ท้ายื่นศาลชี้วาระ8ปี รัฐบาลแค่ตั้งรับ/พปชร.เฉ่ง 99พลเมือง-‘บิ๊กน้อย’ยึด‘รวมแผ่นดิน’

“วิษณุ” ท้าใครสงสัยเรื่องวาระ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ยื่นให้ศาลตีความได้เลย รัฐบาลขอแค่ตั้งรับ เด็ก  พปชร.ซัดก๊วน 99 พลเมืองคนหน้าเดิมที่ไม่ชอบลุงตู่กลับมาเดินเกมหลังใช้เด็กไม่เวิร์ก “พีระพันธุ์” ดอดเข้าทำเนียบฯ  หารือนายกฯ 20 นาที รทสช.สุดคึกอดีตนักการเมืองแห่ตบเท้าเข้าสังกัด “บิ๊กน้อย” เทกโอเวอร์พรรครวมแผ่นดิน หวังกวาด ส.ส. 25 เก้าอี้ ลั่นไม่ซ้ำรอยเศรษฐกิจไทยแน่ “ครอบครัวเพื่อไทย” นัดลุยเชียงราย

เมื่อวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม ยังคงมีความต่อเนื่องในเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าใครสงสัยสามารถยื่นศาลได้เลย เห็นฝ่ายค้านบอกว่าจะส่งวันที่ 7 ส.ค. แต่รัฐบาลไม่เป็นฝ่ายส่งเพราะไม่ได้สงสัย รัฐบาลเป็นฝ่ายตั้งรับเท่านั้น

สอบถามว่ากังวลหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เคยมีใครพูดว่ากังวล และไม่ใช่เป็นเรื่องเชื่อมั่นอะไร ก็เฉยๆ ถ้ามันไม่ถูก เพราะนับตั้งแต่ปี 2557 ก็ให้เป็นไปตามนั้น

เมื่อถามว่า ถ้าฝ่ายค้านยื่นศาลแล้ว ศาลสามารถเรียกนายกฯ ไปชี้แจงได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ศาลจะไม่เรียก แต่จะใช้วิธีส่งหนังสือมาที่รัฐบาล และรัฐบาลก็ตอบเป็นหนังสือกลับไปว่าเห็นอย่างไร อันนี้หมายถึงกรณีศาลถาม  แต่ถ้าศาลไม่ถามรัฐบาลก็ไม่ต้องตอบอะไร เพราะเรื่องนี้อาจเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งถ้าเป็นปัญหาทางข้อกฎหมาย ศาลสามารถพิจารณาเองได้ ไม่ต้องมีใครมาสอนศาล

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า รัฐบาลได้เตรียมตอบดักทางศาลบ้างหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้เตรียมเลย เพราะถ้าถึงเวลาต้องตอบก็ต้องมีเวลาพอที่จะตอบ เขาคงไม่ถามมาวันนี้และให้ตอบพรุ่งนี้ มะรืนตัดสิน คงไม่ใช่ และยังไม่แน่ใจว่าศาลจะถามให้รัฐบาลตอบหรือไม่

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมั่นใจหรือไม่ว่านายกฯ จะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยตอบว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจ และนายกฯ ก็ไม่เคยหารือเรื่องนี้ ยืนยันว่านายกฯ ไม่เคยตั้งทีมศึกษาเรื่องนี้ แต่ที่สภามี

ถามอีกว่า หากศาลรับคำร้องนายกฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า การจะหยุดหรือไม่อยู่ที่ศาลจะสั่งว่าให้หยุดหรือไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายล้วนๆ ไม่ได้เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่ได้มีเรื่องต้องสืบพยาน ดังนั้นก็ไม่น่าจะนาน แต่ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เรื่องนี้ศาลรู้เอง

ขณะที่นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี "กลุ่ม 99  พลเมือง" เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกเนื่องจากครบกำหนด 8 ปีตามรัฐธรรมนูญ ว่าคนกลุ่มนี้เคลื่อนไหวเพราะต้องการดิสเครดิตรัฐบาลและนายกฯ เพราะเขาไม่เอานายกฯ มาตั้งแต่ต้น ในการอภิปรายไม่วางใจก็ไม่สามารถทำอะไรนายกฯ ได้ จึงออกมาเรียกร้องภายนอก เคลื่อนไหวแบบเดิม แต่ครั้งนี้เปลี่ยนหน้าจากกลุ่มเด็กมาเป็นผู้ใหญ่หน้าเดิม จึงอยากถามกลับคนกลุ่มนี้ว่าหากนายกฯ ดำรงตำแหน่งต่อจะเป็นจะตายหรืออย่างไร

 “การดำรงตำแหน่งของนายกฯ คนตีความคือศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่กลุ่ม 99 พลเรือน ขอให้ใจเย็นๆ รอฟัง  เพราะเรื่องนี้ฝ่ายค้านเตรียมจะไปยื่นแล้ว ที่เคลื่อนไหว เพราะกลัวจะเงียบ จึงต้องสร้างชื่อออกมาเคลื่อนไหวเพราะกลัวคนจะลืมหรือไม่” นายสายัณห์กล่าว

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย  (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวเรื่องนี้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ได้พูดคุยกัน เรื่องนี้ต้องถามหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายส่วน โดยที่บ้านทรงไทย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี  ของนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. พร้อมแกนนำพรรคได้เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดนายประภัตรที่อายุครบ 73 ปี โดยช่วงหนึ่งขณะ น.ส.กัญจนาอวยพรนายประภัตรบนเวที ได้ผายมือไปที่นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท และนางนันทนา ส งฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ชัยนาท) พรรคประชาภิวัฒน์ พร้อมกับกล่าวว่า “เป็นทั้งอดีตและอนาคตของพรรค” 

อดีตนักการเมืองแห่เข้า รทสช.

ขณะที่ในช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์เป็นการส่วนตัว โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งการเข้าพบนายกฯ ครั้งนี้อยู่ในช่วงที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ที่สโมสรราชพฤกษ์ เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ซึ่งนายพีระพันธุ์มีชื่อจะเป็นหัวหน้าพรรค โดยได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ค.  ขณะที่ช่วงเช้าที่ทำการพรรค รทสช. ซอยอารีย์ฯ 5  นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง  เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ โดยจ่ายค่าสมัครรายละ 2,000 บาท

รายงานข่าวจาก รทสช.แจ้งว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคในวันที่ 3 ส.ค. นอกเหนือจากการเปิดตัวนายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีการเลือกตั้ง กก.บห.ใหม่ โดยนายเอกนัฏจะเป็นเลขาธิการพรรค  และเปิดตัวนักการเมืองที่จะมาร่วมงาน อาทิ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายสามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส.กทม.พรรค ปชป. และนายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง บุตรชายนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท, นายปองพล อดิเรกสาร  อดีตรองนายกฯ เเละอดีต รมว.การต่างประเทศ และนายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรีที่ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.ก่อนหน้านี้แล้ว โดยนายปองพลจะมาเป็นที่ปรึกษาพรรค

นายชื่นชอบกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.มาแล้ว 1 เดือน และจะไปเปิดตัวร่วมงานกับพรรค รทสช.ในวันที่ 3 ส.ค.และพร้อมทำทุกหน้าที่ที่ผู้ใหญ่ในพรรคมอบหมายให้

ส่วนที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมวิสามัญพรรคพลังชาติไทย ครั้งที่ 1/2565  ว่า ทำการเมืองได้มาระยะหนึ่งแล้ว และยังมีคนที่เราพาเข้ามาในการเมือง ตอนนี้เขาไม่มีที่พึ่งจึงต้องกลับมาหาบ้านให้เขาอยู่ให้เรียบร้อย ส่วนคนที่จะมาร่วมงานนั้น ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคเดิมที่ตามมาด้วย จึงมาอยู่ร่วมกันในพรรคนี้  และต้องการหาพรรคการเมืองใหม่ที่ให้ตนเองเป็นผู้นำ จึงขอกลับมาอีกครั้ง เพราะเราไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่าจะมี ส.ส.พรรค ศท.และพรรคเล็ก โดยเฉพาะกลุ่ม 16 เข้ามาร่วมงานด้วยหรือไม่ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ไม่เคยคุยกับใครทั้งสิ้น โดยพรรคพลังชาติไทยมี ส.ส.คนเดียว คือ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ก็ได้คุยกันอยู่แค่นั้น  ยืนยันว่าไม่มีการดีลกับพรรคเล็กตามข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าพรรคนี้ไม่ได้เป็นอะไหล่หรือพรรคแตกแบงก์พัน  เพราะทำทุกอย่างเพื่อสมาชิกพรรคเดิมที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และสุดท้ายเขาไม่มีที่ไป และเมื่อไม่มีที่ไปก็ต้องหาบ้านให้เขาอยู่ และไหนๆ มาแล้วก็จะต้องทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชนต่อ

ถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ก่อนมาตั้งพรรคหรือไม่  พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรไม่เกี่ยวที่ทำตรงนี้ ทำเพื่อสมาชิกพรรคเก่าที่เขาเดินตามมา เมื่อถึงเวลาจะทิ้งเขาไม่ได้ มันดูไม่ดีจึงต้องกลับมาดูแลเขาต่อ และคงไม่ซ้ำรอยเดิมที่พรรค ศท. เพราะการที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะมันไปคนละทางเท่านั้นเอง แต่ส่วนที่มาใหม่วันนี้ ทุกคนเข้าใจกันหมด และยืนยันว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในลักษณะนั้นอีกแล้ว

ตั้งเป้ากวาด 25 เก้าอี้

ต่อมาพรรคพลังชาติไทยได้ประชุมใหญ่วิสามัญ โดยมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรรครวมแผ่นดิน และมีการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ 14 คน โดย พล.อ.วิชญ์เป็นหัวหน้าพรรค นางบุญญาพร, พล.อ.สุรวัช บุตรวงษ์ อดีต ผอ.ททบ. และอดีต ผบ.หน่วยข่าวกรองทหาร และ พล.ต.พิชิต บุตรวงศ์ เป็นรองหัวหน้าพรรค ขณะที่นายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นเลขาธิการพรรค ทั้งนี้ยังมีบุคคลในแวดวงทหารที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาสังเกตการณ์ด้วย

พล.อ.วิชญ์แถลงหลังประชุมว่า เป้าหมายของพรรคมีอย่างเดียวคือ เป็นพรรคขนาดกลางที่สามารถเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล โดยเราหวัง ส.ส.กว่า 25 ที่นั่ง ในพื้นที่ภาคกลาง  ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ  ใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ตนเองและ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรุ่นพี่ที่เคยทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่อไปในอนาคตอาจมีคนที่ดีกว่าท่าน เราสนับสนุนคนที่ดีเพื่อให้ประเทศอยู่รอดและไปได้ ซึ่งยังไม่ได้ทาบทามใครทั้งสิ้น เป็นเพียงเริ่มต้นพรรค ซึ่งตอนที่จะตั้งพรรคก็ไปบอก พล.อ.ประวิตร ซึ่ง พล.อ.ประวิตรบอกว่าก็เอาสิ ลองไปทำดู ซึ่งส่วนตัวถ้ามีอะไรจะไปปรึกษา พล.อ.ประวิตร เคารพเหมือนพ่อ ดูแลกันมาตั้งแต่เป็นทหารอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว

 “ไม่คิดดึง ส.ส.จากพรรค ศท. และไม่เคยทำ ถ้าคนจะมาอยู่ร่วมกันไม่จำเป็นต้องไปดึง หรือไปทำอะไรให้เขามาเอง ส่วนการส่งผู้สมัครจะส่งเพียงบางเขตที่คิดว่ามีสิทธิ์ โดยเน้นในพื้นที่ภาคกลาง” พล.อ.วิชญ์กล่าวและย้ำว่า ไม่เคยเป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรไม่เคยสร้างนั่งร้านที่บ้านตนเองด้วย ไม่เคยมี ทุกคนเข้าใจว่าอยู่ใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร เพราะทำงานมาตั้งแต่สมัยเป็นทหารด้วยกัน

สำหรับพรรครวมแผ่นดิน ที่ชื่อเดิมคือพรรคพลังชาติไทย เป็นพรรคของ พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคที่เสียชีวิตลง จึงได้เลื่อนนางบุญญาพร รองหัวหน้าพรรคขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ภายในงาน นพ.ระวี  มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นำแจกันดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งนี้ นพ.ระวียืนยันจะไม่มีการยุบพรรคมาอยู่ร่วมกับพรรครวมแผ่นดินแน่นอน เพราะเราเป็นคนละน้ำกัน

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นไปจะมีเวทีครอบครัวเพื่อไทยอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง  และเวทีย่อยร่วมกับคนเสื้อแดงและรุ่นใหม่ควบคู่กันไปด้วย  ซึ่งวันที่ 7 ส.ค.ตั้งเวทีพบปะพี่น้องชาว จ.เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ ตั้งแต่เวลา 09.30  ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำพรรคชุดใหญ่ ทั้ง ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อของ จ.เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงร่วมคณะ 

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวถึงผลสำรวจเรื่องพรรคการเมืองไหน ยอดนิยมของนักการเมืองใหญ่ และพรรคการเมืองใหญ่สองพรรคที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ในรายละเอียดอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ใจจากแฟนคลับพรรคพลังประชารัฐ 85.4% ไม่ใช่เต็ม 100% แต่ได้ใจจากแฟนคลับพรรคอื่นๆ คือ 31.2% ของแฟนคลับ ปชป. 22.2% ของแฟนคลับพรรคสร้างอนาคตไทย 13.6% ของพรรคไทยสร้างไทย และได้ 5.6% ของพรรคเพื่อไทย ส่วน น.ส.แพทองธารได้ใจจากแฟนคลับพรรค พท. 62.4% และได้ใจจากแฟนคลับพรรคอื่นๆ คือ 18.2% ของพรรคไทยสร้างไทย 5.6% ของพรรคสร้างอนาคตไทย และได้เพียง 1.2%  ของ พปชร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง