ม็อบ500รับเอเปก ชัชชาติเปิดช่องค้างคืน/‘บิ๊กตู่’รอดโควิด‘ฮุนเซน’อดมาไทย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 มิถุนายน 2565

“บิ๊กตู่” ยันยังไม่ติดโควิด หลัง “ฮุน เซน” ป่วย ตอกย้ำหวังประชุมเอเปกเรียบร้อย “ดอน” อยากให้เหมือนถกอาเซียนที่พนมเปญ ทั่วโลกจับตาชื่นชม โฆษกรัฐบาลเปิดกำหนดการหารือผู้นำและถกทวิภาคี มีทั้ง “สี จิ้นผิง-มกุฎราชกุมารซาอุฯ-มาครง-ไอเอ็มเอฟ” คณะรัฐมนตรีไฟเขียวเอกสารร่างหารือเอเปก รวมทั้งร่างทวิภาคีจีน-ซาอุฯ ตำรวจกำชับม็อบห้ามเคลื่อนย้ายที่ แต่ “ชัชชาติ” เปิดช่องให้ค้างคืน อ้างว่าดีการลงถนน เอาแล้ว! เครือข่ายแรงงานประกาศจัดชุมนุมแยกอโศกมนตรี 17 พ.ย.

เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ติดเชื้อโควิด-19 ได้มีการส่งใครมาร่วมประชุมเขตผู้นำเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) แทนหรือไม่ ว่าตามกติกาเป็นการเชิญผู้นำโดยตรง ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ไม่ได้มาร่วมประชุมเนื่องจากไม่สบาย

เมื่อถามว่านายกฯ ได้ตรวจโควิด-19 แล้วหรือยัง เนื่องจากช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชา นายกฯ ใกล้ชิดกันสมเด็จฮุน เซน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตรวจบ่อยอยู่แล้ว และมีตรวจที่บ้านเป็นประจำ รวมทั้งวันไหนไปงานพิเศษอะไรต่างๆ ก็มาตรวจที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย ซึ่งหลังจากกลับมาจากกัมพูชาก็ได้ตรวจ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ตอนกลางคืนก็ตรวจอีกก็ยังโอเคอยู่ ส่วนในการประชุมเอเปกนั้นก็มีตรวจอยู่แล้วที่โรงแรม และผู้ที่มาร่วมประชุมก็มีผลการตรวจมาแสดงอยู่แล้ว ระมัดระวังที่สุด ทุกคนไม่มีใครอยากเป็นหรอก

ถามว่า ในการประชุม ครม.ได้กำชับรัฐมนตรีต่อการเป็นเจ้าภาพเอเปกอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้กำชับอะไร เป็นการติดตาม ซึ่งมีการนำเสนอมามากพอสมควรในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเจรจาข้อตกลงพันธสัญญาต่างๆ ซึ่งต้องนำมาพิจารณาใน ครม. ให้เป็นไปตามกฎหมาย และไม่เข้ามาตรา 178 อะไรทำนองนี้ วันนี้มีประมาณ 7-8 เรื่องที่ต้องลงนามกับผู้นำที่มา

เมื่อถามว่า การที่นายกฯ จะพบกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน มีวาระพิเศษที่จะหารือร่วมกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มี แต่ปกติก็คุยกันในห้องประชุมอยู่แล้ว และมีการพบปะทวิภาคีกับหลายประเทศ ส่วนใหญ่เป็นหลักการเดียวกัน ทำอย่างไรจะลดผลกระทบเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันในหลายๆ มิติด้วยการแสวงหาความร่วมมือร่วมกันภายใต้ธีม Open Connect  Balance ซึ่งพยายามทำอย่างนี้มาโดยตลอดในทุกเวที เราต้องสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเอาประเด็นที่เรามีความต้องการตรงกันมาเฉลี่ยแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อประชาชนของเราโดยรวม

ถามถึงการเคลื่อนไหวต่างๆ ในช่วงการประชุมเอเปก นายกฯ กล่าวว่า ขอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขอขอบคุณทุกคน

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังผลการประชุม ครม.ว่า นายกฯ ได้ขอบคุณรัฐมนตรีที่ร่วมกันทำงานเตรียมความพร้อมกันจัดการประชุมเอเปกที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน โดยเฉพาะมาตรการการรักษาความปลอดภัยตลอดการประชุม และมั่นใจว่าการประชุมจะเป็นไปตามเนื้อหาสาระ และหัวข้อคือเรื่องการเชื่อมโยงสู่สมดุลในการเปิดกว้าง

ย้ำเอเปกเป็นหน้าตาประเทศ

 “นายกฯ ระบุว่าการประชุมเอเปกครั้งนี้ถือเป็นหน้าตาของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งผลลัพธ์ที่จะได้จากการประชุม คือโอกาสของประเทศไทยในการสร้างความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อให้ไทยได้ประชาสัมพันธ์ศักยภาพในทุกๆ ด้าน จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำ และผู้ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้” นายอนุชากล่าว

นายอนุชายังกล่าวอีกว่า นายกฯ ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จจากการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงพนมเปญ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามวัตถุประสงค์ และได้รับความสำเร็จ ส่วนการประชุม G20 ที่อินโดนีเซียนั้นก็ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องว่าหลังจากประชุม G20 แล้ว จะมีการพูดประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ดังนั้นอาจพูดคุยต่อเนื่องมาถึงการประชุมเอเปกที่ไทยด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงเช้า นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกฯ และคณะ พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ สุริยะ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อนำเสนอโครงการหนังสือสมาร์ท-สมุดรายนามผู้ผลิตผ้าไหมและผู้ประกอบการทั่วประเทศแบบดิจิทัล ฉบับพิเศษ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 และใช้เป็นของขวัญในนามรัฐบาลไทยที่มอบให้แก่ผู้นำประเทศและคู่สมรสที่เข้าร่วมการประชุมเอเปก โดยนายกฯ กล่าวชื่นชมที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนและจัดทำโครงการ จนประสบความสำเร็จ โดยรัฐบาลมุ่งส่งเสริมและพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเผยแพร่ผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน ผู้ผลิต และผู้ประกอบการไทย

ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า เราเตรียมความพร้อมแล้ว แต่ยังต้องดูเรื่องรอบตัวด้วย โดยอยากเห็นการประชุมเอเปกในไทยมีความสงบเหมือนกับที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงพนมเปญ เพราะจะสะท้อนเป็นข่าวไปทั่วโลก ซึ่งประเทศที่เข้าร่วมประชุมที่พนมเปญ และจะมาประชุมที่ไทยต่อ ก็ต้องการเห็นประเทศไทยเป็นเช่นนั้น

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยาหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า คนละยุคไปแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นอีกครั้ง คนไทยและประเทศไทยต้องพิจารณาตัวเองใหม่ และเราจะถูกกระทบด้วย

นายดอนเปิดเผยด้วยว่า จากกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ติดเชื้อโควิด-19 ทางกัมพูชาจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเปก เนื่องจากการเชิญแขกพิเศษดังกล่าวเป็นการเชิญเฉพาะบุคคล ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธานอาเซียน

เปิดกำหนดการ ‘บิ๊กตู่’ หารือ

ขณะที่นายอนุชายังแถลงถึงกำหนดการต้อนรับผู้นำในการเยือนไทย และการหารือแบบเต็มคณะที่ทำเนียบฯ ว่าในวันที่ 16 พ.ย. ช่วงบ่ายนายกฯ มีกำหนดการต้อนรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของนายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม พร้อมหารือทวิภาคี รวมทั้งการเป็นสักขียานในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลงและบันทึกความเข้าใจ การแถลงข่าวร่วม และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเวียดนามและภริยา ส่วนวันที่ 18 พ.ย. ช่วงค่ำ นายกฯ มีกำหนดการรับเสด็จฯ เยือนอย่างเป็นทางการของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารและนายกฯ ซาอุฯ พร้อมหารือทวิภาคี พิธีการแลกเปลี่ยนความตกลงและบันทึกความเข้าใจ และเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงถวายพระกระยาหารค่ำแก่มกุฎราชกุมารและนายกฯ ซาอุฯ และวันที่ 19 พ.ย.ช่วงเที่ยง นายกฯ มีกำหนดการต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พร้อมหารือทวิภาคี พิธีการแลกเปลี่ยนความตกลงและบันทึกความเข้าใจ และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้นำจีนและภริยา

นายอนุชากล่าวอีกว่า นอกจากหารือแบบเต็มคณะกับ 3 ประเทศนี้แล้ว นายกฯ ยังมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับแขกพิเศษของรัฐบาล รวมถึงผู้นำและผู้แทนเขตเศรษฐกิจเอเปกที่ทำเนียบฯ เพิ่มเติม คือวันที่ 17 พ.ย. หารือทวิภาคีกับนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน และช่วงเย็นพบหารือทวิภาคีกับนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกฯ ญี่ปุ่น  วันที่ 18 พ.ย.2565 ช่วงบ่ายหารือทวิภาคีกับนางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และวันที่ 19 พ.ย. ช่วงเช้าหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกฯ ออสเตรเลีย และการหารือทวิภาคีแบบสั้นในช่วงการประชุมกับนายกฯ นิวซีแลนด์ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และช่วงเย็นพบหารือทวิภาคีกับนางคามาลา เดวี แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ณ ทำเนียบรัฐบาล

 “การเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกของไทย ตลอดจนการพบหารือกับผู้นำประเทศต่างๆ นี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญของไทยที่จะแสดงบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ รัฐบาลจึงหวังว่าทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพพร้อมร่วมกันสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีให้แก่ผู้นำ และผู้เข้าร่วมการประชุม ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประชุมครั้งนี้” นายอนุชากล่าว

ครม.ไฟเขียวเอกสารเอเปก

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังแถลงว่า ครม.เห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปก ครั้งที่ 33 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29  ซึ่งเน้นประเด็นสำคัญ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.การเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน 2.การส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ และ 3.การก้าวไปสู่การเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม รวมทั้งจะเสนอให้ผู้นำเอเปกรับรองเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว

ส่วน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ครม.เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันไทย-จีน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายจะรับรองร่างถ้อยแถลงร่วม ซึ่งเป็นข้อหารือราชการระหว่างกันโดยไม่มีการลงนาม ในโอกาสการเยือนไทยของนายสี ช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก โดยจะมีร่าง 2 ฉบับ คือ ฉบับแรก แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-จีน พ.ศ.2565-2569 และฉบับที่สอง แผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนว่าด้วยการร่วมกันส่งเสริมเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21

น.ส.รัชดายังกล่าวอีกว่า ครม.เห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลซาอุฯ ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการ และหนังสือเดินทางพิเศษ โดยจะลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมาร และนายกฯ ซาอุฯ ในวันที่ 18-19 พ.ย.2565

ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) บนทางพิเศษฉลองรัช ที่ขึ้นข้อความต้อนรับการประชุมผู้นำเอเปกแล้วมีข้อความบางคำมีตัวอักษรตกหล่นนั้น ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลพื้นที่ได้แจ้งได้แก้ไขทันทีที่ตรวจสอบตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 พ.ย. ส่วนข้อความบนป้าย VMS บนทางพิเศษอีก 7 สายทางไม่มีข้อผิดพลาดแต่อย่างใด

วันเดียวกัน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมเอเปก 2565 กล่าวถึงผลการประชุมมาตรการดูแลความปลอดภัย การบริหารจัดการจราจร และสถานการณ์การข่าว ว่าเริ่มมีการเดินทางเข้ามาของคณะผู้นำเขตเศรษฐกิจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในบางประเทศ ซึ่งสภาพการจราจรพบว่าในวันที่ 14 พ.ย. ปริมาณรถจำนวนมาก เนื่องจากยังเป็นวันปกติที่ส่วนราชการและโรงเรียนยังเปิดปกติ แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี โดยตำรวจนครบาลได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเพิ่มความเข้มในการดูแลอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน เพื่อให้มีผลกระทบต่อประชาชนในการเดินทางสัญจรให้น้อยที่สุด และได้มีการขยายเวลาการลงทะเบียนของผู้พักอาศัย ที่มีความจำเป็นต้องใช้ถนนบริเวณที่งดการใช้การจราจรกว่า 45,000 รายในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.ทองหล่อ โดยได้เปิดให้ลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 พ.ย.นี้

 “ด้านการแจ้งการชุมนุมในพื้นที่พบว่ามีการแจ้งขอใช้สถานที่กับ กทม. (ลานคนเมือง) เมื่อวันที่ 7 พ.ย. โดยแจ้งชุมนุมระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานขอให้ใช้พื้นที่ที่จัดไว้ให้ดังกล่าวในการชุมนุม ขอความร่วมมืออย่าเคลื่อนย้ายการชุมนุม หรือเดินขบวน” พล.ต.ต.อาชยนระบุ

ชัชชาติเปิดช่องให้ค้างคืน!

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในการจัดประชุมเอเปกว่า ทร.สนับสนุนสนามบินอู่ตะเภาเพื่อเป็นที่จอดเครื่องบินของผู้นำที่จะเดินทางมาประเทศไทย โรงแรมที่พักของผู้นำที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทร.จะดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ตรวจสอบพื้นที่ท่าเรือหรือเขตที่ติดกับแม่น้ำให้มีความปลอดภัย ขณะที่การจัดงานกาลาดินเนอร์ วันที่ 17 พ.ย. กองทัพได้สนับสนุนหอประชุมกองทัพเรือและพื้นที่โดยรอบ พร้อมวางกำลังรักษาความปลอดภัยผู้นำและผู้ติดตาม โดยในวันที่ 16 พ.ย.จะซักซ้อมแผนอย่างเต็มรูปแบบก่อนจัดงานจริง

ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการขอจัดกิจการชุมนุมว่า กทม.ได้สื่อสารกับตำรวจต่อเนื่อง ซึ่งอนุญาตให้จัดที่ลานคนเมืองได้ โดย ตร.มองว่าดีที่มีพื้นที่ให้คนไปแสดงออกทางความคิดเห็นได้ ซึ่ง กทม. ประสานกับผู้จัดชัดเจนว่าขออย่าให้มีการลงมาทำกิจกรรมบนถนน ส่วนจำนวนที่รับแจ้งเบื้องต้นอยู่ที่ 500 คน จัดระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.

 “ผู้จัดกิจกรรมแจ้งความประสงค์ว่าขอค้างคืนมา แต่ กทม.ไม่สามารถอนุญาตให้ค้างได้ ซึ่งการจัดกิจกรรมต่างๆ ต้องสิ้นสุดเวลา 22.00 น. ไม่เช่นนั้นประชาชนที่อยู่แถวนั้นจะมีปัญหา หากยืนยันว่าจะค้างคืนในแง่หลักการเราไม่อนุญาต แต่ถ้าเขาไปไหนไม่ได้จริงๆ ก็อาจดีกว่าที่เขาไปอยู่บนถนน ถ้าตามหลักการแล้วสามารถผลักดันได้ก็ต้องทำ แต่ก็ต้องปรับสถานการณ์หน้างานที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ทางฝ่ายมั่นคงช่วยดูแลด้วย”นายชัชชาติกล่าว

ทั้งนี้ นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม. ได้ตรวจศูนย์ติดตามประสานงานแก้ไขปัญหาการประชุมเขตเศรษฐกิจเอเปกในส่วนที่ กทม.รับผิดชอบ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ รวมถึงความปลอดภัยตามจุดต่างๆ เพื่อให้การจัดประชุมเอเปกเรียบร้อยตามภารกิจ

ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่มีการประกาศห้ามชุมนุมบริเวณสถานที่จัดการประชุมเอเปก ภาคประชาชนควรได้รับพื้นที่ให้การแสดงความเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล ประกาศดังกล่าวยังขัดกับหลักสากลเกี่ยวกับสิทธิการชุมนุมสาธารณะ เป็นการลิดรอนเสรีภาพในการชุมนุมและรวมกลุ่มโดยสงบ

ส่วนเครือข่ายราษฎร ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย, กลุ่ม We Volunteer, กลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มทะลุแก๊ซได้นัดหมายรวมตัวเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงสถานเอกอัครราชทูตประเทศที่เข้าร่วมประชุมเอเปก โดยได้มายื่นจดหมายเปิดผนึกที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยพร้อมอ่านแถลงการณ์เรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพต้องลาออก 2.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบัน

ทั้งนี้ หลังอ่านแถลงการณ์จบ น.ส.ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และ น.ส.ฉัตรพี อาจสมบูรณ์ กลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย นัดหมายว่า ในวันที่ 17 พ.ย. กลุ่มจะจัดการชุมนุมใหญ่ที่แยกอโศกมนตรี เวลา 12.00 น. เพื่อเดินขบวนไปยื่นหนังสือถึงผู้นำประเทศต่างๆ ที่มาร่วมประชุมเอเปกด้วยบ

ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมขบวนรถตุ๊กๆ #ไล่ประยุทธ์หยุดทุนผูกขาด โดยเดินทางรอบกรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีรถตุ๊กๆ ประมาณ 20 คันร่วมขบวน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี