รบ.ขู่ฟันจริยธรรมแก้เกมสภาล่ม

"ชินวรณ์" ขู่ฟันจริยธรรม  ส.ส.ทำสภาล่ม ยกอดีตแค่นั่งหลับในห้องก็สอบตกแล้ว ชี้ฝ่ายค้านเล่นเกมองค์ประชุมไม่สะเทือนรัฐบาล ด้านวาทะ "ไอ้โง่" สะเทือน ส.ส.อีสานเพื่อไทยรุมสับ "ศุภชัย" จี้ลาออก จ่อดำเนินคดีถึงที่สุด ขณะที่ศึกกัญชายังแรง "สาทิตย์" ฉะแหกปากชี้หน้าด่าคนอื่นขวางหวังกลบเกลื่อนปัญหา    ถามทำเพื่อใคร

 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายชินวรณ์​ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาประชุมสภาล่มว่า วิปรัฐบาลได้พูดคุยกันตลอดว่าในช่วงสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ วิปรัฐบาลเตรียมรอรับฝ่ายค้านที่จะขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152   และยังมีกฎหมายที่สำคัญเกี่ยวการประชุมร่วมรัฐสภา ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ และยังมีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายรอคอยอยู่ ที่เราได้แจ้งเรื่องนี้ไปยังทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลแล้วว่า ในฐานะที่เราต้องรับผิดชอบเรื่องเสียงข้างมาก เราต้องมีองค์ประชุมพร้อมที่จะดำเนินการต่อไป และความคาดหวังของประชาชนอยากเห็นสภาชุดนี้ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด จนถึงวันสุดท้ายก่อนยุบสภา ดังนั้นการทำหน้าที่ของทุกคนจึงต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และมีความรับผิดชอบร่วมกัน

นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า มีข้อเสนอวิปใหญ่ หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่รับผิดชอบการเสนอกฎหมายเข้าสภาพูดคุยในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อช่วยวิปรัฐบาลควบคุมเสียง และต้องยอมรับว่าประธานสภาฯ ให้ข้อเสนอแนะว่า หากผู้ควบคุมเสียงไม่สามารถควบคุมได้ อาจต้องใช้ข้อบังคับอย่างชัดเจน ซึ่งตนเห็นด้วย หากมีความจำเป็นต้องเปิดเผยชื่อผู้ไม่เข้าร่วมประชุมต่อเนื่องกันหลายครั้ง ทราบว่าขณะนี้ฝ่ายตรวจสอบของภาคประชาชนหลายกลุ่มกำลังขอข้อมูลนี้อยู่ จึงเรียนกับเพื่อน ส.ส. ว่าให้ระมัดระวัง หากขาดประชุมต่อเนื่องหลายครั้งโดยไม่มีเหตุผลอาจจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการเมืองได้ ซึ่งอาจจะมีผลต่อเนื่องไปสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ฝ่ายตรงข้ามจะหยิบเรื่องนี้มาว่าเมื่อคุณมาเป็น ส.ส. ได้ขาดการประชุมหลายครั้งจนทำให้เสียหาย

 “เคยมีมาหลายสมัย และบางสมัยเพียงแต่นอนหลับในสภาก็สอบตกมาแล้ว ถ้าขาดการประชุมมากต้องรับผิดชอบร่วมกัน เรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องของทุกฝ่ายไม่ใช่เฉพาะฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น จึงขอเรียกร้องไปยังฝ่ายค้านว่า หากฝ่ายค้านจะเล่นเกมทางการเมืองเรื่ององค์ประชุมเพื่อต้องการทำให้มีผลต่อรัฐบาล ผมคิดว่าช่วงสุดท้ายนี้ไม่มีผลแล้ว เพราะรัฐบาลต้องเดินหน้าต่อ และการยุบสภาเป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะต้องตัดสินใจ ดังนั้นฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบเรื่ององค์ประชุมด้วย หากฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากเกินไป กระแสจะย้อนกลับไปที่ฝ่ายค้านเอง เพราะถูกเรียกร้องความรับผิดชอบ แน่นอนที่สุดภาพจำของฝ่ายค้านชุดนี้ตอนที่เป็นฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นเสียงข้างมาก ทุกคนทราบดีว่าเป็นอย่างไร” นายชินวรณ์กล่าว

รองประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า มีความมั่นใจว่าการประชุมสภาในช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นน่าจะเดินไปได้ เนื่องจากช่วงเช้าเป็นการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบขานชื่อ สมาชิกจึงต้องมาอย่างพร้อมเพรียง เพราะถ้าไม่มาก็จะเปิดเผยชัดเจนว่าใครบ้างที่ไม่มา เพราะเหตุใด และตนได้รับการยืนยันจากวิปฝ่ายค้านว่า ถ้าผ่านมาตรา 9/1 ของร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อฯ มาตราอื่นๆ ฝ่ายค้านจะให้ความร่วมมือ            

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า เชื่อว่ากฎหมายอีก 2 ฉบับที่ยังต่ออยู่ คือร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ หรือร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชาฯ ซึ่งรอเข้าสู่การพิจารณาในสภา เชื่อว่าการที่เร่งพิจารณาออกกฎหมายให้ทันต่อสถานการณ์ได้ คือเรื่องที่ดีที่สุดในฐานะ ส.ส.ทุกคนจะทำให้กับประชาชนได้ ประเมินว่าหากร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ จะเข้าสู่การพิจารณาได้ อาจจะเข้าในสภาช่วงเย็นของวันที่ 7 ธ.ค. และคงไม่สามารถพิจารณาจบได้ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ จะมีสมาชิกอภิปรายจำนวนมากหรือไม่

ส.ส.อีสานพท.รุมสับศุภชัย

ที่พรรคเพื่อไทย มีการแถลงข่าวกรณีที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวปราศรัยในเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย 4 เขต ช่วงหนึ่งว่า “สงสาร ส.ส.สกลนคร ผมสงสาร ส.ส.จังหวัดอุดรธานี อภิปรายในสภาทีไร เรื่องงบประมาณ ก็ด่ารัฐมนตรีคมนาคมว่าทำไมต้องเอางบประมาณไปพัฒนาที่บุรีรัมย์มากมาย ทำไมต้องไปพัฒนาที่ศรีสะเกษมากมาย และสุดท้ายมาลงที่นครพนม นครพนมก็มี ส.ส.ไม่กี่คน ทำไมได้งบประมาณมาเยอะเหลือเกิน ผมเป็นประธานบนบัลลังก์ อยากจะบอกมันว่า ก็นครพนมมี ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยอยู่ที่นี่ไง ไอ้โง่ มันโง่จริงหรือมันแกล้งโง่ สกลนครอยากได้งบพัฒนาเยอะๆ มึงเลือกฝ่ายรัฐบาลสิ เลือกพรรคภูมิใจไทยทั้ง 6 เขต 7 เขต รับรองสกลนครเจริญ” เป็นต้น

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปราศรัยดังกล่าวถือว่ามีความผิดหลายอย่าง ทั้งเรื่องประมวลกฎหมายจริยธรรม การหมิ่นประมาท อีกทั้งยังเข้าข่ายการแทรกแซงการจัดงบประมาณของภาครัฐ และเนื้อหาการปราศรัยมีบางส่วนอาจเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ กรณีที่ระบุว่าหากเลือกพรรคภูมิใจไทยแล้วจังหวัดจะได้รับการพัฒนา

นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะดำเนินการให้ถึงที่สุด  ทั้งในระบบสภาผู้แทนราษฎรและในส่วนของคดีความ ช่องทางของกฎหมายจะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท อยากบอกพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม ตัวแทนของท่านมีความคิดด้อยค่า ตัวแทนของท่านดูถูกตัวแทนของพี่น้องว่าโง่ หมายความถึงพี่น้องชาวสกลนครและอุดรธานีด้วย จึงอยากให้พี่น้องชาวนครพนมช่วยกันสอนบทเรียนว่า การเป็นนักการเมืองที่ดีเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรืองอำนาจ เอางบลงพื้นที่แล้วมาพูดหาเสียงบนเวที ทั้งนี้ ท่านเอาตัวเองให้รอด คดีความท่านเยอะแยะไปหมด ผมมีหลักฐาน มีคลิป ในการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 คลิปอันนี้ท่านจะได้เห็น รอวันอภิปรายทั่วไป ผมเก็บหลักฐานไว้แล้ว จะได้รู้ว่าคนดี และคนโง่เป็นอย่างไร จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด

นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำพูดของนายศุภชัย ดูหมิ่น เหยียดหยามคนสกลนคร การอภิปรายด่าตน ไม่ว่า แต่มาอภิปรายว่าถ้ามึงอยากได้งบประมาณ ต้องเลือก ส.ส.ของภูมิใจไทย คำว่ามึงหมายถึงคนสกลนครทั้งจังหวัด ท่านเป็นรองประธานสภาฯ ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นรองประธานสภาฯ และทำหน้าที่เป็นประธานสภาฯ ท่านจะออกมาขอโทษคนสกลนครและถอนคำพูด ไม่เพียงพอ ท่านต้องแสดงสปริตลาออกจากรองประธานสภาฯ  ไม่อย่างนั้นศักดิ์ศรีของสภาเดินต่อไม่ได้ ท่านไม่ได้พูดในฐานะ ส.ส.นครพนม ส.ส.พูดหาเสียงเท่านั้น

นายอดิศร เพียงเกษ กรรมการยุทธศาสตร์ทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายศุภชัยปราศรัยผิดพลาดที่สุดในชีวิต มีหลายเรื่องที่จะให้ชาวบ้านสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นสิทธิ แต่ท่านก้าวก่ายสิทธิของคนอื่น ยกตนข่มท่าน วุฒิภาวะในการปราศรัย เป็น ส.ส.หรือจะเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คงเป็นต่อไม่ได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวรู้จักกัน แต่ในเรื่องของทางเมือง อยากกินมาก อยากได้มาก วันนี้มากล่าวหาคนสกลนครว่ามึงทำไมไม่เลือกฝ่ายรัฐบาล มึงทำไมไม่เลือกภูมิใจไทย ชีวิตทางการเมืองของท่านหมดสิ้นแล้ว พร้อมฝากกลอนไปถึงสหายแสง จากสหายศรชัย สหายจากในป่าเหมือนกัน แต่สหายในป่า ไม่มีเกเรเกตุงเช่นนี้

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่างบประมาณมันเกิดการกระจุกตัวไปอยู่ในจังหวัดที่มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นวิธีบริหารงานที่ไม่ถูกต้อง ทั้งที่ควรจะเป็นต้องมีความเป็นธรรมต้องดูเรื่องของความจำเป็นความเร่งด่วน ความสำคัญ ไม่ใช่คิดว่ามีพรรคพวกของตัวเองอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ถ้าทำกันแบบนั้นเท่ากับว่ารัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยและการบริหารงานกระทรวงคมนาคม ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนทุกจังหวัด การที่นายศุภชัยออกมาสารภาพโดยตรงว่าการบริหารงานของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะในกระทรวงคมนาคมไม่มีความเป็นธรรม และปล่อยให้ ส.ส.เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด โดยหลักการแล้ว ส.ส. ทุกคนไม่ว่ามาจากพรรคการเมืองไหนก็ไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณไม่ได้เลย เราอาจจะบอกได้ว่าประชาชนมีปัญหาอะไร แต่การที่นายศุภชัยบอกว่าตนมีศักยภาพในการดึงงบประมาณลงไปที่จังหวัดของตนเองได้ ทำผิดสิ่งที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

ยันภท.ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตอนที่นายศุภชัยพูดตนไม่อยู่ จึงต้องถามนายศุภชัยว่าตอนนั้นมีความคิดอย่างไร ซึ่งนายศุภชัยเป็นผู้ใหญ่ น่าจะอธิบายจะดีกว่า และไม่มีใครอธิบายได้ดีกว่า ส่วนพรรคภูมิใจไทย ที่กำกับดูแลงาน 3 กระทรวงมาเป็นเวลาเกือบ 4 ปี เราเข้าใจว่าต้องรับใช้ประชาชนอย่างไร ไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคของประชาชน เป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะเลือกหรือไม่เลือกเราก็ต้องทำหน้าที่ และวันนี้มาทำหน้าที่ในรัฐบาล ดังนั้นจะบอกว่าจะดูแลแค่คนที่เลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นไปไม่ได้ ไม่เคยอยู่ในหัว ไม่เคยคิด ส่วนที่จะมีการร้องเรียนจริยธรรม มองว่าเป็นเรื่องของคู่กรณี ไปห้ามอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค จะตักเตือนลูกพรรคให้ระวังการใช้ถ้อยคำอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า คนที่เป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรี มีวุฒิภาวะ ใครพูด ใครทำ ใครประพฤติอย่างไรต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีความชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่จะเข้าสภาว่า พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนจุดยืนสนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ หรือเศรษฐกิจเพื่อการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนการใช้กัญชาเสรีเพื่อสันทนาการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อถามว่าพ.ร.บ.กัญชากัญชงฯ ที่พิจารณาอยู่ เพื่อการแพทย์หรือเพื่อกัญชาเสรี นายจุรินทร์ ตอบว่า ขณะนี้ยังเปิดโอกาสให้เสพได้ การเสพก็เพื่อสันทนาการ ไม่ใช่การเสพเพื่อการแพทย์ และไม่ใช่เสพตามใบสั่งแพทย์เพื่อการรักษาหาก เป็นเช่นนั้นถึงจะเรียกว่าการแพทย์ หากเสพนอกเหนือวัตถุประสงค์นี้มีคำตอบอยู่แล้ว ฉะนั้นเราคิดว่าอันนี้ไม่ใช่เพื่อการแพทย์ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางพรรคมีมติไปแล้ว ที่จะไม่รับร่าง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวเรื่อง “เสรีนันทนาการกัญชา ไม่อาจแก้ปัญหาด้วยการ ชี้หน้าว่าคนอื่น” มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า มาถึงวันที่กัญชานันทนาการ ระบาดจากขายเสรีถึงเด็ก 9 ขวบเสพจากบ้องข้างถนน น่าเศร้าที่คนทำนโยบายกลับกล่าวหาว่าจัดฉาก จัดคนเรียงหน้าโทษคนนั้นคนนี้ ชี้หน้ามั่วไปหมด เสมือนโวยวายกลบเกลื่อนปิดบังสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ไม่ยอมรับความผิดพลาดของนโยบาย 

"จู่ๆ ท่านประกาศตูม ปลดออกจากการเป็นยาเสพติด โดยไม่มีมาตรการควบคุมมารองรับ แถมยังโฆษณาใหญ่โตว่ายุคใหม่กัญชามาถึงแล้ว ส่งสัญญาณ เราจะรวยเพราะกัญชา นี่ไงล่ะสาเหตุที่แท้จริง มาออกกฎกระทรวงโน่นนี่ก็บ้อท่าคุมไม่ได้ เพราะท่านสร้างภาพใหญ่โตว่า เสรีแล้วๆ กฎหมายมาทำทีหลังครับ เสนอสภาทีหลัง พอสภาเขาติงว่า นี่มันกฎหมายส่งเสริม ไม่ใช่มาควบคุมท่านชี้หน้าเขาเลย ขวางกฎหมายแถมจับสภาเป็นตัวประกันว่า ทำไงก็ได้ออกๆ มาเถอะกฎหมายยิ่งช้าสังคมจะย่ำแย่ เมื่อปลดล็อกคือสาเหตุ ก็ปิดล็อกนั้นจะรออะไร แล้วมาทำกฎหมายดี ควบคุมได้ ใครทำผิดกฎหมายจัดการ ที่ออกมาแหกปากโวยวายชี้หน้าคนอื่นนี่ กลบเกลื่อนปัญหาเพื่อใครครับ หรือคอนเนกชันคนใกล้ตัว ลงทุนกันไปเยอะแล้ว ถอยไม่ได้ กลัวพรรคพวกจะขาดทุน แล้วอ้างโน่นนี่ ยิ่งพูดยิ่งอ้าปากยิ่งเห็นลิ้นไก่ลูกกระเดือกนะครับท่าน ป.ล. มีคนถามหาจริยธรรมแพทย์กับกระทรวงสาธารณสุขด้วยนะ” นายสาทิตย์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐสภา' มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจรัฐสภา ปมจัดทำรธน.ฉบับใหม่

“รัฐสภา” มีมติส่งศาลรธน.ตีความอำนาจตัวเอง ปมแก้รธน.ฉบับใหม่ ด้าน“วันนอร์”แจงยิบ ยึดตาม”ชวน”เคยวินิจฉัยร่างของ”สมพงษ์”มาแล้ว ชี้เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาวินิจฉัยเพื่อไปต่อแล้วไม่ล้ม ไม่เสียของ

'อดิศร' ซัดแรงมีรัฐสภาไปทำพระแสงอะไร จะแก้รัฐธรรมนูญ ยังให้ศาลวินิจฉัยอำนาจประชาชน

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า อำนาจตุลาการ และอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร แยกกันและถ่วงดุลกัน ไม่ใช่คล่อมเลน มีบางครั้งจะยื่นญัตติได้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นฝ่ายตุลาการ แต่เราฝ่ายนิติบัญญัติ เราคิดของเราเองได้

'รัฐสภา' ถกบรรจุวาระจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ 'ก้าวไกล' หนักใจยื่นดาบให้ศาลรธน.อีกแล้ว

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ