรียมเปิดตัวนายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ว่ามีการพูดคุยกันจริง เพราะที่จังหวัดบุรีรัมย์คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กำหนดเขตเลือกตั้งแล้ว แต่ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนในพรรคได้มีการพูดคุยถึงแนวโน้มว่านายไชยชนก จะลงสมัคร ส.ส.บุรีรัมย์หรือไม่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

ถามว่า ขณะนี้บุรีรัมย์ได้เพิ่มจำนวน ส.ส.จาก 8 เขตเป็น 10 เขต พรรค ภท.จะกวาดหมดหรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน เราก็ทำงานเต็มที่ ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เฉพาะที่จังหวัดบุรีรัมย์ เราตั้งใจทำงานทั้งประเทศ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสิน

ซักว่ากังวลเรื่องผลนิด้าโพลหรือไม่ที่คะแนนความนิยมพรรคไม่ค่อยดี เลขาฯพรรค ภท.กล่าวว่า เป็นการสำรวจ ณ เวลานี้ ซึ่งมีหลักในการสำรวจ โดยมีหลายสถาบันที่ดำเนินการ แต่สิ่งที่แสดงออกมาต้องนำไปวิเคราะห์กัน ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่คน แต่สำหรับพรรคภูมิใจไทยก็ทำงาน

"พรรคก็ทำโพลเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ทำทั่วประเทศ ทำเฉพาะจังหวัดที่คิดว่าจำเป็นต้องทำ ส่วนโพลภูมิใจไทยจะได้เท่าไหร่ขณะนี้ยังทำไม่ครบ ซึ่งการหยั่งเสียงมีแนวโน้มไปด้วยดีมากกว่าโพลที่ปรากฏ" เลขาฯ พรรค ภท.กล่าว

วันเดียวกัน น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ถือว่าเป็นที่น่ากังวลว่าผักชีในจังหวัดเชียงใหม่คงหมดตลาด เพราะฝ่ายความมั่นคงจะนำไปปูพรมเพื่อสร้างภาพให้พล.อ.ประยุทธ์ดูดี มีคนยกป้ายเชียร์ตลอดทาง การไปเช่นนี้จะได้ประโยชน์อะไร เสียเวลา เสียงบประมาณโดยไร้ประโยชน์

"อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาในการลงพื้นที่จริงๆ ลงไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริง ไปเดินตลาดโดยไม่มีคนไปเคลียร์พื้นที่ให้ เพื่อรับฟังปัญหาของชาวบ้าน จะได้รู้ว่าประชาชนพูดถึงรัฐบาลอย่างไร เศรษฐกิจเป็นอย่างไร ข้าวของแพง นักท่องเที่ยวหาย พ่อค้าแม่ค้าเขาอยู่อย่างไร อย่าลงไปเพื่อหาเสียง ปากบอกรักชาวบ้าน พูดมา 8 ปี ชาวบ้านเอียนคำที่ไม่จริงใจเหล่านี้หมดแล้ว" ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท.ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้ จะมีอดีตแกนนำหมู่บ้านคนเสื้อแดง แฟนคลับ และกลุ่มคนรักบิ๊กตู่เตรียมมาต้อนรับประมาณ 500 คน ส่วนการข่าวความเคลื่อนไหวรวมกลุ่มของกลุ่มต่อต้านยังไม่มีแต่อย่างใด ท่ามกลางการจับตาในการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตระกูลชินวัตร ทั้งนี้ ในส่วนของฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดทุกเส้นทางและทุกจุดที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไปทำกิจกรรม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

นายกฯ ร่วมผู้นำ 17 ประเทศ แถลงเรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

งบ68 ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง  ‘เรือดำน้ำ-ฟริเกต’ ไปถึงไหน?

คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย