ครม.เดือดส่งท้ายปี ป้อมขวางปชป.ตั้งบิ๊กกษ. สามสีชู‘ตู่’มีบารมีนายกฯ

"ครม." เดือด! ส่งท้ายปี 65 "ประวิตร" ขวาง "จุรินทร์" ตั้งอธิบดีกรมฝนหลวง "นายกฯ" ฉุนสื่อตั้งฉายาไม่เลิก บอกกลาง ครม. "เจอฉายาแบบนี้ใครจะไม่โมโห" ชัยวุฒิรับ "วันทอง 2 ป." จริง "พีระพันธุ์" คาด "บิ๊กตู่" สมัครเข้า "รทสช." หลังปีใหม่ เปิดตัว "ไตรรงค์-ชุมพล-ชัช" ร่วมงาน "สามสี" ชี้ไม่มีใครเหมาะเป็นนายกฯ เท่าประยุทธ์ "พปชร." โชว์อีก 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. "คิง ก่อนบ่าย" ลุยประจวบฯ เขต 1 "ไพบูลย์" มั่นใจสานฝัน "ลุงป้อม" นายกฯ คนที่ 30 "อนุทิน" ลั่นขยับเป็นพรรคขนาดใหญ่ ขอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล "สนธิญา" ร้อง กกต.สอบ "อุ๊งอิ๊ง" บินฮ่องกงพบทักษิณ

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 27 ธ.ค. ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ตอบคำถามสื่อในเรื่องต่างๆ โดยบอกว่าให้ฟังโฆษกแถลง

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุม ครม.ว่า นายกฯ ได้ขอความร่วมมือจากหัวหน้าพรรคการเมือง ในการที่จะให้ ส.ส.ในสังกัดของแต่ละพรรคได้เข้าร่วมการประชุมสภาโดยพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากในวันที่ 28 ธ.ค. จะมีวาระการพิจารณากฎหมายที่สภาได้พิจารณาเรียบร้อยและไปถึงการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว ซึ่งในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้พิจารณาแก้ไข

นายอนุชากล่าวว่า ในวันที่ 28 ธ.ค. จะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณากรณีที่กฎหมาย 5 ฉบับที่มีการแก้ไขโดย ส.ว. ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติสถาปนิก, ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน, การแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย, การแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.

"นายกรัฐมนตรีอยากให้สมาชิกเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้กฎหมายทั้ง 5 ฉบับได้รับการพิจารณาอย่างต่อเนื่องต่อไป" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ

มีรายงานว่า ในการประชุม ครม. ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ปรารภถึงนโยบายหาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า การจะหาเสียงอะไรช่วยดูงบประมาณประเทศด้วย ใครเป็นนายกฯ หรือรัฐบาลต่อปวดหัวแน่นอนถ้าหาเสียงแบบนี้ ตนก็เข้าใจและอยากดูแลประชาชนเหมือนกัน แต่บางเรื่อง เช่น ล้างหนี้ ยกให้หมด จะเอาเงินมาจากไหน  รวมถึงได้ปรารภถึงเรื่องฉายาปี 65 ที่สื่อมวลประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งว่า โดนกันหมด นายดอน ปรมัถต์วินัย รมว.การต่างประเทศ ยังโดนฉายาลุ่มๆ ดอนๆ เจออย่างนี้ใครจะไม่โมโห โดนหาว่าทำเอเปกสู้ครั้งก่อนไม่ได้ แต่เวลาตนไปต่างประเทศก็มีแต่คนชื่นชม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งที่ประชุมหารือถึงวาระการแต่งตั้งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอรายชื่อนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ นั้น นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย ทำให้นายกฯ ถามไปยังเลขาฯ ครม.ว่า สามารถทักท้วงในที่ประชุมได้หรือไม่ โดยเลขาฯ ครม.ชี้แจงว่า ทำได้ จากนั้นที่ประชุมผ่านการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปประชุมเรื่องอื่นต่อ จนกระทั่งจบการประชุมในวาระต่างๆ แล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารืออีกครั้ง โดยระบุว่า ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันเสนอนายสุพิศ ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แย้งว่า ตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรีพลังประชารัฐ และได้ตกลงกับนายเฉลิมชัยแล้วว่าจะเป็นคนอื่น

เดือด! ตั้งอธิบดีฝนหลวง

จนกระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกความเห็นว่า ในที่ประชุม ครม.เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกัน และตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดีคือปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง พูดสนับสนุน พล.อ.ประวิตรว่าเมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติ รมช.ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมี รมช.ไว้ทำไม

อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ยังยืนยันหลักการเดิมว่า เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร ทำให้นายกฯ ตัดบทว่าให้ ครม.ผ่านเรื่องดังกล่าวไปก่อน พร้อมกับตำแหน่งอื่นๆ ทั้ง 11 คน ระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนแปลงได้ โดยหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร ได้เรียกเลขาฯ ครม. ไปคุยค่อนข้างนาน และมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าไปพูดคุยด้วย

ต่อมาภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตรปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อทุกประเด็น ทั้งเรื่องฉายาที่สื่อมวลชนตั้งไว้ ท่าทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะแข่งกันในสนามเลือกตั้งหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรเดินแหวกสื่อมวลชนขึ้นรถยนต์และออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงฉายา "วันทอง 2 ป." ที่ได้รับว่า ต้องขอบคุณสื่อที่ให้ฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีบางท่าน อย่างน้อยถือเป็นการให้ข้อคิดกับเราด้วยว่าในสิ่งที่ทำมามีจุดไหนที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ

"ผมไม่ได้มีปัญหา เพราะเป็นข้อเท็จจริง ที่ทำงานให้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร เพราะรักและผูกพันกัน ไม่ได้คิดว่าจะต้องแบ่งแยกอะไรกัน ผมฝากสื่อมวลชนช่วยกันให้ข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมากับประชาชน ข่าวสารบางอย่างประชาชนอาจจะไม่รับทราบ" นายชัยวุฒิกล่าว

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคว่า ช่วงนี้นายกฯ มีวาระงานคิวแน่น ส่วนจะสมัครเมื่อไหร่นั้น คาดว่าจะเป็นหลังปีใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนและนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน คงยังไม่ไปเปิดตัวร่วมพรรค รทสช.ในวันที่ 28 ธ.ค. ตามที่มีกระแสข่าว เพราะขณะนี้เรายังเป็น ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยู่ แต่ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ตรงไหนตนก็อยู่ตรงนั้น

"ยอมรับว่าได้ชวนกลุ่มสามมิตร ทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.พลังงาน และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปร่วมงานกับพรรค รทสช.หลายครั้ง เพราะอยากให้มาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตลอดเวลาที่ผมอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำและนักบริหารที่มีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้ง 3 คน เพราะเป็นผู้ใหญ่ต้องพิจารณาในทุกมิติ" นายธนกรกล่าว

ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. กล่าวถึงความชัดเจนของกลุ่มสามมิตร หลัง พล.อ.ประยุทธ์ประกาศอยู่กับพรรค รทสช.ว่า ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มขึ้น แต่จะให้ตนตัดสินใจอย่างไร เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนอยู่ด้วยและบริหารงานด้วยก็เป็นที่เคารพรักทั้งนั้น หากพูดอะไรไปอย่างหนึ่ง การทำงานที่เราทำอยู่อาจจะเกิดความอึดอัดใจ ฉะนั้นอย่าให้พูดเลยว่าจะตัดสินใจอย่างไร

"ผมมีแนวทางที่สามารถทำงานให้กับผู้ที่เลือกและสนับสนุนผมเข้ามาได้ และเวลานี้ขอให้ผมได้ทำงานในหน้าที่ รมว.ยุติธรรม ขอร้องสื่อมวลชนว่าท่านอื่นท่านใดจะขยับหรือพูดว่ารักใครชอบใคร แต่ผมมีมาตรฐานของตัวเอง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องพูด" นายสมศักดิ์กล่าว

'รทสช.'เปิดตัว 3 วีไอพี

ถามว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เคยระบุแล้วว่าถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอม เส้นตายการขยับขยายคือวันที่ 7 ก.พ.66 ซึ่งถือเป็นรถรางเที่ยวสุดท้าย แต่ไม่ได้ร้อนรนขนาดนั้น ยังมีเวลาอยู่

ซักว่าจะไปพร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ไม่มีทางแยกกันใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันอย่างเป็นทิศเป็นทางอันเดียวกัน ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไป เมื่อถามย้ำว่า แต่ถ้าไปจะไปด้วยกันใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีแต่ ถึงเวลาค่อยตัดสินใจกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ

ที่พรรค รทสช. เวลา 15.00 น. มีการแถลงข่าวเปิดตัว 3 วีไอพี เป็นสมาชิกพรรค ประกอบด้วย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, นายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยทั้ง 3 คนได้ลงนามเป็นสมาชิกพรรค พร้อมสวมเสื้อพรรค

นายพีระพันธุ์กล่าวต้อนรับว่า ดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านผู้อาวุโส ทั้งทางการเมืองและที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองได้ตัดสินใจที่จะมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรคและเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเรา ชื่อก็บอกว่าเราต้องการรวมคนที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน และเราก็มีแนวทางที่ว่าการเมืองต่อไปจะต้องเป็นการเมืองของคนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่า ที่ต้องมาช่วยกันนำความรู้ประสบการณ์ในอดีต รวมถึงแนวทางความคิดของคนรุ่นใหม่มาร่วมกัน

ส่วนนายไตรรงค์ กล่าวถึงเหตุผลในการเข้าร่วมพรรคว่า มี 7-8 พรรคที่อยากให้ตนไปร่วมงาน เพราะมีประสบการณ์ในการทำงาน และนายกฯ ตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็ยินดีมากที่ท่านได้เชิญไปพบว่าขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ เพราะมีประสบการณ์เยอะ และมีอะไรที่ท่านก็จะได้สอบถาม ซึ่งหลังจากเป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็ได้พูดคุยกับนายกฯ เป็นการส่วนตัวหลายครั้งมากกว่า 2 ครั้ง จนในที่สุดเรามีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ

นายไตรรงค์กล่าวว่า ความทุกข์ของตนและนายกฯ จะต้องแก้ไขภายใน 2 ปี สำหรับประเทศนี้ จึงเห็นว่านายกฯ น่าสงสาร ท่านไม่รู้จะระบายกับใคร ความทุกข์ของนายกฯ รวมกับตนมี 3 เรื่องที่จะต้องมีคนจัดการให้กับประเทศนี้โดยเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นมันจะยากเกินแก้

"ปัญหาแรกคือ 1.จะต้องปัดกวาดประเทศนี้ให้มีความสะอาด ประเทศเราเริ่มสกปรกเยอะมาก มีการทุจริตคอร์รัปชันทุกวงการมากกว่าในอดีตมาก ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เมื่อก่อนเลวร้ายเก็บ 10-20% แต่ตอนนี้เก็บ 40-50% เราจะต้องแก้ไขกฎหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าว ชนตอหรือไม่ จะจบเรื่องนี้ยังไง ย้ำว่าปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันนายกฯ เป็นทุกข์มาก 2.จะต้องแก้ปัญหาความยากจน คนพวกนี้อยู่ในที่มืด ต้องหาแสงสว่างให้กับเขา เพราะเขามีรายได้ไม่พอที่จะดำรงชีพ รัฐจะต้องช่วยคนกลุ่มนี้ และ 3.ความไม่สงบ จะต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไม่ให้มีการใช้ซูเปอร์เพาเวอร์มาปั่นหัวเด็ก ทำให้เกิดความไม่สงบในสังคม เรื่องเหล่านี้ต้องทำภายใน 2-3 ปี นายกฯ อยู่ได้อีก 2 ปีจะต้องเร่งทำความไม่สะอาด ความไม่สว่าง และความไม่สงบ" นายไตรรงค์กล่าว

ถามว่า พรรค รทสช.ถือเป็นประชาธิปัตย์สาขา 2 หรือไม่ นายไตรรงค์ย้อนถามว่า พรรคการเมืองมีสาขาด้วยหรือ ไม่ใช่ประชาธิปัตย์สาขา 2 พรรคการเมืองไม่ใช่ธนาคาร ไม่ใช่เซเว่นฯ พรรคการเมืองมีศักดิ์ศรีและจุดยืนของตัวเอง แต่อุดมการณ์อาจจะใกล้เคียงกันเพื่อให้เกิดความมั่นคง สำหรับพวกเราในการที่จะผลักดันนโยบาย แก้ปัญหาประเทศใน 3 ด้านคือ สะอาด สว่าง และสงบ

"ขณะนี้ยังไม่มีใครมีบารมีซื่อสัตย์สุจริตนอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว ต้องปราบทุจริตคอร์รัปชัน" นายไตรรงค์กล่าว

พปชร.มั่นใจ'ป้อม'นายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลาออกจาก ส.ส.ของนายชัชวาลล์ คงอุดม และนายนพดล แก้วสุพัฒน์ จากพรรคพลังท้องถิ่นไท เมื่อ 26 ธ.ค. ทำให้มีผลพ้นจากสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ทันที

นายนพดลกล่าวว่า เมื่อ 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังท้องถิ่นไทลาออก จะมีผลให้ต้องเลื่อนผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคขึ้นมาเป็น ส.ส. ซึ่งถือว่าเป็นการตอบแทนบุคคลที่ทำงานให้กับพรรคมาตลอด

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการย้ายจากพรรคเทิดไทกลับเข้าพรรค รทสช.ว่า จุดยืนพรรค รทสช.ในช่วงเริ่มต้นชัดเจนคือปกป้องสถาบันหลักของชาติ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เพื่อแก้ไขความทุกข์ยากของประชาชน และปัญหาประเทศชาติบ้านเมือง และวันนี้จุดยืนของพรรคที่มีนายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าพรรคยังมั่นคงเหมือนเดิม

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใน 5 จังหวัด จำนวน 10 คน ประกอบด้วย จ.สุราษฎร์ธานี 5 คน ได้แก่ นายสุชาติ อินทรมณี เขต 1, นายธนโชติ ติณพันธ์ เขต 2, นายสุริญญา ยืนนาม เขต 3, นายณัฐวรันธร ทองคำ เขต 4 และนายมนู วณิชชานนท์ เขต 5, จ.หนองบัวลำภู 1 คนคือ นายทรงศักดิ์ ศิริสถิตย์ เขต 1, จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน ได้แก่ นายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือคิง ก่อนบ่าย เขต 1 นายพิษณุ กล้าขาย เขต 2, จ.นครปฐม 1 คน คือ นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ เขต 2, จ.ปทุมธานี 1 คนคือ นายนพดล ลัดดาแย้ม 

นายสันติกล่าวว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 5 จังหวัด เป็นเครื่องมือยืนยัน พปชร.มีนโยบายที่เข้มแข็ง เหมือนที่พล.อ.ประวิตรมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เพิ่มศักยภาพให้เยาวชน มีนโยบายเกี่ยวกับพัฒนาสตรี ดูแลผู้สูงอายุ ให้ พปชร.เป็นที่มุ่งหวังของประชาชน และเป็นแกนนำในการพัฒนาประเทศให้ประชาชนอยู่ดีกินดี นอกจากนี้ ทำเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  

นายไพบูลย์กล่าวว่า นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และจะยังมีการเปิดตัวอีกหลายครั้ง ซึ่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 10 คน จะเป็นกำลังสำคัญที่จะส่งความหวัง ความฝัน ของ พปชร.ในการช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ดีกินดี เรามุ่งมั่นที่จะเห็นประเทศไทยหลังการเลือกตั้งปี 66 มีนายกฯ คนที่ 30 ของ พปชร. เพราะ พล.อ.ประวิตรมีทั้งบารมี ความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ใจดี เป็นที่ยอมรับของทุกพรรคและ ส.ว. 

ภท.ลั่นเป็นแกนนำตั้ง รบ.

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์เริ่มขยับลงพื้นที่หลังประกาศตัวร่วมพรรค รทสช.ว่า ต่างคนต่างแข่งขันกันทำประโยชน์เพื่อประชาชน ซึ่งเราต้องไม่กังวล เพราะก็มีวิถีทางและยุทธศาสตร์ นโยบายของตัวเอง อย่าไปมองว่าเป็นการห้ำหั่นกัน

ถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเป็นนักการเมือง จะมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลร่วมกันอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอผลการเลือกตั้ง จะไปพูดว่าจะจับขั้วอย่างไรก่อนไม่ได้ ประชาชนคือผู้ตัดสิน วิถีทางและอนาคตของพรรคการเมือง เช่น ขั้วปัจจุบัน หากประชาชนเลือกเกินกึ่งหนึ่งของสภา ก็มีโอกาสที่เดินหน้าต่อ 

"ขอย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยมีแนวทางของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งหวังว่าครั้งนี้จะขยับจากพรรคเล็ก พรรคกลาง เป็นพรรคขนาดใหญ่ และจะขอเป็นผู้กำหนดเกมบ้าง ไม่ใช่เป็นพรรคที่คอยดูว่าพรรคอื่นทำอะไรบ้าง เราไปจอดแล้วไปจอยไปจับกับเขา เพราะทำพรรคมาขนาดนี้ มีความพร้อมและมีสมาชิกพรรคมาสมัครมากมาย ทั้ง ส.ส.ที่ยอมลาออกจากพรรคเดิมมาร่วมงาน ซึ่งเป็นทิศทางที่แสดงให้เห็นว่า ภูมิใจไทยพร้อมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่การจอง แต่เป็นเพียงการนำเสนอนโยบายและแสดงความพร้อม แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนพูดแล้วทำ จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้พิจารณา หากเห็นว่าสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำมีประโยชน์เขาก็เลือกให้เราทำหน้าที่  ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน" หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว

ส่วนนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคก้าวไกลพร้อมจับมือกับพรรค พปชร.เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ว่า พรรคไม่มีวันจับมือกับพรรคที่สืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร ไม่ว่าจะเป็นพรรค พปชร.หรือพรรค รทสช. จุดยืนพรรคคือปัญหาของประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เมื่อเผด็จการทหารคืนอำนาจให้มีการเลือกตั้งแล้วจบ แต่ระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างเครือข่ายสืบทอดอำนาจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และพรรคการเมืองร่างทรงทหาร การจับมือกับพรรคการเมืองเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลไกสืบทอดอำนาจทหาร

วันเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวน วินิจฉัยและพิจารณาในเบื้องต้น กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง รวมทั้งขอให้ตรวจสอบรูปภาพที่เขียนคำว่าพรรคเพื่อไทย ซึ่งมี ส.ส.หลายคนบอกว่าเป็นลายมือของนายทักษิณนั้น จริงเท็จหรือไม่ขอให้ กกต.วินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 45 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนคุกคามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งคำว่าศีลธรรมอันดี คือหลักแห่งการประพฤติปฏิบัติดี ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ และมีคำพิพากษาจำคุก 10 ปี แต่การที่ น.ส.แพทองธาร ที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานประกาศนโยบาย เป็นถึงหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จึงเป็นคนหนึ่งที่เป็นไปตามมาตรา 45

"ด้วยเหตุผลทั้งหมด จึงขอให้ กกต.วินิจฉัยตีความในประเด็นดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 44, 45, 28, 29 และบทกำหนดโทษตามมาตรา 92 (3) (4) คือยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง หากมีความผิดจริง" นายสนธิญากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หมอเชิด’ สะกิดเตือน ‘เศรษฐา’ หมอคุมยาก เปลี่ยนตัว ‘รมว.สธ.’ เกิดปัญหาแน่

‘หมอเชิด’ แนะ’เศรษฐา’ฟังเสียงสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะคนที่ยกมือให้ด้วย พร้อมระบุหมอควบคุมยาก เปลี่ยนตัวรมว.สธ.เกิดปัญหาแน่