มท.ขึงขังปราบยา-ปืน

“บิ๊กป้อม” สั่งเอาจริงขจัดภัยร้ายจากยาเสพติดและอาวุธปืน “บิ๊กป๊อก” ยันใบอนุญาตพกปืนมีมาตรการเข้มแล้ว แต่ปัญหาเกิดจากจิตใจผู้ใช้ซึ่งต้องหามาตรการควบคุม มท.ประชุมด่วน  ถอดบทเรียนพร้อมสั่งลุยปราบยาเสพติด “บิ๊กเด่น” เล็งหารือมหาดไทยถกเรื่อง ตร.พกอาวุธ เล็งตรวจฉี่มากกว่าปีละครั้ง

เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม ยังคงมีความต่อเนื่องจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 38 ราย ที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งลงพื้นที่ร่วมคณะนายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและกำจัดภัยร้ายจากอาวุธทุกชนิดและยาเสพติดให้ได้อย่างจริงจังเด็ดขาดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ  เน้นเฝ้าระวัง เพ่งเล็งบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยทำงานเชิงรุกป้องกันการก่อเหตุซ้ำ ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด  ทั้งการป้องกัน ปราบปรามและการบำบัดรักษา ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดคืนกลับสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง และหากมีเจ้าหน้าที่รัฐบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษตามกฎหมายไม่มีละเว้น พร้อมขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสบุคคลมีพฤติกรรมเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งลงพื้นที่ด้วย กล่าวถึงมาตรการและกฎเกณฑ์การออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทยว่า การออกใบอนุญาตเราจะมีกฎเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ ในการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยเกณฑ์การพิจารณามีขั้นตอนละเอียดรอบคอบอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยากจะบอกวันนี้ก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องลึกๆ ข้างใน เราดูคุณสมบัติว่าเขามีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะพกพาอาวุธได้หรือไม่ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ทั่วไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องของจิตใจภายใน คนที่ก่อเหตุเช่นนี้เป็นคนที่มีจิตใจภายในที่ผิดปกติ ซึ่งก็ต้องหามาตรการที่จะควบคุมให้ได้

“เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ใช้อาวุธปืนอย่างเดียว แต่มีการใช้มีดด้วย แล้วอย่างนี้ต้องให้เราห้ามใช้มีดด้วยหรือ ถ้าเรามองผลที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันไม่ใช่ไปดูเรื่องปืนเพียงอย่างเดียว จะต้องดูว่าทำไมคนถึงมีจิตใจข้างในอย่างนี้ได้ สังคมเราต้องทำให้ไม่มีคนเป็นแบบนี้ เพราะเขาไม่รู้จักความมีเมตตาปรานี ไม่รู้ในเรื่องจิตใจของคน ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์จะไปทำร้ายใคร ผมคิดว่าน่าจะเป็นพื้นฐานในตัวของผู้ที่ก่อเหตุ”พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น เอาเป็นว่าไปทำอย่างนั้นไม่ได้ พออีกวันก็ต้องไปดูที่โรงเรียนมัธยมอีก มันเป็นไปไม่ได้ เขามีครูที่คอยดูแล แล้วต้องให้ครูเขามีปืนหรือถึงจะหยุดได้ อย่าลืมว่าเขามีครูคอยดูแล และครั้งนี้ครูก็เสียชีวิตด้วย เพราะฉะนั้นจะให้ไปเพิ่มเติมอย่างไร มันไม่ได้ คุณไปแก้ตรงนี้แล้วโรงเรียนมัธยมล่ะ ทุกสถานที่เขามีมาตรการดูแลอยู่แล้ว

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน โดยที่ประชุมได้แสดงความอาลัยต่อกรณีกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู  ยืนไว้ทุกข์เป็นเวลา 38 วินาที

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า ให้ความสำคัญต่อการถอดบทเรียนเพื่อวางแผนป้องกันเกิดเหตุการณ์การสะเทือนขวัญเช่นนี้อีก ซึ่งต้องทบทวนความเข้มข้นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด และคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนด้วย โดยได้สั่งการให้มีการกำหนดตัวชี้วัด หรือ KPIs แต่ละกระบวนการว่าจะทำอะไรบ้าง ภายในกรอบระยะเวลาเท่าไร เพราะทุกวัน เวลา วินาที มีค่า ในการป้องกันภัยสังคมเช่นนี้ ฝ่ายปกครองภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ จึงจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการ โดยมีประเด็นสำคัญ 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ให้กำชับมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Re X-Ray กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด

2.การปลุกจิตวิญญาณให้คนในหมู่บ้านช่วยกันระวังภัย ทั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือ กม.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คนในชุมชน มีการสื่อสารหรือรายงานสถานการณ์ที่เป็นความเสี่ยงให้กับฝ่ายปกครองทราบ เพื่อจะได้เตรียมการป้องกันก่อนเกิดเหตุ 3.ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สนับสนุนการตั้งด่านชุมชนของกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 4.ให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอให้ความสำคัญกับกิจกรรมของหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน ต้องไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างแท้จริง และเฝ้าระวัง รวมถึงขยายผลไปยังเครือข่ายต่างๆ และ 5.กำชับให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนด้วย หากพบว่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติให้ดำเนินการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนั้นทันที

ส่วน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า จะนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาถอดบทเรียนเพิ่มมาตรการเข้มงวดกับข้าราชการตำรวจทั้งที่อยู่ในราชการและนอกราชการเกี่ยวกับการมีและครอบครองอาวุธปืน โดย ตร.มีแนวคิดจะหารือกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการขอมีขอใช้อาวุธปืนของตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือเหมาะสม โดยให้ถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน พร้อมได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศเพิ่มมาตรการดูแลป้องกันเหตุคลุ้มคลั่ง รวมทั้งปัญหายาเสพติดต้องกวาดล้างให้หมดทั้งเครือข่ายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดในชุมชน

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเพิ่มความเข้มในการตรวจสุขภาพร่างกายของข้าราชการตำรวจมากกว่าการตรวจประจำปีแค่ครั้งเดียว โดยเฉพาะการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีต ผบ.หมู่งาน ป. สภ.นาวัง ผู้ก่อเหตุเคยสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ขั้นตอนการรับสมัครมีการตรวจสอบตามปกติ ตรวจสอบประวัติเคยต้องคดีหรือไม่ เป็นบุคคลต้องห้ามหรือไม่ โดยมีการฝึกที่ศูนย์ฝึกอบรมภูธรภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการฝึก เมื่อผ่านขั้นตอนแล้วมาบรรจุที่ สน.ลุมพินี สังกัดฝ่ายสืบสวน จากนั้นย้ายไปที่ สน.ยานนาวา อยู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ไม่มีความชำนาญในเรื่องคอมพิวเตอร์ ดูจากประวัติการปฏิบัติหน้าที่ได้ขั้น 0.5 ไม่มี 2 ขั้น อนุมานได้ว่าไม่ได้ทำงานอะไรโดดเด่น น่าจะมีปัญหาเรื่องการปฏิบัติงานส่วนหนึ่ง ภายหลังขอย้ายกลับภูมิลำเนา ที่ จ.หนองบัวลำภู พฤติการณ์ไม่น่าเป็นบุคคลที่ร่วมทำงานกับบุคคลอื่นได้ปกติ

“พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เคยพูดเรื่องผู้เสพให้ดำเนินการตามชุมชนเข้มแข็ง บช.น.ลงพื้นที่ชุมชนจับผู้เสพที่สมัครใจส่งบำบัด  บช.น.ส่งผู้เสพบำบัดแล้วประมาณ 1,300 ราย แต่การบำบัดบำบัดแค่ 15 วันก็กลับออกมาเป็นบุคคลเฝ้าระวังที่จะต้องติดตาม เพราะมีแนวโน้มอาจกลับไปเสพต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนการปราบปรามอาวุธปืน มีการระดมกวาดล้างเป็นช่วงๆ ทั้งการปราบปรามค้าอาวุธออนไลน์” พล.ต.ต.นิธิธรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'