สอบนายพล‘จ’ โยงสารวัตรซัว กม.สกัดบัญชีม้า

"บิ๊กตู่" สั่งตรวจสอบปม "นายพล จ.-สารวัตรซัว" เอี่ยวพนันออนไลน์ "ผบ.ตร." มอบ "จตช." ดำเนินการภายใน 15 วัน "ชูวิทย์" ยินดีให้ข้อมูลชุดสอบสวนเต็มที่ "ครม." ไฟเขียวร่าง พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี    ระบุธนาคารระงับธุรกรรมต้องสงสัยภายใน 7 วัน รับจ้างเปิดบัญชีม้า คุก 3 ปี ปชช.ร้องทุกข์ที่โรงพักหรือออนไลน์ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 14 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี

พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีต สว.ฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์รับพนัน  โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว เช็กอินที่ประเทศตุรกี พร้อมเขียนข้อความระบุ ขอบคุณมากสำหรับการทำตลาดให้ฟรี ขอให้ทำต่อไป ว่าเดี๋ยวก็จะมีการติดตามสืบสวน ขอให้ติดตาม

"ใครจะพูดอะไรก็พูดไป ท้ายที่สุดความเป็นจริงก็ปรากฏออกมาเอง ใครจะเห็นว่าผิดหรือถูก สุดท้ายแล้วศาลเป็นผู้ตัดสิน นั่นคือหลักการกระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นประเทศชาติอยู่ไม่ได้หรอก" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายวิษณุกล่าวว่า ผบ.ตร.เข้าพบเพื่อสวัสดีวันวาเลนไทน์ตอน 8 โมงเท่านั้น

ถามว่า มีการหารือถึงกรณีสารวัตรซัวและคดีมาเก๊า 888 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี โดยผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ได้มีการพูดถึงนายพล จ. เรียกรับเงินตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี คุยกันเรื่องอื่น

ซักว่ายังมีข้อกฎหมายที่ทางตำรวจขอความเห็นหรือไม่ ถึงได้มาพบ นายวิษณุ ยอมรับว่ามี ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถตอบได้ ขอรายงานนายกรัฐมนตรีก่อน

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.มีหนังสือสั่งการไปยังจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสารวัตรซัวประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และนายพล จ. ทั้งพฤติการณ์การกระทำผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทั้งทางอาญา วินัยหรือไม่อย่างไร แล้วรายงานให้ทราบภายใน 15 วัน

"นายกฯ ได้มีความเป็นห่วงประเด็นดังกล่าว สั่งการให้ ผบ.ตร.ตรวจสอบกรณีมีตำรวจระดับนายพลเข้าไปเกี่ยวข้องคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ หากมีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับใคร ให้ลงโทษอย่างเด็ดขาดทุกราย เน้นย้ำว่าตำรวจก็มีทั้งดีและไม่ดี เมื่อไม่ดีก็ต้องขจัดออกไปให้ได้ และต้องให้กำลังใจกับคนดีๆ ที่ทำงานที่มีอยู่จำนวนมาก โดยให้สร้างอุดมการณ์ สร้างคุณธรรมจริยธรรมให้กับตำรวจ ซึ่ง ผบ.ตร.ก็รับนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อน ทำมาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง" โฆษก ตร.กล่าว

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวถึงกรณีมีการอ้างจากนายพล จ. ได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับตัวเองว่า ไม่เป็นความจริง ไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากนายพล จ. และไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ได้รับรายงานจากเลขาฯ ส่วนตัวว่าได้รับโทรศัพท์จากนายพล จ. ซึ่งได้กล่าวผ่านเลขาฯ ของตัวเองว่า “ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว”

นายชูวิทย์กล่าวว่า จะเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับนายพล จ. กับจเรตำรวจชุดที่ ผบ.ตร.แต่งตั้งขึ้นเท่านั้น รวมทั้งมีดาบศร  ซึ่งเป็นนายดาบที่มีการใช้ชีวิตหรูหรา มีฐานะร่ำรวย มีรถตู้หรูถึง 3 คัน รีสอร์ตอีกหลายแห่ง จึงตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อให้กับนายพล จ.หรือไม่

"นายพล จ.กับสารวัตรซัวมีความสัมพันธ์กันมานาน เริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องของโรงเรียน ตลอดจนการทำธุกิจสีเทา ซึ่งยินดีเข้าให้ข้อมูลเรื่องสารวัตรซัวกับคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการทำงานที่ล่าช้า เพราะสารวัตรซัวมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพียงแค่ 3 นาทีก็สามารถโยกย้ายถ่ายโอนข้อมูลทุกอย่างได้แล้ว" นายชูวิทย์กล่าว

ส่วนนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงการตรวจสอบสหกรณ์เป็นต่อกรุ๊ป เชื่อมโยงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 หรือไม่ว่า  ขณะนี้ตนได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 ตรวจสอบถึงที่มาของการจัดตั้งสหกรณ์ที่ถูกกล่าวอ้างคือ สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด เบื้องต้นพบสหกรณ์ดังกล่าวมีการดำเนินงานกับสมาชิกตามปกติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทต้นสังกัดแต่อย่างใด เว้นแต่เงินอุดหนุนซึ่งได้รับจากประธานกรรมการบริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด จำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งสหกรณ์ลงบัญชีไว้เป็นรายการหนี้สินไม่หมุนเวียน แต่เนื่องจากทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถึง 2 ล้านบาท จึงไม่ต้องมีการรายงานธุรกรรมต่อสำนักงาน ปปง.

วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้ตรวจร่างพระราชกำหนดเรียบร้อยแล้ว และนำเสนอ ครม.พิจารณา ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ..... ร่างพระราชกำหนดฉบับนี้มีทั้งหมด 14 มาตรา ซึ่งสาระสำคัญยังคงเดิม โดยมีกลไกหลักสำคัญในการอายัดบัญชีและธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือบัญชีม้า คือการแลกเปลี่ยนข้อมูล เป็นข้อมูลจากสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบการที่เก็บข้อมูลบัญชีเงินฝากหรือธุรกรรม รวมถึงผู้ประกอบการโทรศัพท์ ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีหรืออาจมีการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ ต้องเปิดเผยข้อมูลหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าที่น่าสงสัยนั้น ผ่านระบบกลางหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นชอบร่วมกัน

ทั้งนี้ สาระสำคัญของกฎหมาย กรณีที่สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจพบเหตุสงสัยเอง หรือได้รับข้อมูลจากระบบ ว่าบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ถูกใช้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ มีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมและแจ้งสถาบันการเงินในหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนถัดไปทราบ  โดยระงับธุรกรรมนั้นไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่พบเหตุอันควรสงสัยหรือได้รับแจ้ง 

สำหรับบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนกฎหมายฉบับนี้ ประกอบด้วย มาตรา 9 ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 “ประชาชนสามารถร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ที่ สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือร้องทุกข์ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และขอย้ำว่า ผู้ใดที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า ขอให้ปิดบัญชี และหยุดการกระทำดังกล่าว เพราะรัฐบาลเอาจริงในการจับกุมผู้กระทำความผิดคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว.