ประเดิม7วันอันตราย สังเวย37ศพเจ็บ351

ศปถ.สรุปอุบัติเหตุหยุดยาววันแรก 349 ครั้ง ตาย 37 ราย ลำพูนแชมป์ สาเหตุหลักขับเร็ว-ดื่ม ตร.จับเมาแล้วขับกว่า 6 หมื่นราย นายกฯ สั่งกวดขันผู้ทำผิดกฎหมาย ถ.มิตรภาพยังหนาแน่น หนึบตั้งแต่สระบุรี เคลื่อนตัวช้า จนท.ต้องเปิดทางพิเศษช่วยระบาย

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ โดยขอให้ประชาชนระมัดระวัง ดูแลตนเองให้ดี ให้ปลอดภัยทั้งจากการเดินทางโดยยานพาหนะต่างๆ รวมถึงปลอดภัยจากโควิด-19 โดยขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง

นายอนุชากล่าวว่า ทั้งนี้ นายกฯ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น อำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน ตลอดจนให้คำแนะนำและกวดขันพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ นำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ พ.ศ.2566 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 แล้วไปปฏิบัติ

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 โดย ปภ.และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ เกิดอุบัติเหตุ 349 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 351 คน ผู้เสียชีวิต 37 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 41.55 ดื่มแล้วขับร้อยละ 23.50 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.51 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 83.09 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 43.27 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 28.37

นายโชตินรินทร์กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01-19.00 น. ร้อยละ 9.46 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี ร้อยละ 18.81 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,887 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 55,910 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 370,561 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 65,530 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,920 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 18,250 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 6,315 ราย ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 5,391 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำพูน 13 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 14 คน

รองปลัดกระทรวงมหาดไทยระบุว่า วันที่ 30 ธ.ค. เป็นวันแรกของช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ประชาชนยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ศปถ.ได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะถนนสายหลัก สายรอง และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ดื่มไม่ขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย อีกทั้งเฝ้าระวังถนนทางตรงที่มีระยะทางยาวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการขับรถเร็ว ตลอดจนใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสาในการจัดตั้งด่านชุมชนป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่มีความสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุทางถนน

ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีปภ. และเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า ศปถ.ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานภาคีเครือข่าย สร้างความปลอดภัยทางถนนในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง เน้นการวางแผนแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น

นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 29 ธ.ค.65 วันแรกของการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ว่า มีคดีทั้งสิ้น 295 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 214 คดี คิดเป็นร้อยละ 72.54, คดีขับรถประมาท 9 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.05 และคดีขับเสพ 72 คดี คิดเป็นร้อยละ  24.41 เมื่อเปรียบเทียบคดีขับรถขณะเมาสุราปีใหม่ 2565 มีจำนวน 108 คดี กับปีใหม่ 2566 จำนวน 214 คดี พบว่า เพิ่มขึ้น 106 คดี คิดเป็นร้อยละ 98 สำหรับจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ นนทบุรี 55 คดี,  กรุงเทพมหานคร 27 คดี และตาก 15 คดี

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดูแลอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ว่า ภาพรวมการเดินทางออกของพี่น้องประชาชนปีนี้มากขึ้น โดยในวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากสถิติปริมาณการเดินทางของกรมทางหลวงและตำรวจทางหลวง พบว่า มีปริมาณรถการเดินทางออกจาก กทม. ถึง 649,871 คัน มากกว่าช่วงปกติถึง 31.2% และมากกว่าปีใหม่ปีที่แล้ว 3.8% โดยเฉพาะถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ มีปริมาณการจราจรหนาแน่นที่สุด ส่วนการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ ช่วงปากช่อง-ขามทะเลสอ (M6) มีปริมาณรถใช้มอเตอร์เวย์จำนวน 48,921 คัน ทำให้ช่วยการจราจรถนนมิตรภาพได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการเน้นย้ำให้ตำรวจทางหลวงและตำรวจท้องที่ ช่วยกันดูแลอำนวยการจราจรอย่างเต็มที่

โฆษก ตร.กล่าวว่า สำหรับสถิติการจับกุม 10 ข้อหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของวันที่ 29 ธ.ค. จับกุมไปแล้ว 64,223 ราย โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับจับกุม 1,936 ราย รถเร็ว 27,756 ราย  ส่วนมาตรการการควบคุมดูแลสถานบริการ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้งานป้องกันปราบปรามลงไปควบคุมกำกับดูแล ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงในการสังสรรค์ รื่นเริง เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ไทย

สำหรับบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนชาวภาคอีสาน โดยเฉพาะสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีปริมาณรถยนต์ยังคงหนาแน่น เกิดการสะสมตั้งแต่ตั้งพื้นที่ ต.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เข้าสู่เขต ต.กลางดง จ.นครราชสีมา ช่วงทางขึ้นเขา ติดขัดยาวกว่า 5 กม. จนถึงบริเวณเทศบาลตำบลสีมามงคล ในเขต ต.กลางดง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเปิดช่องทางพิเศษช่วงกลางวัน แต่ในช่วงกลางคืนต้องปิดช่องทางพิเศษ เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย ประกอบกับบางจุดมืด บางจุดแสงไฟสลัวๆ เรื่อยมาจนถึงช่วงฟาร์มโชคชัยฯ ปริมาณรถสะสมติดขัดเช่นเดียวกัน ส่วนช่วงทางเลี่ยงเมือง อ.ปากช่อง ติดขัดยาวต่อเนื่องไปจนถึงทางเบี่ยงขึ้นเส้นทางมอเตอร์เวย์ M6 ระบายปริมาณรถแบ่งออกไปทำให้ปริมาณรถคล่องตัวไหลลื่น

ขณะที่ช่วงริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ต.คลองไผ่ ยังมีปริมาณมาก รถเคลื่อนตัวได้ช้าสลับกับหยุดนิ่งช่วงผ่านจุดพักรถสวนน้ำ เรื่อยมาจนถึงช่วง ต.ลาดบัวขาว-ช่วงขึ้นเนินลงเนิน-ทางต่างระดับอำเภอสีคิ้ว ปริมาณรถหนาแน่น เป็นจุดทางแยกไป จ.ชัยภูมิ กับแยกไปเส้นสีคิ้ว-เดชอุดม มุ่งหน้าไป จ.บุรีรัมย์, สุรินทร์ เรื่อยมาถึงทางต่างระดับสามแยกปัก หรือทางต่างระดับนครราชสีมาถนนมิตรภาพ เส้นทางเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่น ปริมาณรถมารวมกับปริมาณรถที่มาจากถนนสืบสิริ เส้น 304 อ.กบินทร์บุรี ปริมาณรถเกิดการสะสมติดขัดยาวตั้งแต่ กม.1-5.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง