เติมเงิน2พันล. มหกรรมแก้หนี้ ตั้งเป้าแสนราย

ครม.ไฟเขียวสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน อนุมัติ 600 ล้าน ชดเชยเอ็นพีแอล  สั่งออมสินงัด 2 พันล้านบาท เติมสภาพคล่องการเงิน ตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการรายย่อย-พ่อค้าแม่ค้า-หาบเร่แผงลอย ไม่น้อยกว่า 1 แสนราย "บิ๊กตู่" ชวนร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” จัด 5 ครั้งทั่วไทย เพิ่มสุขให้ ปชช.

 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1  พฤศจิกายน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน พร้อมอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม 600 ล้านบาท สำหรับการชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมด โดยธนาคารออมสินจะจัดสรรวงเงินการให้ความช่วยเหลือ วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้าช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการดำรงชีวิตและลงทุนประกอบอาชีพของประชาชนกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ จำนวน 100,000 ราย

สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน ธนาคารออมสินจะจัดสรรวงเงินการให้ความช่วยเหลือให้เหมาะสมกับระยะเวลางานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อ/ราย ไม่เกินรายละ 20,000 บาท กลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้มีรายได้ประจำ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย เป็นต้น  โดยเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้ที่เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ โดยต้องไม่เป็นลูกจ้าง พนักงาน ผู้บริหาร หรือกรรมการของธนาคารออมสิน สำหรับระยะเวลาการกู้ยืม ปลอดชำระหนี้เงินต้น 6 งวดแรก ระยะเวลาชำระคืนเงินงวดสูงสุดไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน (Flat Rate) ไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) โดยระยะเวลา ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ           นายอนุชากล่าวว่า งานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ จะจัดขึ้นทั้งสิ้น 5 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสัญจรจังหวัดต่าง ๆ 4 ภาคทั่วประเทศ ดังนี้ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 4  ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ณ จังหวัดชลบุรี และครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา

ซึ่งภายใต้โครงการนี้ เป็นการให้สินเชื่อที่ผ่อนปรนกว่าสินเชื่อปกติของธนาคาร และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารออมสินกำหนด เพื่อช่วยเหลือผู้เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้ไขหนี้มีสภาพคล่องในการดำรงชีพหรือประกอบอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ โดยผ่อนปรนภาระหนี้สินให้สอดคล้องกับรายได้ เพิ่มทุนใหม่เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นและเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มด้วย

ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง หลังจากที่เราผ่านวิกฤตโควิดมาได้ เศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ รัฐบาลจึงได้มุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมาก นั่นคือ “ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน” รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายสะสางคลายปมที่หมักหมมมาช้านานอย่างจริงจัง โดยประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน และได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

"ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องที่มีความสนใจ เข้าร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” ที่จะจัดขึ้นทั้ง 5 ครั้ง ซึ่งผมเชื่อว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาของหลายๆ คน ในการเพิ่มคุณภาพชีวิต เพิ่มความสุขให้กับคนในครอบครัว ที่ไม่ต้องพึ่งหนทางที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาซ้ำเติม เช่น หนี้นอกระบบ หรือการหารายได้อย่างผิดกฎหมาย และเป็นการช่วยแก้ปัญหาสำคัญของประเทศชาติในการพัฒนาคุณภาพของคนในประเทศ เพื่อพัฒนาประเทศของเราให้เดินหน้าอย่างมั่นคงได้ต่อไปครับ" นายกฯ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง