สนองป้อม!กม.ลูกแท้ง สภาล่มปิดฉากหาร500พรรคเล็กดิ้นเฮือกสุดท้าย

ไม่มีพลิก! สภาล่มตามคาด  หลังเล่นเกมป่วน ขานชื่อนับองค์ประชุมครบฉิวเฉียด แต่พอโหวตมาตรา 24/1 ล่องหนไม่ครบ หายไป 22 เสียง "พรเพชร" ต้องสั่งปิดประชุมทันที ส่งผล กม.ลูกเลือกตั้งค้างเติ่ง ส่อเสร็จไม่ทันกำหนด 180 วัน  กลับใช้สูตรหาร 100 หึ่ง! "ขาใหญ่" ไล่จดชื่อบังคับไม่ร่วมสังฆกรรมหาร 500 สะพัด "บิ๊กป้อม" ยกหูสายตรงเรียก ส.ส.ออกจากห้องประชุม "พรรคเล็ก" สู้รอบ 2 เตรียมร้อง "ชวน" ขอเปิดประชุมรัฐสภานัดพิเศษ "บิ๊กตู่" ถกลับ 3 ป. ก่อนออกตัวไม่เกี่ยวสภาล่ม ลั่นสูตรไหนรับได้หมด 

ที่รัฐสภา วันที่ 10 ส.ค. มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 13 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง โดยมีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ คือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ..... และร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ..... ในวาระสอง และวาระสาม

เมื่อถึงเวลานัดประชุม 09.00 น. ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภาลงชื่อเข้าร่วมประชุมเพียง 147 คน แบ่งเป็น ส.ว. 78 คน และ ส.ส. 69 คน จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 727 คน จนกระทั่งเวลา 09.46 น. มีจำนวนสมาชิกรัฐสภาลงชื่อเข้าร่วมประชุมจำนวน 368 คน ถือว่าครบองค์ประชุม

จากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้สั่งเปิดการประชุม และแจ้งต่อที่ประชุมว่า ในวันนี้มีสมาชิกรัฐสภาลาพิเศษ จำนวน 32 คน ลาเพราะติดเชื้อโควิด 4 คน และลาที่ไม่ได้เจ็บป่วย 28 คน จึงแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่กรุณามาประชุม  อย่างน้อยร่างกฎหมายที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งเหลืออยู่ 5 มาตรา จะได้ผ่านไปได้

โดยที่ประชุมได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ..... ในมาตรา 8 ต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภายหลังลงมติมาตรา 8 เรียบร้อยแล้ว นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้ลุกขึ้นเสนอประธานที่ประชุม เพื่อขอให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุม นำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ..... ขึ้นมาพิจารณาแทรกร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ..... ก่อนชั่วคราว

นายชวนแจ้งว่า เรากำลังดำเนินการไปตามลำดับของมาตรา ไม่มีอะไรต้องเข้ามาแทรก ตอนนี้ต้องให้จบไปตามเรื่องนี้ ขณะนี้เข้ามาตราที่ 9 ของร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ...แล้ว และตนไม่ขอให้มีการลงมติเลื่อนระเบียบวาระการประชุม เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาตามมา ขออนุญาตให้เป็นไปตามลำดับการพิจารณา

กระทั่งที่ประชุมได้พิจารณาจนครบทั้ง 12 มาตรา โดยในวาระสาม ที่ประชุมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ..... ด้วยมติ 442 ต่อ 6 งดออกเสียง 2 ไม่ออกเสียง 6 เสียง

ต่อมาเวลา 10.45 น. ก่อนที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะเข้าสู่วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอญัตติขอนับองค์ประชุมก่อนที่จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายลูกฉบับดังกล่าว อีกทั้งแจ้งให้ทราบว่า ส.ส.ของพรรคจะไม่ร่วมสังฆกรรม ไม่ขออยู่ในห้องประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องนี้

อย่างไรก็ดี นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย คัดค้านญัตติของ นพ.ชลน่าน โดยเห็นว่าการเสนอญัตติไม่เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา และควรเดินหน้าการประชุมเข้าสู่ระเบียบวาระตามกระบวนการปกติ โดยไม่ต้องเช็กองค์ประชุมก่อนเข้าสู่การพิจารณา

สภาล่มตามคาด

นายชวนจึงได้ขอมติที่ประชุมว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบที่จะดำเนินการตามญัตติที่มีการเสนอ ซึ่ง นพ.ชลน่านได้คัดค้านการทำหน้าที่ของนายชวน โดยระบุว่าการเสนอญัตติเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับที่ตนจะเสนอ ไม่ใช่ญัตติที่ต้องมาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมก่อน แต่นายชวนยืนยันว่าต้องสอบถามจากที่ประชุมเสียก่อน เนื่องจากการเสนอญัตติเช็กองค์ประชุมเป็นแนวทางที่ไม่ปกติ เนื่องจากเป็นการเสนอก่อนที่ที่ประชุมจะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม

ที่ประชุมได้ลงมติไม่เห็นชอบที่จะดำเนินการตามญัตติของ นพ.ชลน่าน ด้วยคะแนน 283 ต่อ 27 งดออกเสียง 36 ไม่ออกเสียง 28 เสียง

เวลา 11.28 น. ที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในมาตรา 24/1  เรื่องวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 ตามที่ กมธ.ไปแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับมติที่ประชุมรัฐสภาที่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณจากการหาร 100 เป็นหาร 500

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การที่ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากหาร 100 เป็นหาร 500 เหมือนอยากเห็นพรรคส่วนเกิน พรรคเล็กพรรคน้อยเดินกันเป็นพรวน ขอชื่นชมคนเสนอญัตติเปลี่ยนเป็นวิธีหาร 500 ชื่อวีๆ มาศๆ ที่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อคนเดียว ได้คะแนนมา 3.5 หมื่นคะแนน แต่กลับมามีบารมีในสภา   ถ้าไม่มีเบื้องหลังการถ่ายทำ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นในรัฐสภา กล้าไปสาบานวัดพระแก้วหรือไม่ว่าไม่มีกลุ่มคนมาแทรกแซงหรือต่อรอง วันนี้เรากำลังโดนครอบงำ ขอให้ช่วยกันสกัด เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปตามครรลอง

ระหว่างนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ประท้วงที่ถูกพาดพิง โดยตอบโต้ว่า น่าสงสารพรรคที่แพ้หาร 500 เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมในช่วงนั้น ได้เตือนให้ถอนคำพูด จากนั้นนายครูมานิตย์และ นพ.ระวีได้พูดตอบโต้กันไปมา จนนายพรเพชรต้องไกล่เกลี่ยให้ยุติเพื่อเดินหน้าประชุมต่อไป

หลังการอภิปรายมาตรา 24/1 เสร็จสิ้น นายพรเพชรได้กดออดเรียกสมาชิกรัฐสภามาแสดงตน ใช้เวลาร่วม 15 นาที เพื่อรอสมาชิกเข้าห้องประชุม ผลการแสดงตนมีสมาชิกแสดงตน 367 เสียง เกินกึ่งหนึ่งไปหวุดหวิดเพียง 3 เสียง ถือว่ามีองค์ประชุมครบ แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิคัดค้าน กลัวจะมีการเสียบบัตรแทนกัน ขอให้ใช้วิธีแสดงตนโดยการขานชื่อรายบุคคล มีผู้รับรองครบถ้วน

ขณะที่ นพ.ระวีคัดค้าน เพราะการโหวตแสดงตนด้วยการเสียบบัตรผ่านไปแล้ว เกรงจะเตะถ่วงมากเกินไป ขอเสนอญัตติไม่ให้ใช้วิธีขานชื่อแสดงตน แต่นายพรเพชรยืนยันให้มีการแสดงตนโดยการขานชื่อรายบุคคล จากนั้นจึงเริ่มการขานชื่อแสดงตนเป็นรายบุคคล ใช้เวลาไป 1.30 ชั่วโมง

หลังจากที่ขานชื่อแสดงตนครบถ้วนแล้ว ปรากฏว่ามี ส.ส.และ ส.ว.หลายคนที่ขานชื่อไม่ทันในการเรียกชื่อเป็นรายบุคคล มาขอขานชื่อแสดงตนเพิ่มเติมภายหลังเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความสับสน ต้องเติมชื่อเพิ่มกันวุ่นวาย รวมแล้วเสียเวลาไปร่วม 2 ชั่วโมงในการขานชื่อและนับผลแสดงตน ผลการนับองค์ประชุมมีผู้แสดงตน 403 คน ถือว่าครบองค์ประชุม

นายพรเพชรจึงให้ ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนว่าจะเห็นชอบเพิ่มมาตรา 24/1หรือไม่ ช่วงการเสียบบัตรลงคะแนนดังกล่าวก็ต้องเสียเวลาไปอีกร่วม 20 นาที เพราะสมาชิกในห้องประชุมกลับมาเหลืออยู่น้อย โดยนายพรเพชรพยายามยื้อให้สมาชิกกลับมาเสียบบัตรลงคะแนนให้มากที่สุด จนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า ขอให้นายพรเพชรรีบเปิดเผยผลการลงคะแนนมาตรา 24/1

ในที่สุดนายพรเพชรแจ้งผลการลงคะแนนต่อที่ประชุมว่า องค์ประชุมลงคะแนนไม่ครบขอปิดประชุม ในเวลา 16.17 น. ทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายลูกค้างอยู่ในที่ประชุม มีแนวโน้มพิจารณาไม่เสร็จภายในกำหนด 180 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังปิดประชุม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้โพสต์เฟซบุ๊กทันทีว่า “สภาล่ม ขาด 22คน”

มีรายงานว่า ก่อนจะมีการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ ในส่วนของพรรค พปชร.ได้มีโทรศัพท์ไปยัง ส.ส. ในช่วงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 9 ส.ค. กำชับให้ทุกคนมาร่วมประชุมรัฐสภา เพื่อให้เปิดการประชุมรัฐสภา และโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... ที่เหลืออยู่ 5 มาตรา จากทั้งหมด 12 มาตรานั้นให้เรียบร้อย เนื่องจากถือว่าเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศที่สำคัญ หากไม่ผ่าน ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกันตั้งแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส.ส. และ ส.ว. จากนั้นขอให้ทุกคนออกจากห้องประชุม เพื่อไม่ต้องพิจารณาวาระถัดไป คือร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

พรรคเล็กดิ้นยื่น'ชวน'สู้

"ช่วงที่ ส.ส.พปชร.บางส่วนที่ยังอยู่ในห้องประชุม ได้มีขาใหญ่เดินมากำชับให้ออกจากห้องประชุม พร้อมทั้งจดชื่อ เพื่อส่งต่อให้กับหัวหน้าพรรค นอกจากนี้ในช่วงหนึ่งของการแสดงตนเป็นองค์ประชุม ในการพิจารณา ยังมี ส.ส.พรรค พปชร. กว่า 20 คนนั่งอยู่ในห้องประชุม ทำให้มีโทรศัพท์ที่คาดว่าน่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร โทรศัพท์หา ส.ส.พรรคแบบเรียงตัวให้ออกจากห้องประชุม แต่ยังเหลืออยู่ในห้องประชุม เพื่อร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมประมาณ 5-6 คน" แหล่งข่าวระบุ 

ในส่วนพรรคเพื่อไทย ส.ส.พากันเดินออกจากห้องประชุม ไม่อยู่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม มีเพียง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนั่งอยู่เพียงคนเดียว รวมทั้งนายการุณ โหสกุล และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ที่ประกาศแสดงตนเป็นองค์ประชุมในครั้งนี้ พรรคก้าวไกล มี ส.ส.พรรคอยู่ในห้องประชุมประมาณ 15-20 คน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคนั่งอยู่

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ปรากฏว่าแกนนำพรรคและ ส.ส.ได้แสดงตนเป็นองค์ประชุมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค มาคุมด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีแล ะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค มานั่งคุมสมาชิกในห้องประชุม

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงมติว่า ผลที่เกิดขึ้นต่อจากนี้อย่างเป็นทางการ ในเมื่อยังไม่มีการนัดหมายประชุมรัฐสภาอีก โอกาสการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ไม่ทันกรอบ 180 วัน ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ถือว่าค่อนข้างสูง ยังไม่แน่ใจว่าประธานรัฐสภาจะมีดำริให้นัดประชุม หรือวิปจะหารือเพื่อนัดประชุมเพิ่มหรือไม่ เมื่อดูแนวโน้มและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การนัดประชุมรัฐสภาแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงจะเป็นไปตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่จะกลับไปใช้ร่างของ กกต.ที่ใช้สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 100

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ.. รัฐสภา กล่าวว่า มีข้อถกเถียงว่าจะนับวันสุดท้ายวันที่ 15 ส.ค.หรือไม่ โดยส่วนตัวมองว่าจะครบกรอบเวลาดังกล่าวที่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 14 ส.ค. ดังนั้นหากมีข้อเรียกร้องให้นัดประชุมวันที่ 15 ส.ค. จะถือว่าเกินเวลา อีกทั้งในวันดังกล่าววุฒิสภามีการประชุม 

เวลา 16.50 น. พรรคเล็กนำโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่, นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย ร่วมกันแถลงข่าวว่า ต้องขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่มาร่วมยืนหยัดในการประชุมครั้งนี้ และก็ต้องชมพรรค พท. ที่เล่นเกมแตะถ่วงได้สุดยอดมาก ตนทราบมาว่ามีองค์ประชุมขาดเพียง 3 คน จาก 364 คน และยืนยันว่าสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ยกแรกฝ่ายหาร 100 ชนะ ยกที่สอง ฝ่ายหาร 500 ชนะ และยกที่สามในการประชุมวันนี้ฝ่ายหาร 500 แพ้ แต่ยังมียกสี่ ยกห้า และยกสุดท้ายจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าสูตรหาร 500 แน่นอน

ถามว่ามีอะไรฝากถึง พล.อ.ประวิตร หรือไม่ นพ.ระวีกล่าวว่า เหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมามีการมองกันว่า พล.อ.ประวิตรอยู่เบื้องหลังสูตรหาร 500 ซึ่งพล.อ.ประวิตรต้องพิสูจน์ว่าไม่รู้ไม่เห็นจริงๆ โดยบอก ส.ส.พปชร.และ ส.ว.สายพล.อ.ประวิตรให้อยู่ร่วมประชุมในวันนี้ แต่วันนี้ประธานวิปรัฐบาลและทีมวิปรัฐบาลไม่ร่วมขานชื่อ ดังนั้น พล.อ.ประวิตรอย่าไปฟังคนใกล้ชิดที่อาจจะแอบอ้างชื่อหรือไม่ ตนยังเชื่อว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้เกี่ยวข้อง เท่าที่ได้ยินมาก็ล้วนบอกว่า “นายสั่ง” 

 “คราวหน้าหากมีการประชุม พล.อ.ประวิตรต้องพิสูจน์ด้วยการสั่งให้พรึ่บ ไม่ว่าจะโหวตหาร 100 หาร 500 ก็ได้ไม่ว่ากัน แต่อย่าทำให้องค์ประชุมสภาล่ม” นพ.ระวีกล่าว

ด้านนายปรีดากล่าวว่า วันที่ 11 ส.ค. ตนจะยื่นในนามพรรคเล็กต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อให้มีการเปิดประชุมสภานัดพิเศษ ในวันที่ 13-14 ส.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบวาระ แต่ต้องอยู่ที่ประธานรัฐสภาจะตัดสินใจอย่างไร 

นายคฑาเทพเสริมว่า วันนี้เราเห็นความอัปยศของสภา ต้องขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล แต่สิ่งที่ทำนั้นมันไม่ใช่ เชื่อว่าโอกาสที่ท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีแล้ว เพราะมันไม่มีความสง่างาม ตนขอฝากไปถึง “บิ๊กใหญ่” อย่าคิดว่าท่านจะได้เป็นนายกฯ มันยังมียกสี่ยกห้า อย่าเพิ่งเปิดแชมเปญ มันยังมีอีกสองยก

'บิ๊กตู่'ออกตัวไม่เกี่ยว

ที่ทำเนียบฯ เวลา 16.20 น. ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 ได้พูดคุยนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นการส่วนตัว 20 นาที ก่อนลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

เมื่อถามว่าได้ติดตามการประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ติดตาม เพราะประชุม สมช.อยู่ เลยไม่ได้ตาม เขาว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แล้วว่าไงล่ะ ผู้สื่อข่าวระบุว่า ขณะนี้การประชุมสภาล่มไปแล้ว นายกฯ จึงกล่าวว่า "อ้าว เป็นอะไรล่ม" ผู้สื่อข่าวจึงระบุว่า องค์ประชุมไม่ครบและทำสภาล่มเพื่อกลับมาใช้สูตรหาร 100  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "อ่อ ก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้สิ กฎหมายว่าอย่างไรก็ว่างั้น ผมไม่ได้ติดตามหรอก จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของสภา"

ถามถึงกระแสข่าวการจับมือกันระหว่างพรรค พปชร.และพรรค พท.เพื่อเล่นเกมการเมืองกลับไปใช้สูตรหาร 100  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ฟังไม่รู้เรื่องคำถามนี้" พร้อมย้อนถามว่า "ใครจับ เอาชื่อมาดูสิใครจับ มีคนอื่นไม่อยู่ด้วยหรือเปล่า พรรคอื่นมีไม่อยู่ไหม มีหลายพรรคก็ถือว่าหลายพรรค ไม่เช่นนั้นก็จับมือกันหมดสิ ก็แล้วแต่เขา"

ถามย้ำว่า นายกฯ มีความเห็นอย่างไรหากย้อนกลับไปใช้สูตรหาร 100 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น จะหาร 100 หาร 500 หาร 1,000 หาร 10,000 ผมไม่มีปัญหา"

ซักว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ว่าทำไม พล.อ.ประวิตรถึงโดนพูดถึงในเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับพวกเรา อย่าไปเขียนกันเองมากนัก ตนไม่มีปัญหาอะไรกับท่านอยู่แล้ว

ถามว่ามีการพูดพาดพิงใช้ชื่อย่อ "พ" ซึ่งตรงกับชื่อน้องชายของ พล.อ.ประวิตร    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า  “ไปเอ่ยชื่อเขา อย่างนี้คุณระวังนะ”

เมื่อถามว่า ที่นายกฯ บอกว่าหารอะไรก็ไม่มีปัญหา หมายความรอบหน้าจะลงเลือกตั้งเองใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า "เลือกเมื่อไหร่ล่ะ" โดยผู้สื่อข่าวระบุว่าปีหน้าถ้าไม่มีการยุบสภาก่อน พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า "ก็รอปีหน้า" เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯ ยังไม่ได้ตัดสินใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์