แค่ผุด2กก.แก้พลังงาน

“ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะประชุมยาว 3 ชม.เรื่องพลังงาน สุดท้ายไร้บรรเทาแค่ผุดคณะกรรมการ  2 ชุดศึกษาการดูแลประชาชน 3 เดือนก่อน นายกฯ ลั่นไม่เคยท้อแท้ วอนคนไทยช่วยกันประหยัด “กบน.” เคาะคงดีเซลลิตรละ 34.94 บาทอีก 1 เดือน “สุพัฒนพงษ์” แนะถอดสูทถอดเนกไท

เมื่อวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) ครั้งที่ 2/2565 เต็มคณะ เพื่อพิจารณาแผนรองรับวิกฤตพลังงานและอาหาร โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3  ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงผลประชุมว่า การประชุมใช้เวลายาวนานในด้านพลังงาน โดยได้มีการเตรียมมาตรการ 3 เดือนว่าเราจะพิจารณาให้อะไรเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ และจะดูแลตรงไหนได้อีกบ้างและมีเงินอีกจำนวนเท่าไหร่ จะหาเงินได้จากที่ไหน ถ้าใช้การกู้เงินมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเป็นการสะสมหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ซึ่งจะมีผลต่อการเงินในระยะยาว ส่วนในเรื่องการไปบังคับอะไรต่างๆ นั้นกฎหมายทำไม่ได้ ถ้าทำไปก็จะเสี่ยงถูกฟ้องร้อง ก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด

“ข้อสรุปคือมาตรการในช่วง 3 เดือน คือตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย. การหารือวันนี้ก็มีมาตรการที่จะต่ออายุเพิ่มเติมให้  และจะหาเงินจากที่ไหนได้บ้าง หลังจากนั้น 3 เดือนต่อไป  ต.ค.-ธ.ค. จะทำอะไรได้ต่อหรืออะไรที่ทำไม่ได้แล้ว ถ้าทำแล้วจะเกิดปัญหาต่อระบบการเงินการคลังก็ต้องไปดูอีก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวและว่า ส่วนค่าการกลั่น ค่าอะไรต่างๆ  ที่พูดๆ กัน มันมีกฎหมายทุกตัว ซึ่งกฤษฎีกาจะเป็นผู้ชี้แจงอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ ไม่ได้เอื้อประโยชน์กับใคร ทำไมต้องไปเอื้อกับใคร ถ้ามันทำได้จริงก็ทำได้ มันก็เสี่ยงอยู่เหมือนกัน

นายกฯ ยืนยันว่า วิกฤตพลังงานอันแรกไฟต้องไม่ดับ  พลังงานต้องมีเพียงพอ วันนี้ทราบว่าอัตราสำรองเรายังมีใช้ได้ระยะหนึ่ง แม้ไม่มีการนำเข้าอีก ส่วนเรื่องอาหารคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาการขาดแคลนอาหาร แต่วันหน้าเราต้องเตรียมความพร้อม จึงมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2  ชุด คือคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารวิกฤตเศรษฐกิจ  คล้าย ครม.เศรษฐกิจกลายๆ โดยนายกฯ เป็นประธาน  และตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจติดตาม ประมวลผล วิเคราะห์ผลกระทบ และจัดทำข้อเสนอในการแก้ปัญหาทุกมิติ จัดแผนรองรับในทุกด้านตามวิกฤตการณ์ในอนาคตด้วย

 “สิ่งสำคัญวันนี้ขอสักอย่างได้หรือไม่ รู้ไหมจะขออะไร ช่วยกันประหยัดหน่อยได้ไหม ช่วยประหยัดใช้พลังงาน ใช้ที่จำเป็นได้หรือไม่ เพื่อให้ค่าต่างๆ ลดลง ค่าไฟฟ้าลด ค่าเอฟทีลด ถ้าใช้เหมือนเดิมก็ลำบากเหมือนกัน แต่ผมก็ขอร้องเท่านั้นบังคับไม่ได้อยู่แล้ว ผมเองก็ใช้รถเท่าที่จำเป็น”  พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า ในแผน 3 เดือนข้างหน้าจะมีการกู้เงินหรือไม่ และมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 อย่างไร  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้พูดถึงว่ามีความจำเป็นไหม ต้องดูแลต่อไหม อันไหนที่ต้องพอแค่นี้ก่อน สิ่งสำคัญต้องเซฟให้ได้ก่อน จะเซฟตรงไหนลงได้บ้าง ไม่ใช่ไปเรื่อยๆ จนไม่มีวันสิ้นสุด มันก็จะไปไม่ได้หมด ถ้ามันไม่ได้แล้วจะกู้เงินหรือไม่ ควรต้องทำไหม จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนใช้รถใช้ถนนได้หรือไม่ มันเกี่ยวข้องกันหมด อย่าไปคิดว่าเราโยนความรับผิดชอบให้ใคร

ถามอีกว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะเร่งประชุมภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวเขาทำเอง แนวทางอยู่ในช่วง 3 เดือนนี้อยู่แล้ว ค่าน้ำค่าไฟอะไรต่างๆ จะทำได้ถึงเดือน ธ.ค.หรือไม่ หรือจะเพิ่มอะไรได้บ้าง ต้องดูกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวา ยืนยันจะดูแลให้เต็มที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเปรียบเทียบหลายประเทศมีปัญหามากกว่าเรา ถ้าเรามองแต่ตัวเราก็จะรู้สึกว่าเราแย่ที่สุด มันไม่ใช่ คิดว่าทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหา แม้ประเทศมหาอำนาจก็เจอปัญหาพลังงานเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ยังมีกำลังใจที่จะสู้ต่อหรือไม่  นายกฯ ​กล่าวว่า ไม่เคยท้อแท้อยู่แล้ว ถ้าอยู่ต่อก็ทำให้ ถ้าไม่อยู่ก็หาคนอื่นมาทำกันเอง ทำให้ดีกว่าก็แล้วกัน ประชาชนจับตาดูอยู่แล้ว

พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า  คณะทำงานชุดที่ตั้งขึ้นจะติดตามขับเคลื่อน ซึ่งจะมีความคล่องตัวอย่างมาก โดยมีนายกฯ เป็นประธาน แต่ส่วนคณะทำงานชุดที่ 2 จะมีผู้แทนจากกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นรัฐมนตรีหรือปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ชื่อคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ

ขณะที่นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่าได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์  โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชนในช่วงเวลานี้ โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ขณะที่ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 3 ก.ค.65 ติดลบ  107,601 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ  69,718 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ  37,883 ล้านบาท

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีวาระกระทู้ถามเป็นหนังสือและกระทู้ถามสดถึงแนวทางการแก้ปัญหาพลังงานและสถานการณ์พลังงานในประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน และแนวทางบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์  รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งรัฐบาลหาทางแก้ปัญหาอยู่  สำหรับข้อเสนอเกี่ยวกับการลดค่ากลั่นนั้น ในข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบการมีกำไรในส่วนดังกล่าวมา 2-3 เดือน  ไม่ใช่มีกำไรมาอย่างยาวนาน

 “หากเจรจาเพื่อลดค่ากลั่นต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย หากโรงกลั่นยุติการกลั่น รัฐบาลจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมัน อาจทำให้ราคาน้ำมันมีราคาสูงขึ้น แต่เชื่อว่าหากวิกฤตพลังงานมีสูงขึ้น การเจรจาเพื่อขอโรงกลั่นในการลดกำไรน้อยลงอาจทำได้ในอนาคต” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวอีกว่า ยังมีแนวทางในการประหยัดพลังงาน รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยประหยัดไฟฟ้า ด้วยวิธีปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ซึ่งหากวุฒิสภาทำได้ ปรับอุณหภูมิ ไม่ต้องใส่สูท ผูกไท และมีอุปกรณ์วัดพลังงาน เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเริ่มทำแล้ว ผ่านการถ่ายทอดสด เพื่อจะทำให้เกิดการปฏิบัติจริงจังมากขึ้น กระทรวงพลังงานพร้อมสนับสนุน เพื่อช่วยรัฐสภาทำเรื่องนี้.