2ป.ลุยแก้น้ำท่วม ยันประยุทธ์ห่วง คนไทยไม่ทิ้งกัน

“บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก” พาเหรดเดินสายลุยแก้ปัญหาน้ำท่วม “ประวิตร” ลงสระบุรีกำชับแผนรับมือ  13 มาตรการ “อนุพงษ์” ขึ้นเชียงราย บอก “ป.ประยุทธ์”  ห่วงใยคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน “ชัชชาติ” เตือนฝั่งตะวันออกเตรียมรับน้ำเอ่อล้น

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรีเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ การเตรียมการรับมือ และให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสระบุรี

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้สั่งการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับกรมชลประทาน รวมทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และฝ่ายปกครองระดับจังหวัด ให้ความสำคัญทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการส่วนหน้า สทนช.ที่จัดตั้งขึ้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามแผนรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ โดยให้ปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องจากมรสุมในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลพื้นที่หลายจังหวัดมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะพื้นที่ริมลำน้ำสายหลักยังคงต้องเฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทันกับสถานการณ์ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนทันทีโดยเน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้น

พล.อ.ประวิตรยังได้กำชับให้กรมชลประทาน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแม่น้ำป่าสัก รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก เพื่อรองรับการระบายมวลน้ำทางตอนเหนือลงพื้นที่ท้ายน้ำ ไม่ให้กระทบชุมชนท้ายน้ำริมเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล พร้อมให้เร่งรัดซ่อมคันดิน 23 วา คลองชัยนาท-ป่าสัก ที่เสียหายจากพายุเตี้ยนหมู่ในปี 2564 ให้เสร็จทัน ส.ค.นี้ เพื่อควบคุมระดับน้ำไม่ให้กระทบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเดิมกว่า  16,500 ไร่ และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองวางแผนจัดทำเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักในพื้นที่ จ.สระบุรีต่อเนื่องกันไป

ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท.ลงลงพื้นที่ อ.แม่จัน และตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากพายุมู่หลาน  รวมถึงตรวจการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งาน โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมอบเงิน 59,400  บาทแก่มารดาของนายสมศักดิ์ มณีจันทร์สุข ผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.เมืองเชียงรายด้วย

               พล.อ.อนุพงษ์กล่าวกับผู้ประสบภัยด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ฝากกำลังใจและความห่วงใยมาให้ทุกคน ทุกคนเป็นคนไทย ไม่ต้องตกใจ เราไม่ทอดทิ้งกัน ทั้งนี้ได้กำชับ ผวจ.เชียงราย สำรวจความเสียหายของพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อเตรียมเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยด้วย และได้น้อมนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตให้เป็นปกติสุขโดยเร็ววัน

ด้าน ปภ.ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์พายุโซนร้อนมู่หลานว่า ตั้งแต่วันที่ 11-15 ส.ค.ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่รวม 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย,  แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, พะเยา, น่าน, ลำปาง, แพร่,  พิษณุโลก, นครพนม, เลย และปราจีนบุรี 35 อำเภอ  117 ตำบล 623 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ  5,965 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันยังคงมีอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, น่าน และปราจีนบุรี รวม 20 อำเภอ 83 ตำบล 465 หมู่บ้าน  ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,088 ครัวเรือน

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้รายงานแผนการบริหารจัดการฝน น้ำเหนือ และน้ำหนุน ปี 2565 โดยระบุว่าด้านตะวันออกของ กทม.คาดว่าจะมีจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง โดยน้ำส่วนใหญ่มาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 46% ของความจุอ่าง อัตราการระบายน้ำ กรมชลฯ ได้ปล่อยน้ำอยู่ที่  161 ลบ.ม./วินาที สำหรับการเตรียมแผนรับมือต้องประเมินปริมาณน้ำในเขื่อนจากทางภาคเหนือที่จะปล่อยผ่านพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้มีปริมาณสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% แต่ยังไม่ถึงวิกฤต เนื่องจากวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่มีปริมาณน้ำในเขื่อนสูงกว่า 75%

ด้านนายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ  กทม. กล่าวว่า กทม.ได้เฝ้าระวังพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ โดยได้ประสานงานกับกรมชลประทาน ซึ่งมีสถานีสูบน้ำที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 2 สถานี เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกันด้านตะวันออกจะเข้ามาเติมในคลองแสนแสบ จะทำให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบนอกประตูระบายน้ำมีนบุรีมีระดับที่สูง จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมคลองเขตหนองจอก ลาดกระบัง เตรียมยกของขึ้นที่สูงเพราะอาจมีน้ำเอ่อล้นบางส่วน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง