ประยุทธ์ชิ่งรื้อรธน.วาระเก้าอี้

“ประยุทธ์” ลั่นไม่เกี่ยวกับผม ปมรื้อรัฐธรรมนูญยกเลิกนายกฯ นั่งเก้าอี้แค่ 8 ปี “วิษณุ” เชื่อแค่ตีปลาหน้าไซ “เสรี” รับเป็นข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าชงมายัง กมธ. เย้ยเพื่อไทยไหนบอกแลนด์สไลด์ ทำไมกลัวเงาบิ๊กตู่ “กิตติศักดิ์” ยกมือหนุนพร้อมชง ส.ส.เว้นวรรค 2 ปี “สันติ-วิรัช-ระวี-โรม” พาเหรดค้าน 

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสั้นๆ ปฏิเสธข่าวกรณีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอประเด็นให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 โดยไม่กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีว่า “ไม่เกี่ยวกับผม”

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่ได้มองเรื่องนี้ ไม่รู้เรื่อง ถ้าคุณรู้ก็ตอบเอง และเมื่อถามต่อว่าเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า บอกไม่รู้

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินใครพูดเรื่องดังกล่าวนอกจากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งไม่มีทางจะแก้ในรัฐบาลสมัยนี้ หากแก้สมัยหน้า ก็จะอยู่ที่ ส.ส. หากคิดว่าแลนด์สไลด์คุมได้ ไม่มีใครจะไปแก้อะไรได้ ต่อให้ ส.ว.รวมกัน 250 คน อีกทั้ง 250 ส.ว.ในอนาคตจะไม่ใช่เหมือน ส.ว.ในปัจจุบัน เพราะในปี 2567 จะมีการเลือกตั้ง ส.ว.ทั่วประเทศ การมาพูดเรื่องนี้ในตอนนี้ การหาเรื่องพูดให้ด่ากันเล่น เขาเรียกว่าตีปลาหน้าไซ คือกันไว้ก่อนก็ดีแล้ว

ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ยอมรับว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องของการเสนอประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ซึ่งมีอยู่ 5 หัวข้อใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นคือการพัฒนาปรับปรุงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันว่ามีข้อที่ต้องพัฒนาแก้ไขอย่างไรหรือไม่ ซึ่งเป็นหัวข้อเดิมหลักของการรายงานในสภาอยู่แล้ว สำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือสถาบันพระปกเกล้า ที่เสนอมาหลายประเด็น แต่ทาง กมธ.จะพิจารณาว่ามีประเด็นอื่นอีกหรือไม่

“เมื่อดูแล้ว กมธ.จึงเสนอประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ที่กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่รัฐธรรมนูญเดิมก่อนฉบับ พ.ศ.2550 ไม่มีการกำหนดวาระ แต่ปัจจุบันเมื่อเรามาศึกษาดูพบว่าการกำหนดเวลา 8 ปี ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ เพราะบางประเทศยอมรับเสียงประชาชนเป็นผู้กำหนด ดังนั้นใครจะเป็นนานเท่าไหร่ หรือจะเป็นนานกี่ครั้ง อยู่ที่เสียงประชาชน ไม่จำเป็นต้องไปกำหนด 8 ปี ยกตัวอย่างจีน ที่สี จิ้นผิง ตอนแรกให้ 2 สมัย แต่ตอนนี้ให้ 3 สมัย ไม่ใช่เป็นกฎตายตัว เราจึงเห็นว่าเมื่อมีข้อเสนอจะแก้ไขเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่ใช้กับทุกพรรคการเมือง เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าใครจะชนะเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยบอกว่าจะแลนด์สไลด์ แล้วจะมาบอกว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงว่าเพื่อไทยคิดจะเป็นฝ่ายค้านตลอดหรืออย่างไร ตอนนี้เพื่อไทยกลัว พล.อ.ประยุทธ์ไปเองหรือเปล่า” นายเสรีกล่าว

นายเสรีกล่าวว่า หากมีแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่จำกัดวาระ 8 ปีได้จริง ใครเป็นรัฐบาลในสมัยเลือกตั้งคราวต่อไปก็ใช้กติกานี้ได้ หรือจะไปแก้ไขตอนหลังก็ทำได้ ขณะนี้เป็นเพียงข้อศึกษา และข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ว่า กมธ.เสนอแล้วจะแก้ได้เลยที่ไหน เพราะต้องใช้เสียงของทั้งสองสภา อย่างน้อยต้องใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 และเสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน 20%

เมื่อถามว่า หากจะแก้ไขในประเด็นนี้ ต้องใช้เวลานานเท่าใด และจะเสร็จในรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลหน้า นายเสรีกล่าวว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเสียงในสภาจะเอาอย่างไร ถ้าสภาไม่อยากได้ ก็ล่มไปล่มมา

ถามว่า กังวลว่าสังคมจะกล่าวหาว่า ส.ว.ทำงานรับใช้เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ไม่หรอก เราต้องยอมรับว่าถ้ามีประเด็นกี่เรื่องเราต้องเสนอให้หมด และพรรค พท.ก็เสนอให้ลดอำนาจ ส.ว. ไม่ให้เลือกนายกฯ โดยไม่ห่วงว่าใครจะคิดอย่างไร ส่วนประเด็นไม่จำกัดวาระนายกฯ เป็นเพียงแค่เงา แต่พรรค พท.ก็กลัวแล้ว

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวว่า ถึงเวลาที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญครั้งใหญ่  จะแก้ทั้งทีควรปลดล็อกกฎหมายหลายอย่าง ยกเว้นมาตรา 1 และ 2 ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าหากแก้กฎหมายแล้วจะต้องมาหารือร่วมกันจาก ส.ว. ส.ส. และคณะรัฐมนตรี ถ้าหากจะแก้รัฐธรรมนูญจริง

“การดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ควรจำกัดแค่ 8 ปี ส่วนตัวคิดว่านายกฯ ที่ดีไม่ควรมีการกำหนดให้ดำรงตำแหน่งแค่ 8 ปี ควรแก้รัฐธรรมนูญข้อนี้ด้วย หาก พล.อ.ประยุทธ์พ้นวาระไปแล้ว แต่เป็นนายกฯ คนดี ก็ไม่ควรจะจำกัดวาระการทำงาน แต่ถ้าได้นายกฯ ไม่ดี ซึ่งไม่ขอเจาะจงว่าใคร ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง” นายกิตติศักดิ์ระบุ

เมื่อถามว่า นายกฯ ที่ทำงานเพื่อประเทศและประชาชน สามารถอยู่ได้เกิน 8 ปี ฝั่งคู่ขนานจะมองว่าเป็นการยึดติดในอำนาจหรือไม่ นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า หากแก้รัฐธรรมนูญข้อนี้จริง ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่หรือไม่ และรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขใหม่มีผลบังคับใช้กับทุกพรรคการเมืองที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่เฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนรัฐธรรมนูญข้ออื่นๆ ที่ต้องการแก้ไขนั้น ต้องดูว่าทางฝ่ายนักการเมืองต้องการในประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งขอเพียงอย่าแตะต้องมาตรา 1 มาตรา 2 ส่วนมาตราอื่นต้องลงรายละเอียด หรือตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไม่ขัดข้อง

“ส.ว.หลายท่านสนับสนุนให้แก้ไข รวมทั้งการดำรงตำแหน่ง ส.ส.ที่กำลังหมดวาระ จะต้องปิดล็อกห้ามเป็น ส.ส. 2 ปีหรือไม่ นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ ส.ว. กำลังคิดและทำ ส่วนนักการเมือง ส.ส. มีประเด็นใดที่ต้องการแก้ไข ต้องร่วมมือกันหาจุดร่วมที่จะไปด้วยกันได้” นายกิตติศักดิ์กล่าว

ส่วนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการจะแก้ไขในประเด็นดังกล่าว เพราะจะเป็นการแก้ไขให้กับบุคคลเพียงคนเดียว

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขอให้ผ่านการเลือกตั้งและได้เข้ามาก่อน ส.ส.จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หากรัฐธรรมนูญยังไม่ได้การแก้ไข ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น แต่ถ้าถามส่วนตัวไม่รู้จะแก้ไขเพื่ออะไร เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดระบุชัดว่าให้อยู่ 8 ปี 

“แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐจะเป็นชื่อ พล.อ.ประวิตรอย่างหนักแน่นเพียงคนเดียว จึงเห็นว่าประเด็นแก้ไขอายุการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปแก้ไข และไม่เห็นด้วย” นายวิรัชระบุ 

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวเช่นกันว่า ไม่เห็นด้วย เพราะว่าระยะเวลา 8 ปีก็น่าจะเหมาะสมสำหรับผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านประชามติของประชาชนเรียบร้อยแล้ว ถ้าจะแก้ก็ต้องไปโหวตกันใหม่ รอให้ผ่านการทำประชามติตั้ง ส.ส.ร. มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ถ้าประชาชนทั้งประเทศเห็นด้วยก็ไม่ว่ากัน

เมื่อถามว่า ถ้า ส.ว.ดึงดันแก้รัฐธรรมนูญมองอย่างไร น.พ.ระวีกล่าวว่า คิดว่าทางการเมือง ไม่มั่นใจว่าการเสนอแก้รัฐธรรมนูญแบบนี้จะเป็นผลดีกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ เพราะเขาก็จะมองว่า ส.ว.อยู่ในอำนาจของนายกฯ ก็เลยเสนอชงเรื่องเพื่อให้ไปต่อเกินจาก 2 ปี ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรทำ ทำแล้วจะเกิดผลเสียต่อนายกฯ ด้วยซ้ำไป ปรารถนาดีกลายเป็นปรารถนาร้าย

“อย่ามองว่าประเทศต้องผูกขาดโดย พล.อ.ประยุทธ์คนเดียว การเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยอาจได้เป็นรัฐบาล ผมคิดว่า 8 ปีเหมาะแล้ว เปลี่ยนให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบ้าง” นพ.ระวีกล่าว

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า กติกานายกฯ ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี เป็นกติกาที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้พรรคการเมืองที่คิดตรงข้ามฝ่ายเผด็จการในขณะนั้น ไม่สามารถเป็นพรรคการเมืองได้โดยง่าย ถูกใช้เพื่อสกัดพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตอนนี้กลายเป็นว่าดาบนั้นคืนสนองกลับไปที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเชื่อว่า ส.ว.ไม่ได้คิดในเชิงหลักการอะไร แต่เขาต้องการช่วยให้ พล.อ.ประยุทธ์สามารถเป็นนายกฯ ต่อไปได้เป็นสาระสำคัญ

“แม้ ส.ว.จะศึกษาอะไรต่างๆ แต่มันก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ถ้าหากจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าทั้งหมดนี้อาจเป็นแค่การละคร พยายามโชว์การแสดง เพื่อให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนในรัฐบาลมากกว่า ไม่ได้มีราคาเท่าไหร่สำหรับการแสดงนี้” นายรังสิมันต์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง