หนักแน่นยึดเหตุผล ในหลวงรับสั่งมีเหตุกระทบสวัสดิภาพความมั่นคงย้ำสามัคคี

"ในหลวง" เสด็จออกมหาสมาคมเนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระราชทานพระราชดำรัส 

เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งในและนอกประเทศ กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพ ตลอดจนความมั่นคงของชีวิตและการงานของประชาชนทุกคนเป็นอย่างมาก จำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องทำความคิดจิตใจให้หนักแน่น ยึดมั่นในเหตุผลที่ถูกต้อง   และประโยชน์สุขของส่วนรวม แล้วมุ่งมั่นปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความสมัครสมานสามัคคีให้ก้าวหน้าไปได้ทันกับสภาวะของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2565 เวลา 10.17 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน  พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง  ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา  28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2565

การนี้ รถยนต์พระที่นั่งเข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ แล้วเทียบที่ประตูกำแพงแก้วพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ด้านตะวันออก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร ลงทางอัฒจันทร์ด้านพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดีสิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงยืนเฝ้าฯ ด้านตะวันตกหน้าแถวพระบรมวงศานุวงศ์ ใกล้มุมเสาด้านซ้ายพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ในพระวิสูตร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร  เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่ง แตร  มโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ครั้นสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกยังหน้าพระวิสูตร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา

นางสาวปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ ความว่า

"ข้าพเจ้ามีความชื่นชมและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายพร้อมเพรียงกันมาให้พรวันเกิดแก่ข้าพเจ้า ในวาระนี้ ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา   ประธานศาลฎีกา ในคำอำนวยพร อันเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีของทุกท่าน ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรีด้วยใจจริงเช่นกัน ความปรารถนาดีที่จะให้เกิดความสุขความสวัสดีแก่ข้าพเจ้านั้น จะสำเร็จได้ก็ด้วยความพร้อมเพรียงและความสามารถของทุกท่านที่จะร่วมมือกันปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ให้บรรลุผลสมบูรณ์   เพื่อประเทศชาติและประชาชน ทุกวันนี้เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งในและนอกประเทศ ได้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพ ตลอดจนความมั่นคงของชีวิตและการงานของประชาชนทุกคนเป็นอย่างมาก จำเป็นที่ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องทำความคิดจิตใจให้หนักแน่น ยึดมั่นในเหตุผลที่ถูกต้อง และประโยชน์สุขของส่วนรวม แล้วมุ่งมั่นปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความสมัครสมานสามัคคีให้ก้าวหน้าไปได้ทันกับสภาวะของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา    จึงขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมแห่งนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคน มีขวัญและกำลังใจที่ดีอยู่เสมอ รวมทั้งรักษาความดี ความสามัคคี ความสุจริต  ไว้ให้มั่นคงหนักแน่น ความสุขและความสวัสดีก็จะเกิดมีขึ้น   ทั้งแก่ประเทศชาติและประชาชนพร้อมทุกส่วน ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา  จงคุ้มครองรักษาทุกๆ ท่าน ให้มีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน"

จบแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมเช่นเวลาเสด็จออก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวรไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ต่อมาเวลา 17.14 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ครั้นรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินไปยังชานหน้าพระอุโบสถ บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์ โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ เสด็จลงจากชานหน้าพระอุโบสถ พระราชทานราชสังคหวัตถุแก่ข้าละอองธุลีพระบาทผู้สูงอายุ ฝ่ายหน้า-ฝ่ายใน แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าพระราชอาสน์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าพระเก้าอี้ที่ประทับ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลเทียนเท่าพระองค์และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปองค์อภิบาลและองค์แทรกพระชนมพรรษาแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 9 ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ  ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร

พระสงฆ์ 71 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระสงฆ์ 71 รูปเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบททำน้ำพระพุทธมนต์ ทรงจุดเทียนที่ฝ่าพระครอบพระกริ่ง

เจ้าพนักงานเชิญไปตั้งที่โต๊ะหน้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จฯ ไปทรงประเคนพระครอบพระกริ่งแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราชแล้ว เสด็จลงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลปล่อยโค นก ปลา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ณ ท่าวาสุกรี  เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ส่วนที่ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง พล.อ.ต.สุพิชัย  สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานเชิญแจกันดอกไม้ของหน่วยราชการในพระองค์ ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิองค์กร มหาวิทยาลัย โรงเรียนเชิญแจกันดอกไม้ไปถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ขณะที่อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ฝั่งทิศตะวันออก ในพระบรมมหาราชวัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมคณะรัฐมนตรี และคู่สมรส, คณะองคมนตรี, ประธานรัฐสภา, ประธานวุฒิสภา, ประธานศาลฎีกา, จุฬาราชมนตรี, ศาลปกครอง นำแจกันดอกไม้ไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมลงนามถวายพระพร เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2565

ส่วนที่ปราสาทพระเทพบิดร พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชน เข้าถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชที่ปราสาทพระเทพบิดร  ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยตลอดทั้งวันมีประชาชนเดินทางมาถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกัน สำนักพระราชวังเปิดเขตพระราชฐานต่างจังหวัดลงนามถวายพระพรชัยมงคล ทั้ง 5 เขตพระราชฐาน มีพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์, พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์, พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์, พระราชวังบางปะอิน และพระราชวังไกลกังวล นอกจากนี้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมลงนามถวายพระพรผ่านเว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง