‘ชลน่าน’ บูลลี ‘ป้อมขวดซีอิ๊ว’

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

ฝ่ายค้านตั้งวงอ้างถอดบทเรียนหนองบัวลำภู  แต่ด่ารัฐบาลเละ "ชลน่าน" บูลลี "บิ๊กป้อม" ใจบันดาลแรง  จากที่อยู่ในขวดซีอิ๊ว ใส่กางเกงยีนส์ กลายเป็นแหนมป้าย่นได้ ส่วน "สุทิน" ซัดมียาบ้า-อาวุธปืนเยอะ คนที่อยู่ในกลุ่มมีอำนาจมากแต่มีสติน้อย "รังสิมันต์" อ้างตั๋วช้างลากไปถึงทหาร

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง  แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ กลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาพบประชาชน โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดเวที “ถอดบทเรียนเหตุการณ์หนองบัวลำภู” ว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา 65 เกิดเหตุโศกนาฏกรรมกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิต 37 ราย  โดยเป็นเด็กถึง 24 ราย แบ่งเป็นเด็กเล็ก 23 ราย และเด็กประถมวัย 1 ราย วันนี้ฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการตอกย้ำการสูญเสียหรือพูดเพื่อหาเสียง แต่เป็นการหาทางออกให้ประเทศและเป็นการถอดบทเรียน จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวทีในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากนั้นจะได้นำการถอดบทเรียนนี้ไปใช้ในการตรวจสอบถ่วงดุลในสภา ซึ่งฝ่ายค้านจะได้ยื่นญัตติด่วนเรื่องเหตุการณ์หนองบัวลำภู ในวันที่ 3 พ.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อนำไปเป็นข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป 

ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวอีกว่า บทเรียนที่ได้รับเป็นการลงทุนที่เสียหาย เป็นการลงทุนที่ใหญ่หลวง และในภาพการลงทุนเหตุครั้งนี้ไม่มีกำไร ยิ่งถ้าไม่ได้พูดคุยกันอีกยิ่งขาดทุน ตอนนี้ทราบถึงสภาพปัญหาแล้ว แต่สิ่งที่อยากฝากให้ถอดบทเรียนคือ สาเหตุแรงจูงใจเกิดเพราะอะไร เหตุใดตำรวจนอกราชการที่ถูกไล่ออกเพราะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจึงมีพฤติการณ์เช่นนี้

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เรื่องการใช้อาวุธปืนไม่อาจปฏิเสธได้ มีคำพูดจากนักวิเคราะห์ว่า สาเหตุมาจากสองเถื่อน คือปืนเถื่อนกับคนเถื่อน ถ้าปืนถูกกฎหมายแสดงว่าปืนไม่เถื่อน แต่คนกราดยิงคือคนเถื่อน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้คือ ปัญหาสภาพจิตในสังคมไทยปัจจุบัน  เชื่อหรือไม่ลูกหลานของเรา 20 ปีที่ผ่านมามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก สังเกตหรือไม่ความอดทนหรือการตอบสนองต่อสิ่งบีบคั้นในคนรุ่นใหม่ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากในอดีต การยับยั้งชั่งใจไม่เกิดขึ้น  เป็นปฏิกิริยาเกี่ยวเนื่องกับทางด้านจิต

“ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าใจคิดอย่างไรกายจะเป็นเช่นนั้น อาจารย์ที่มาเป็นวิทยากรบรรยายอายุ 67 ปี แต่ผมบอกว่าเพิ่ง 57 ปี อาจารย์เลยตอบกลับว่าใช้แรงบันดาลใจ ไม่ใช่ใช้ใจบันดาลแรง ปกติเราใช้แรงบันดาลใจ แต่กลับมีใครคนหนึ่งบอกว่าต้องใช้ใจบันดาลแรง และเขาก็พิสูจน์ชัดตอนขึ้นมาเป็นรักษาการนายกฯ ดูมีแรง มีกำลังใจฮึกเหิมมาก จากอยู่ในขวดซีอิ๊วอยู่ดีๆ กลายเป็นแหนมป้าย่นได้ ใส่กางเกงยีนส์ เป็นเด็กสมบูรณ์อยู่ในขวดซีอิ๊ว พอได้เป็นรักษาการนายกฯ ออกมาเป็นแหนมป้าย่น ใส่กางเกงยีนส์ มีแรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่พอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้คนเดิมกลับมาทำหน้าที่ต่อทุกอย่างก็แผ่ว  ฉะนั้นเรื่องจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ” ผู้นำฝ่ายค้านระบุ

นพ.ชลน่านกล่าวในช่วงท้ายว่า ขอฝากให้เวทีถอดบทเรียนเกี่ยวกับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ราชการในสังคมไทย สมัยยังเป็นหมอ มีข้าราชการตำรวจโดนเด้งจาก จ.นราธิวาสมายังจังหวัดน่าน ซึ่งสุดท้ายก่อเหตุปืนจี้พนักงานปกครอง สุดท้ายลงมือยิง ฉะนั้นจึงอยากให้มีการถอดบทเรียนประเด็นนี้ด้วยว่าควรจะมีการคัดเลือกเข้ามาอย่างไร

จากนั้นนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุการณ์หนองบัวลำภู เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและละเลยไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ปัจจุบันยังคงอยู่ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากคนขาดสติสัมปชัญญะ แต่อะไรที่ทำให้เขาเสียสติ ซึ่งตนคิดว่าอันดับแรกคือยาเสพติด

เชื่อว่าเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูก็เกิดจากยาเสพติด  วันนี้รัฐบาลพยายามยืนยันตลอดว่าปราบปรามยาเสพติดแล้ว และปฏิเสธตลอดว่าไม่มียาเสพติดแล้ว ทั้งที่ทุกวันนี้ในหมู่บ้านและชุมชน น่าเศร้าใจมาก ยาเยอะ เม็ดละ 10  บาท เป็นตัวชี้วัดว่ายามีเยอะเข้าถึงง่าย นอกจากนี้คนบ้าแล้วมีอาวุธในมือก็เป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะโอกาสที่จะเกิดอาชญากรรมมีสูง บ้านเราอาวุธที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายมีน้อยกว่าปืนเถื่อน 3 เท่า

"ประเทศเราจึงมียาบ้าเยอะ อาวุธปืนเยอะ และคนที่อยู่ในกลุ่มที่มีอำนาจมากแต่มีสติน้อย ก็เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุมากที่สุด เพราะหากมีอำนาจ มีอาวุธ แล้วเกิดมีความไม่เป็นธรรมไปกดทับเขาก็จะเกิดเหตุได้ง่าย"

นายสุทินกล่าวต่อว่า ปัจจุบันเราแก้กฎหมายปราบปรามยาเสพติดผิดพลาด ทำให้คนอย่างผู้ก่อเหตุที่หนองบัวลำภู ซึ่งอยู่ในระดับสติสุ่มเสี่ยงแบบนั้นมีอยู่ทุกหมู่บ้าน  เพียงแต่ยังไม่ก่อเหตุเพราะไม่มีเรื่องที่เป็นชนวนเหตุ กฎหมายล่าสุดใครพกยาไม่เกิน 15 เม็ด ถือว่าไม่ใช่ผู้จำหน่าย จะต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม ส่วนข้อหาผู้เสพมีการแก้ไขว่าผู้เสพคือผู้ป่วย พอจับได้จะดำเนินคดีทันทีไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องถามความสมัครใจว่ายินดีจะเข้าบำบัดหรือต่อสู้คดี ซึ่งส่วนใหญ่เลือกวิธีการบำบัด เหตุผลหนึ่งของการแก้กฎหมาย เพื่อต้องการลดจำนวนคนติดคุก แต่ปัญหาคือเมื่อส่งไปบำบัด กระบวนการบำบัดของบ้านเราไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่ให้เขาเลิกยาได้ เมื่อกลับบ้านไปก็เป็นระเบิดเวลาของครอบครัว มีการขู่ทำร้ายคนในครอบครัว และเป็นอันตรายต่อคนในชุมชน

ถามว่าวันนี้องค์กรสีกากีกับองค์กรสีเขียวได้ตื่นรู้ ปฏิรูป และแก้ปัญหาแล้วหรือไม่ องค์กรที่มีอำนาจ มีอาวุธ  อย่างองค์กรตำรวจและทหารต้องปฏิรูปตัวเองด่วน การจะขึ้นสู่ตำแหน่งได้ต้องจ้าง ทำให้เกิดระบบรีดเงิน บีบให้คนดีๆ ต้องหาเงินเอาไปแลกเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง ยาบ้าก็เลยเต็มบ้านเมือง เลี้ยงยาไว้ขายหลายๆ รอบเอาเงินไปซื้อตำแหน่ง ถ้าไม่ปฏิรูปก็จะทำให้คนในองค์กรแบบนี้หาเงินด้วยวิธีแบบนี้ วันนี้โครงสร้างปัญหายังมีครบทั้งยาเสพติด  อาวุธ และความไม่เป็นธรรม ประกอบกับจุดสปาร์กอย่างปัญหาเศรษฐกิจ ที่วันนี้รัฐบาลทำให้คนอดอยาก หนี้สินรุมเร้า อาชีพหดหาย ดังนั้นรัฐบาลต้องจัดการโครงสร้างปัญหาเหล่านี้ให้ครบ คือต้องจัดการยาเสพติด จัดระเบียบการซื้อและครอบครองอาวุธปืนใหม่ วันนี้ถึงเวลาทบทวนหรือยังว่าการให้มีปืนทุกคน กับไม่ให้มีปืนสักคนแบบไหนจะดีที่สุด

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำหลายรอบ คิดว่ามีปัญหา 4 ข้อ คือปัญหาปืนเถื่อน ปัญหายาเสพติด แม้การผลิตจะอยู่นอกประเทศ แต่ได้เกิดการทุจริตในวงราชการของไทย ปัญหาสภาพแวดล้อมของตำรวจและทหาร อาวุธปืนที่ต้องซื้อเอง ชุดเครื่องแบบ น้ำมัน  กระดาษ เงินเดือนไม่เยอะแต่ต้นทุนการทำหน้าที่สูง ทหารมีการคอร์รัปชันภายใน เบี้ยเลี้ยงผีและมีการหักหัวคิว การเจริญเติบโตความสามารถไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุด แต่เป็นเรื่องตั๋ว ใครมีตั๋วได้ขึ้น ร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปไม่ได้ผล กระทั่งต้องมาจบเรื่องด้วยปืน

ปัญหาสุดท้ายคือ ปัญหาการลอกเลียนเป็นปัญหาที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง งานวิจัยในสหรัฐฯ ระบุว่า การกราดยิงเป็นวิธีหนึ่งในการฆ่าตัวตาย เพราะเขารู้ว่าทันทีที่ลั่นกระสุนจะดำเนินชีวิตไม่ได้อีกแล้ว การที่ต้องเอาชีวิตผู้อื่นไปด้วยเพราะการกราดยิงเกิดจากแรงกดดัน และเขาคิดว่าเขาจำเป็นต้องเรียกร้องความไม่เป็นธรรมจากผู้อื่นด้วย  ดังนั้นต่างประเทศในระยะหลังเขาไม่พยายามเสนอชื่อของผู้ก่อเหตุ เพราะทำให้เป็นกระบวนการสร้างวีรบุรุษ ในทำนองว่าทำแบบนี้แล้วดัง วันหลังก็จะมีคนทำตามเรื่อยๆ  ชีวิตไม่มีความหวังอยู่แล้ว จึงขอเอาชีวิตคนอื่นไปด้วย เพื่อเป็นการแก้แค้นจากความเจ็บปวดที่อยู่ในสังคม

นายรังสิมันต์กล่าวเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาว่า  เราจะต้องจัดการ 7 ข้อ ประกอบด้วย 1.จัดการคอร์รัปชัน  จัดการตั๋วช้างให้หมดไปจากตำรวจและทหาร 2.ดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย 3.ควบคุมปืนอย่างเคร่งครัด  การสอบใบอนุญาต ครอบครองปืน 4.ตรวจสอบบุคลากรในการทำงาน 5.สร้างกลไกให้ตำรวจและทหารเข้าถึงจิตแพทย์และนักจิตวิทยา 6.ทบทวนจัดลำดับความสำคัญในการทำหน้าที่ภารกิจ และ 7.การดำเนินคดีที่เป็นธรรม  ถ้าทำได้ทั้งหมดจะทำให้ระบบราชการมีประสิทธิภาพ

ด้าน น.ส.นภาพร เพ็ชรจินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นที่หนองบัวลำภูคงไม่ต่างจากเหตุกราดยิงที่โคราช ซึ่งเกิดจากสภาวะที่ถูกบีบบังคับ ทำให้คลุ้มคลั่งมากกว่าปกติ และเมื่อบุคคลนั้นมีอาวุธปืนทำให้เกิดโศกนาฏกรรม เมื่อโยนเรื่องนี้ไปเป็นปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ตำรวจก็ตรวจค้นตรวจจับกันมโหฬาร ไม่เว้นแม้แต่ รมว.มหาดไทยที่ขีดเส้นตายให้แต่ละจังหวัดส่งรายชื่อผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้จริง เพราะเหมือนที่รัฐบาลเคยประกาศว่าจะทำให้คนจนหมดประเทศภายในสิ้นปี ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาในกระดาษ แบบไฟไหม้ฟาง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เมื่อกระแสข่าวลดลง ปืนและปัญหาก็ยังอยู่  ซึ่งแก่นแท้ของปัญหาเกิดจากความเหลื่อมล้ำ ที่ไม่ใช่เฉพาะความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ แต่ต้องมองถึงความเหลื่อมล้ำทางโอกาสและกระบวนการยุติธรรมด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง