
ครม.ไฟเขียว 6,258 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมช่วงฤดูฝนปี 2565 ประสบอุทกภัยตั้งแต่ 13 พ.ค.-28 ต.ค. จำนวน 1 ล้านครัวเรือน ในอัตรา 5-9 พันบาท ตามเงื่อนไข 3 กรณี
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 6,258.54 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 1,046,460 ครัวเรือน ซึ่งเป็นจำนวนครัวเรือนจากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 66 จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินในกรณีใด กรณีหนึ่งใน 3 กรณี ดังนี้
1.กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท 2.กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 7,000 บาท และ 3.กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 60 วัน ขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท
สำหรับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 ดังนี้ หลักเกณฑ์ 1.ต้องเป็นกรณีอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม ถึง 28 ตุลาคม 2565 ทั้งกรณีน้ำท่วมโดยฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ และ 2.ต้องเป็นที่อยู่ที่ประสบอุทกภัยตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน ซึ่งได้รับผลกระทบกรณีใดกรณีหนึ่งคือ ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง เกินกว่า 7 วันขึ้นไป
ขณะที่เงื่อนไข ได้แก่ 1.ต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ และต้องผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ประสบสาธารณภัย และผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด สำหรับกรุงเทพมหานครต้องผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากสำนักงานเขตและกรุงเทพมหานคร 2.กรณีที่ประสบภัยหลายครั้ง ให้ได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว ส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเป็นจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม อุบลราชธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม โดยยังมีครัวเรือนที่ได้รับความเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งสำรวจจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Bangkok Goals on BCG Economy: ความสร้างสรรค์ของไทยในการผลักดัน การเติบโตอย่างสมดุลครอบคลุมยั่งยืน
การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยในปี 2565
8องค์กรประชาชน ร้อง‘ปธ.ศาลฎีกา’ ปล่อยตะวัน-แบม
8 องค์กรสิทธิมนุษยชนฯ ร่วมเสวนาขานรับข้อเสนอ "ตะวัน-แบม"
ลดราคาดีเซล 50สตางค์/ลิตร ในรอบ7เดือน
กบน.ไฟเขียวลดราคาดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร มีผล 15 ก.พ.นี้
เร่งแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน28ก.พ.
กกต.ย้ำเร่งแบ่งเขตคาดประกาศ 28 ก.พ. แจงทำล่วงหน้าไม่ได้เกรงทำเกินกฎหมายรองรับ
6ตร.รีดเงินไต้หวันนอนคุก สั่ง‘ต่อศักดิ์’คุมด่านทั่วปท.
บิ๊กนครบาลเผย 6 ตร.ไถเงินยังปากแข็ง แต่โดนแจ้งข้อหา 149
ภท.จี้นายกฯยุบสภา อ้างส.ส.ไม่อยากประชุม! เอาคืนชิ่งหนีทำล่มครั้งที่6
สภาล่มครั้งที่ 6 "ภท." เอาคืนประท้วงร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถูกดองยาว "ศุภชัย" จี้นายกฯ ยุบสภา เหตุ ส.ส.ไม่อยากประชุมแล้ว