‘บิ๊กตู่’แบะท่าอยู่ยาว โปรยยาหอมชาวกล้วยไข่ ได้งบปี67จะทำให้เร็วขึ้น

“บิ๊กตู่” ลงตรวจราชการ จ.กำแพงเพชร ลุยสวนกล้วยไข่ หยอดลูกอ้อนชาวบ้านตลอดทาง บอกเอาหัวใจมาฝากแม้อากาศร้อนแต่อบอุ่นใจ ย้ำรักทุกกลุ่มทุกจังหวัดแม้ไม่เลือก เสียงหนุน "ลุงตู่" เป็นนายกฯ ต่อดังกระหึ่ม “นายกฯ”  เปรยปัญหาเยอะ ตามแผนงานโครงงานต่างๆ เข้าไปแล้ว จะได้งบประมาณปี 2567 ถ้าอยู่ต่อจะทำให้เร็วชิงออกตัวไม่ได้มาหาเสียง

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 07.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ (แบล็กฮอว์ก) ไปยัง จ.กำแพงเพชร เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการ

เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะเดินทางถึงที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชร มี ส.ส.พลังประชารัฐ (พปชร.) กำแพงเพชร อาทิ นายอนันต์ ผลอำนวย, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย, นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์, นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และมีนายมนัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก, นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร, นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ มารอต้อนรับ ซึ่งนายกฯ ได้ขอให้ร่วมกันทำงาน พร้อมระบุว่า "ใจๆๆ" และเอามือตบไปที่หน้าอกด้านซ้าย

จากนั้นคณะเดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง โดยมีการขับร้องเพลงฉ่อยต้อนรับ และมีประชาชนมอบดอกกุหลาบพร้อมตะโกนให้กำลังใจ เรารักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ และชูป้ายข้อความ "ชาวกำแพงเพชรขอสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป สู้ๆ เพื่อประเทศไทย" จากนั้นนายกฯ เดินทางไปวัดคูยาง เพื่อกราบนมัสการพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดคูยาง พระอารามหลวง

เวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปตรวจเยี่ยมการบริหารงานกล้วยไข่แปลงใหญ่ ณ บ้านท้องคุ้ง หมู่ที่ 7 ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง โดยผู้ว่าฯ กำแพงเพชร กล่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) และรายงานการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ ทั้งนี้ เกษตรกรได้รายงานผลการดำเนินงานจากประธานกลุ่มกล้วยไข่แปลงใหญ่ ซึ่งการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ทำมาทั้งหมดขอชื่นชมในความเข้มแข็งและเข้าถึงปัญหา การจะทำอะไรก็ตามต้องเข้าถึงปัญหา เรียกว่าเราต้องมีความรู้ มีภูมิคุ้มกันในการจะปลูกอะไรต่างๆ ที่สรุปมาทั้งหมดถือว่าเข้าถึงแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และวันนี้รัชกาลที่ 10 ให้รักษา ต่อยอด เราก็ต้องเอาอดีตมาดูและแก้ไขอย่างไร ทำอย่างไรให้มีเงินเพียงพอ นายกฯ และรัฐบาลต้องการให้ทุกคนมีรายได้ที่ยั่งยืน วันหน้าจะปรับปลูกหรืออะไร จะรู้ได้อย่างไรมันจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่รู้ แต่ที่อยู่กันแน่ๆ คือกล้วย ใครจะเปลี่ยนจะปรับอะไรก็ตามอย่าทิ้งกล้วยไข่

 “นายกฯ รับว่าจะดูแลให้ดีที่สุด วันข้างหน้าใบหน้าจะได้ขาวขึ้น นายกฯ รักอยู่แล้ว แม้ไม่เลือกก็รักทุกคน รักทุกจังหวัด รักทุกกลุ่มประเทศไทย จะแตกกันอีกไม่ได้แล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้นถ้าเรามีปัญหากันอยู่อย่างนี้ วันนี้รู้ไหมต่างประเทศมาเจรจากับนายกฯ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ จะมา คือรายได้ของประเทศ และก็จะเป็นภาษี และภาษีก็กลับมาตรงนี้ ผมไม่ได้หวังภาษีอะไรจากพวกท่าน ซึ่งมันก็น้อยอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวกับเจ้าของสวนกล้วยไข่ และสอบถามวิธีการปลูกกล้วย  พร้อมระบุว่า ที่หลายคนบอกว่าบางอย่างเป็นเรื่องกล้วยๆ เป็นเรื่องง่ายๆ แท้จริงแล้วไม่ใช่ เพราะการปลูกกล้วยไม่ใช่เรื่องง่าย จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ปลูกต้นกล้วยไข่และรดน้ำต้นไม้ พร้อมระบุว่า ให้โตเร็วๆ ก่อนให้อาหารแพะ และชมว่าแพะน่ารัก พร้อมลูบหัวอย่างเอ็นดู

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยไข่ อาทิ แป้งกล้วยไข่ ข้าวเกรียบ น้ำพริกกล้วยไข่ เส้นหมี่และแผ่นเกี๊ยวจากแป้งกล้วยไข่ ก่อนที่นายกฯจะได้รับมอบกระเป๋าผ้าที่เขียนว่า "กำแพงเพชร" โดยชาวบ้านบอกว่า “ขอให้ปกป้องคุ้มครองนายกฯ” ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า “กำแพงต้องปกป้องคุ้มครอง กำแพงต้องแข็งแรง ไม่ผุพัง ต้องเสริมไปเรื่อยๆ ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติประชาชนคนไทยทุกคน นั่นคือเจตนารมณ์ของพวกเรา” จากนั้นนายกฯ ได้รับมอบของที่ระลึก เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วยไข่ และได้รับมอบรูปพระครูวิบูลวชิรธรรม (สว่าง อุตตโร) วัดคฤหบดีสงฆ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างขบวนรถนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปที่ ต.วังบัว อ.คลองขลุง เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการขจัดความยากจน และพัฒนาทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และมอบบ้านผู้ยากไร้ ปรากฏว่ามีชาวบ้านมายืนรอให้กำลังใจบริเวณข้างทางจำนวนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์จึงได้หยุดขบวนรถและลงไปทักทาย พร้อมร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง

เอาหัวใจมาฝากกำแพงเพชร

เวลา 12.10 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่ชุมชนตำบลวังบัว อ.คลองขลุง ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการขจัดความยากจนและพัฒนาทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) และมอบบ้านผู้ยากไร้ จำนวน 1 หลัง และบ้านที่ดำเนินการเสร็จแล้วแก่ผู้แทน จำนวน 10 หลัง ซึ่งทันทีที่มาถึงชาวบ้านกลุ่มพัฒนาบทบาทสตรีได้ตะโกนให้กำลังใจกึกก้อง "เรารักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ" นายกฯ จึงได้เข้าไปทักทายและถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งกลุ่มสตรีได้ผูกผ้าขาวม้าให้นายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนนั้นสู้กับความยากจน สู้เพื่อพวกเรา ทำให้ประเทศไทยนั้นแข็งแกร่ง ถ้าเรารวมพลังกันไม่ได้ ประเทศไทยจะเสียโอกาสหมดเลย ถ้าเราไม่รักไม่สามัคคีกัน ไปไม่ได้ทั้งหมดเลย มีคนถามว่านายกฯ อยู่มาหลายปีไม่ทำอะไรเลย จริงหรือเปล่า หลายอย่างโครงการเป็นระยะ 3 ปี 5 ปี รัฐบาลไหนอยู่นานก็ทำได้เยอะ ตนพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน แต่เป็นเพราะเรานั้นต้องนำเข้า ซึ่งส่งผลเกี่ยวพันทั้งหมดกับราคาสินค้า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ทำมือสัญลักษณ์ I love you พร้อมกล่าวว่า ผมรักทุกคน

เวลา 14.00 น. นายกฯ เดินทางไปยังฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) ต.วังแขม อ.คลองขลุง เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการแหล่งน้ำ และการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน โดยนายกฯ ทักทายผู้นำชุมชนและรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำจากรองอธิบดีกรมชลประทาน โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลที่มีความจุ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้มีน้ำอยู่ประมาณ 43% หรือประมาณ 5.6 ร้อยล้านลูกบาศก์เมตร

นายกฯ กล่าวทักทายประชาชนที่มาต้อนรับว่า "อย่าปล่อยให้สาวๆ เขามารอนาน แต่งตัวซะสวยเชียวนะ วันนี้นายกฯ ดีใจ และตื่นเต้นที่จะมาที่นี่ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ เพราะรู้ว่าจะมาเจอสาวๆ ที่นี่"

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราทุกคนคือคนวัยเดียวกันที่จะต้องช่วยกันพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ทุกคนต้องทำเพื่อประเทศชาติ วันนี้ดีใจหลายๆ ที่จะได้มาเจอกัน เมื่อเช้าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากชาวจังหวัดกำแพงเพชร วันนี้เอาหัวใจมาฝากชาวกำแพงเพชร ส.ส.ก็พวกเราทั้งนั้น ทุกอย่างให้รู้ว่าตนนั้นใจร้อน อยากทำอะไรให้มันเสร็จๆปัญหาของเรามันเยอะเหลือเกิน แต่เราอยู่มา 7 ปีกว่าแล้ว

“ตามแผนงานโครงงานต่างๆ มันเข้าไปแล้ว จะได้งบประมาณปี 2567 แต่ถ้าผมอยู่จะทำให้เร็วขึ้น พูดอย่างนี้ได้หรือไม่ ผมไม่ได้มาหาเสียง ไม่ได้มาพูดอะไรล่วงหน้า คือถ้าผมอยู่ก็จะทำอะไรให้เร็วขึ้น เราก็พยายามอย่างเต็มที่ในหลายปีที่ผ่านมา หลายอย่างเราก็เก็บตกมาทั้งหมด บางอันก็ทำไม่เสร็จ ทำไม่ต่อ ทำไม่ยาว ถนนหนทางถ้าเราไม่อยู่หลายปีมันทำไม่ได้หรอก วันนี้รถไฟ ถนนน้ำครบหมด เพราะน้ำคือชีวิต ที่ตกลงมาก็พอสมควรแต่อยู่ว่าจะเก็บได้แค่ไหน ระบายได้แค่ไหน แต่ถ้าตกมาเกินปริมาณที่รับได้เขื่อนก็พังหมด เมื่อเช้ามาที่นี่รู้สึกแข็งแรงขึ้นมาก เพราะอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้รับอากาศอย่างนี้ มาที่นี่แล้วรู้สึกอบอุ่น อาจจะร้อนไปบ้าง แต่อบอุ่นใจ คนเรามันอยู่ด้วยใจ อยู่ด้วยกำลังใจ เหมือนนายกฯ อยากให้เรา เราก็ให้นายกฯ ตอบกลับมา เต็มร้อยเลย ใครให้นายกฯ เต็มร้อย ให้กลับไปเป็นสองร้อย เกทับหน่อย" นายกฯ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้พวกมาเยอะ ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. เราพูดคุยกันแล้วว่าเราจะทำอะไรเพื่อประชาชนอย่างไร เราต้องเดินไปข้างหน้าด้วยวิธีการแบบนี้ ทำการเมืองก็ต้องเพื่อประชาชน เราอาจจะสัญญามากไม่ได้ แต่เราต้องทำให้ได้ในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้ฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดีว่า "จะดูแลเมื่อยามเธอเศร้าหมอง" ซึ่งเป็นเพลง "ขอเป็นคนหนึ่ง" ขับร้องโดยนางนันทิดา แก้วบัวสาย โดยก่อนที่นายกฯ จะเดินไปตรวจเยี่ยมจุดทดน้ำ ประชาชนได้ตะโกนบอกว่า "ขอให้นายกฯ กลับมาเป็นนายกฯ อีกนะ"

จากนั้น นายกฯ ได้พบกับประชาชนจากจังหวัดพิจิตร กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ที่มารอพบพร้อมตะโกนนายกฯ สู้ๆ และขอให้นายกฯ ดูแลเรื่องบริหารจัดการน้ำช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ถ้าได้อยู่ก็จะทำต่อ  ทำให้ชาวบ้านปรบมือ นายกฯ จึงกล่าวอีกว่า เดี๋ยวหาว่ามาหาเสียง ไม่ใช่ แต่มาตรวจงาน ดูทุกพื้นที่ ทั้งนี้นายกฯ ยังขอให้ประชาชนดูแลป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ก่อนที่ชาวบ้านจะผูกผ้าขาวม้าให้นายกฯ ด้วย

เวลา 14.45 น. พล.อ.ประยุทธ์มาที่ขาณุวรลักษบุรี โมเดล หมู่ที่ 2 ต.แสนตอ อ.ขาณุวรลักษบุรี ตรวจเยี่ยมการผลิตข้าวมาตรฐานเกษตรปลอดภัยของกลุ่มปลูกข้าว GAP “ขาณุวรลักษบุรี โมเดล” แนวทางการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน โดยนายกฯได้ลองขับรถดำนารุ่น 8 แถว นั่งขับ SPV 8 และชมโดรนพ่นปุ๋ย ก่อนนั่งพูดคุยกับเกษตรกร

ตอนหนึ่งนายกฯ ระบุว่า วันนี้ไม่ได้มาขอคะแนนเสียง ตนคือนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่มาดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ตนรับฟังจากทุกส่วนทั้งรัฐมนตรี ส.ส. ถ้าได้ทำงานก็จะทำต่อไปเรื่อยๆให้มีผลงานเป็นรูปธรรม ที่เน้นวันนี้คือโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟฟ้าทางคู่ สนามบินทั้งหมดทำไปเท่าไหร่แล้วใช้เวลา 8 ปีเต็มๆ ถึงได้มีผลงานวันนี้

“รัฐบาลถ้าอยู่ยาวต้องมีผลงานแบบนี้ แต่ถ้าอยู่สั้นๆ 1-2 ปีมีผลงานเล็กๆ น้อยๆและไม่สำเร็จ รัฐบาลต้องทำงานแบบมียุทธศาสตร์ ไม่ได้ทำแบบสุกเอาเผากิน ผมไม่ได้ต้องการให้เงินทั้งหมดมาเป็นบุญคุณกับเรา แต่ให้เงินเพื่อไปสร้างความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ