ธรรมนัสปัดเอี่ยวจีนสีเทา ‘สันธนะ-ชูวิทย์’ฟัดกันต่อ

“ธรรมนัส" โผล่ปล่อยคลิปแจงทำธุรกิจสุจริตมาตลอด ขู่ฟ้องสื่อโยงธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา “สันธนะ” ทิ้งไพ่เปิดแบ็กอัพ “ชูวิทย์” เป็นอดีตนายทหารใหญ่ มีอำนาจกุมเหนือรัฐบาล ยังเปิดศึกกันต่อ ท้าชก-ลากไส้ ขณะที่คดีผับทุนจีนเชื่อมโยง 3 ธุรกิจผิดกฎหมาย เตรียมลงดาบสัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย เผยแพร่คลิปคำพูดส่วนตัว ชี้แจงกรณีบุคคลและสื่อมวลชนหลายสำนักวิพากษ์วิจารณ์การเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาว่า ที่ผ่านมากว่า 2 สัปดาห์ ตนพยายามนิ่งไม่โต้ตอบกรณีบุคคลหรือสื่อมวลชนบางรายที่เคยรักใคร่กันดีพยายามวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงตนว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาต่างๆ

“ปีนี้ผมอายุ 58 ปีแล้ว ผมเดินทางไปหลายประเทศ มีเพื่อนรู้จักและคบคนหลายเชื้อชาติ ทั้งฝรั่ง จีน ไทย อินเดีย หรืออื่นๆ เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้ทำธุรกิจอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนจีนสีเทาดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา โดยก่อนหน้าผมมาทำงานการเมือง ผมก็ทำธุรกิจหลายอย่าง และมาถึงเวลานี้ผมเป็นนักการเมืองแล้ว พร้อมถูกตรวจสอบ แต่ต้องถูกต้องตามกฎหมายนะครับ”

ดังนั้น จึงขอวอนสื่อมวลชน อย่าโยงตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหาย ตนขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม และให้ความเป็นธรรม ขอให้แยกแยะ กลั่นกรองข้อมูลก่อนจะวิจารณ์ตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดี จนสร้างความเสียหายต่อคนอื่น

 “ผมอยากวอนสื่อมวลชนนะครับ ผมนิ่งรับฟังเพื่อเก็บข้อมูลที่ถูกพาดพิง ก็หวังว่าจะนำเสนอข่าวบนข้อมูลถูกต้อง ดีกว่าจะต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่นนะครับ”

ที่โรงแรมเดอะเดวิด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เปิดเผยถึงกรณีเผชิญหน้ากันกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล จนหวิดวางมวยที่ สน.ทองหล่อ ว่าเพราะทนไม่ไหวที่นายสันธนะไม่ให้เกียรติ ขึ้นไปเคาะประตูเสียงดังระหว่างที่ตนกำลังยื่นหนังสือและพยานหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มนายทุนจีนสีเทาให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตะโกนเรียกท้าทายเสียงดัง เมื่อยื่นหนังสือเสร็จตนก็แค่แสดงตัวว่าอยู่ตรงนี้ตามที่นายสันธนะอยากเจอเท่านั้น เพราะตนเป็นคนจริง และเป็นนักเลง เมื่อไม่ให้เกียรติกันทั้งที่มีตำรวจผู้ชั้นใหญ่อยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติตอบ และตนก็ยอมรับในการกระทำ หากสังคมจะมองว่าเป็นการใช้ความรุนแรง ก็ต้องขอบอกว่าบางครั้งความรุนแรงก็เหมาะใช้กับคนบางคน

ส่วนที่มีแรงเชียร์อยากให้มีโปรโมเตอร์จัดมวยไฟต์พิเศษระหว่างตนกับนายสันธนะนั้น อยากบอกว่าถ้าหาก นายสันธนะเป็นคนจริงเหมือนกัน ก็นัดมาเจอกันเลยดีกว่า สะดวกวันเวลาใดให้แจ้งมา ตนก็พร้อม เพราะแค่ตนผลัก นายสันธนะเบาๆ นายสันธนะก็ล้มแล้ว และหากนายสันธนะสามารถยืนอยู่ได้เกิน 1 นาทีได้โดยไม่ล้ม ตนจะก้มกราบให้ดู และหากตนตายไปเป็นผี ก็จะไปเป็นผีเกาะหลังนายสันธนะ พร้อมเตือนนายสันธนะอย่าพลาดละกัน ส่วนประชาชนคนใดที่มีข้อมูลหลักฐานคลิปวิดีโอการกระทำความผิดของนายสันธนะ ขอให้ส่งมาที่ตน จะให้รางวัลเป็นเงิน 100,000 บาทเป็นค่าตอบแทน

ขณะที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมเซ็นเตอร์พอยต์ ถนนวิทยุตัดถนนเพลินจิต ชี้แจงว่า ไม่ได้ตั้งใจไปยั่วนายชูวิทย์ แต่ตั้งใจเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ เพราะทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะเดินทางมา  ส่วนนายชูวิทย์ ตนพอทราบว่ามีการนัดหมายกันยื่นหนังสือ จึงมองว่ายิ่งดี  เพราะหากมีพยานหลักฐานจะได้ชี้แจงเลยทันที ส่วนการบุกไปเคาะประตูห้องประชุมขณะนายชูวิทย์ยื่นหนังสือนั้น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้เจอ และกลัวหลบออกด้านหลังสถานีตำรวจ

ส่วนกรณีเกือบวางมวยที่ สน.ทองหล่อนั้น เมื่อวานนี้หากนายชูวิทย์เข้าถึงตัวหรือเข้ามารัศมี เท้าอาจจะไปถึงก่อน ทั้งนี้จากการติดตามดูไลฟ์สดวานนี้ ข้อความในหนังสือเป็นการร้องเรียนตนโดยตรง ไม่ได้ร้องเรียนในประเด็นอื่น โดยกล่าวอ้างว่าตนเป็นคนปกป้องกลุ่ม 5 นายทุนจีน รวมทั้งการนำข้อหายาเสพติดมาป้ายตน มองว่าเป็นเรื่องน่าเกลียดมาก ส่วนคลิปวิดีโอที่ ร.อ.ธรรมนัสออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจทุนจีนสีเทานั้น ก็ไม่ได้มีการพาดพิงถึงตนก็ให้ปล่อยไป

สำหรับกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พูดถึงตนในรายการหนึ่งนั้น ขอถามกลับว่า ท่านเสรีพิศุทธ์ทำหน้าที่อะไร ลืมไปหรือว่าขณะนี้ไม่ได้เป็น ผบ.ตร. รวมทั้งตนก็ไม่ได้เป็น ส.ส. ฉะนั้นมีอำนาจอะไรมาจับตน ทั้งนี้ เมื่อวานตั้งใจต่อสายตรงถึงท่านเสรีพิศุทธ์เพื่อถามว่า “สันขวาน” หมายถึงใคร แต่ตอนนี้ไม่อยากคุยแล้ว ไม่ต่อสายแล้ว

นายสันธนะยังระบุว่า ที่ผ่านมานายชูวิทย์ดีกับตนมาตลอด นับถือตน ตนก็เคยไปโรงแรมของนายชูวิทย์ รวมทั้งบางสถานที่ก็เปิดเผยไม่ได้ เพราะสถานที่ไม่ดี ทั้งนี้ นายชูวิทย์มีแบ็กเป็นอดีตนายทหารใหญ่ มีอำนาจกุมเหนือรัฐบาลด้วย ส่วนประเด็นที่นายชูวิทย์ประกาศว่าจะให้รางวัล 1 แสนบาท สำหรับคนที่ให้เบาะแสการกระทำผิดของตนนั้น มองว่าหากมีหลักฐานว่าตนทำผิดจริง แล้วชูวิทย์ให้ 1 แสนบาท ตนยอมให้ 1 ล้านบาทกับคนแจ้ง ถ้าเอาผิดตนฐานฟอกเงินได้ว่าตนทำผิดจริง

นายสันธนะกล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องวิวาทะระหว่างนายชูวิทย์กับตนนั้น เรื่องจะจบอย่างไร ตนมองว่าจบไปตั้งแต่วันก่อนที่เขาพูดถึงและบอกว่าไม่รู้จักแล้ว จากนี้จะแจ้งความต่อเรื่อยๆ หากพบอะไรที่หมิ่นเหม่ โดยขณะนี้เตรียมแฟ้มหลักฐานไว้เป็นปึกจำนวนหลายคดีแล้ว ทั้งประเด็นผับบาร์ หมิ่นประมาท การไลฟ์สดทางสำนักข่าวหนึ่ง และหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ส่วนประเด็นที่นายชูวิทย์บอกว่า หากตายจะตามเกาะหลังไปทุกชาตินั้น ตนมองว่าเอาวันนี้ให้รอดก่อน พร้อมฝากถึงนายชูวิทย์ระบุว่า “น่าจะหาอะไรที่เหมาะกับเขา จะได้นอนสบาย ไปเลือกไว้ จะได้พักผ่อนให้เต็มที่”

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามสด นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับชาวจีนเปิดผับกลางกรุง การปล่อยให้เปิดธุรกิจสีเทาที่เปิดในประเทศไทยกระทบต่ออธิปไตยของประเทศและความเชื่อมั่นใจกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งกรณีที่มีข่าวว่าเบื้องหลังของการเปิดธุรกิจสีเทาของคนจีนนั้นมีนักการเมืองใหญ่ของประเทศ อดีตนายตำรวจใหญ่ รวมถึงได้สอบถามต่อกรณีของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ นายหาวเจ๋อตู้ ที่บริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองใหญ่ 3 ล้านบาท เหตุผลของการพร้อม มองว่ากระทบต่อความมั่นคง เชื่อถือของประชาชน

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนนายกฯ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ยอมให้บุคคลต่างด้าวทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศ โดยคดีที่ถูกจับกุมนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้บุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นพบว่าหลบหนี โดยอินเตอร์โพลได้ขึ้นบัญชีดำไว้แล้ว อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจสีเทาในประเทศนั้น พบมี 3 กรณีคือ หลอกลวงให้ลงทุน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสถานบริการโดยให้บริการกับคนสัญชาติเดียวกัน อย่างไรก็ดี เรื่องคดีนั้นรอง ผบ.ตร. เร่งรัดดำเนินการ หากใครผิดกฎหมายต้องดำเนินการตามกฎหมาย

“กลุ่มทุนสีเทาต่างชาติประกอบธุรกิจผิดกฎหมายเป็นกระบวนการมีหลายกลุ่มเชื่อมโยงกันหมด การสืบสวนสอบสอบปัจจุบัน เน้นสืบถึงความเชื่อมโยงกันใน 3 ธุรกิจผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในทุกกลุ่มที่ครอบคลุมโดยเร็ว ทั้งนี้ นายกฯ เร่งรัดดำเนินการ เบื้องต้นคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ากลุ่มทุนผิดกฎหมายที่กระทบต่อความมั่นคง ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ใช้ทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับกลุ่มทุนพวกนี้” พล.อ.ชัยชาญกล่าว และว่า กรณีเงินบริจาคพรรคการเมืองนั้น เป็นอำนาจที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องรับผิดชอบ ฐานะกำกับดูแล อย่างไรก็ดี การออกสัญชาตินั้น นายกฯ สั่งการให้สืบสวนว่าเป็นไปตามระเบียบวิธีการหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง