
"แบงก์ชาติ" ผวาหนี้ครัวเรือนพุ่ง! วางเป้าปี 2566 เตรียมออกเกณฑ์คุมแบงก์โปรโมตเรื่องของมันต้องมี ทั้งปล่อยกู้เที่ยวเมืองนอก-ผ่อนไอโฟน-ซื้อแบรนด์เนม กระตุกพฤติกรรมก่อหนี้ล้นตัว
เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2565 ถึงปี 2566 ธปท.มีนโยบายเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืนกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยต้องวางเกณฑ์ไม่ควรเพิ่มมากไปกว่านี้ เพราะเป็นการเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าโควิด-19 ที่อยู่ในระดับ 50% ของจีดีพี และเคยขึ้นไปอยู่สูงสุดในระดับ 90% ในช่วงโควิด-19 ถ้าไม่แก้หนี้ครัวเรือนให้กลับมาอยู่ในระดับที่ยั่งยืน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็จะสะดุด โดยการแก้หนี้ต้องทำแบบครบวงจร ทั้งช่วงก่อนที่จะก่อหนี้ เป็นหนี้แล้ว และปัญหาหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะให้น้ำหนักในช่วงท้าย
“อะไรควรทำและอะไรที่ไม่ควรทำในการแก้หนี้ ตรงนี้สำคัญมากๆ มันก็มีกระแสที่อยากจะแก้เร็วแก้เบ็ดเสร็จ เรื่องนี้อยู่กับเรามานาน มันไม่มีคำตอบที่เป็นยาวิเศษ ทำเร็วเกินไปก็มีปัญหา การแก้ต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง” นายเศรษฐพุฒิกล่าว
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวยอมรับว่า ธปท.เป็นห่วงปัญหาหนี้ครัวเรือน เพราะจากการติดตามข้อมูลของ ธปท. พบว่าสัดส่วนหนี้ 35% เป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิต ไม่ใช่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้ครัวเรือนนั้นจะประกอบด้วย 3 แนวทาง คือ 1.การแก้ไขหนี้ในปัจจุบัน หรือลดหนี้ 2.การปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพ และ 3.การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน
ทั้งนี้ ภายในไตรมาส 1/2566 ธปท.เตรียมออกประกาศ หรือหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินและผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) เพื่อเป็นแนวทางการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิต ที่เป็นลักษณะการโฆษณาผ่านแคมเปญต่างๆ หรือเรียกว่าโฆษณาเพื่อกระตุกพฤติกรรมการใช้จ่าย สำหรับสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเชื่อว่าจะส่งผลดีในระยะยาว และลดการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็นของภาคครัวเรือนลงด้วย
“ธปท.จะเข้าไปดูการก่อหนี้ใหม่ จะปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพอย่างไร สถาบันการเงินต้องมีความรับผิดชอบต่อลูกหนี้ ซึ่งมีหลายมิติ และต้องไม่กระตุ้นพฤติกรรมให้ก่อหนี้ล้นพ้นตัว ไม่ก่อให้เกิดรายได้ สถาบันการเงินต้องตระหนักกับการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ โฆษณาแคมเปญต่างๆ สินเชื่อที่ไม่ก่อประโยชน์กับลูกหนี้” นายรณดล กล่าวและว่า ในปี 2566 ธปท.จะกำหนดหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ ไม่ใช่เฉพาะความสามารถในการจ่ายหนี้ของลูกหนี้ว่าไหวหรือไม่ แต่ต้องดูเงินจะเหลือเพียงพอในการดำรงชีพหรือไม่ โดยพิจารณาจากระดับรายได้สุทธิของลูกหนี้ที่เหมาะสม ซึ่งไม่ใช่เรื่องในระยะสั้น เพราะถ้าออกมาตรการเร็วไปลูกหนี้อาจได้รับผลกระทบ
น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธปท. กล่าวว่า เกณฑ์ที่จะออกมาต้องไม่เป็นปัญหากับการก่อหนี้ในระยะยาว แคมเปญที่สนับสนุนให้ก่อหนี้จนขาดคุณภาพไม่ได้ยั่งยืน โดยเฉพาะคำที่ในก่อหนี้ประเภท "ของมันต้องมี" ซึ่งจากที่ตรวจสอบมีแคมเปญโฆษณาต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นนอนแบงก์ เช่นให้กู้เพื่อไปท่องเที่ยวเมืองนอก กู้เพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนม กู้ผ่อนมือถือ เช่นไอโฟน 14 ยาวๆ นานๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ห้าม แต่อยู่ที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะทุกวันนี้มีการกู้เพื่อของมันต้องมี และปัจจุบันเด็กจบใหม่มีหนี้เร็ว และคนไทยยังมีหนี้นาน ใกล้เกษียณแล้วก็ยังมีหนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระราชทานพรปีม้า เรี่ยวแรงดีสุขกายใจ
"กรมสมเด็จพระเทพฯ" อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงบาตรเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569
พ้น72ชม.ไม่วางใจ สั่งปีใหม่คุมเข้มชายแดน เขมรยังปล่อยโดรนป่วน
ครบกำหนดหยุดยิง ไร้ปะทะ แต่กัมพูชาส่งกำลังบำรุง-ปล่อยโดรนตลอดแนวชายแดน ละเมิดข้อตกลง
เศรษฐกิจโต2.2% ธปท.-ปปง.ตั้งทีม สอบธุรกรรมทอง
"แบงก์ชาติ" เคาะจีดีพีปี 68 โตแน่ 2.2% ชี้เศรษฐกิจเดือน พ.ย.ยังขยายตัว
ขยี้ส้มมีเทาผิดซ้ำแค่ขอโทษ
“นายกฯ” อวยพรปีใหม่คนไทย ขอทุกข์โศก-เคราะห์หมดไปปีนี้ เขินโดนถามปี 2569
เตือน‘สายตี้’โดนหนัก สกัดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่
เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
ฉายาสภาสูง‘รังของหนู’
ฉายาสภา 68 “รังหนอนสีเทา” ขณะที่สภาสูงคือ “รังของหนู”

