ฝ่ายค้านผิดหวังรบ.ตอบไม่เคลียร์

"บิ๊กตู่" แจงซักฟอกฉลุยข้อมูลเก่า ขอบคุณไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรง "แรมโบ้"  อัดฝ่ายค้านสอบตก น้ำท่วมทุ่งประชาชนเบื่อหน่าย รอง ปธ.วิปรัฐบาลชมทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่ดี "หมอชลน่าน" โวฝ่ายค้านอภิปรายดีมาก คำตอบนายกฯ มัดตัวเอง  8 ปีไร้ผลงาน "โรม" ผิดหวังตอบไม่เคลียร์

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 เป็นวันที่ 2 ด้วยสีหน้าเป็นปกติ โดยเมื่อถามว่าได้ฟังนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายกรณีที่มีการนำภาพถ่ายกลุ่มทุนสีเทามาเชื่อมโยงและปรากฏภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมด้วยนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "ก็ชี้แจงได้อยู่แล้วละ กระบวนการยุติธรรมก็ทำงานไป"

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ดูการอภิปรายนายรังสิมันต์อยู่เช่นกัน ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เป็นเรื่องไม่จริง และเรื่องต่างๆ เหล่านั้นเป็นข้อมูลที่นายกฯ ทราบอยู่แล้ว เพราะนายกฯ เป็นคนสั่งการให้ดำเนินคดีกับทุกฝ่าย ทั้งคดีตู้ห่าว และเรื่องอักษรย่อต่างๆ และ ผบ.ตร.รายงานนายกฯ มาโดยตลอด ซึ่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว สิ่งที่นายรังสิมันต์อภิปรายมาจึงไม่ใช่เรื่องใหม่

ส่วนมีการโยงที่ดินและอาคารที่ทำการพรรค รทสช. เกี่ยวโยงกับนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว.นั้น ตรงนี้เป็นการกล่าวหาที่ไร้ข้อมูลมากๆ ตนได้ตรวจสอบและทราบอยู่แล้วว่าจะมีการนำเรื่องนี้มาอภิปราย สามารถชี้แจงได้ สื่อมวลชนไปตรวจสอบได้ว่าที่ดินตรงนี้เป็นของใคร และใครมีหุ้นอยู่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเลย ทราบว่าเคยมีชื่อครอบครองตั้งแต่ปี 60-62 แต่ตอนนี้ไม่มีชื่อเขาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้พูดถึงการอภิปรายของนายรังสิมันต์อย่างไรหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า ไม่ได้พูดถึง แต่เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้คุยกับตนก่อนกลับบ้านว่าการอภิปรายเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตนบอกว่ามองตรงกับนายกฯ ว่าการอภิปรายครั้งนี้ต้องขอบคุณทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ที่อภิปรายกันอย่างเต็มที่ ไม่ได้ใช้ถ้อยคำที่สร้างความเสียหายและรุนแรง แต่เสียนิดเดียวคือข้อมูลเก่าที่ประชาชนทราบอยู่แล้ว อภิปรายไปแล้วก็นำมาอภิปรายอีก เชื่อว่าประชาชนรู้ดี และที่ฝ่ายค้านบอกว่า 8 ปีที่ผ่านมาเป็นการบริหารงานที่ล้มเหลวนั้น เป็นการมองด้วยใจที่มืดบอดที่สุด อย่างไรก็ตาม นายกฯ มองว่าเป็นข้อมูลเดิม ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมากมาย นายกฯ ชี้แจงได้

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.พ. จนถึงวันนี้ ยังไม่มีเรื่องอะไรที่น่าติดตามและเป็นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจ มีแต่การอภิปรายเพื่อหาเสียงตีกินทางการเมืองเพื่อเตรียมการเลือกตั้งเท่านั้น การอภิปรายแต่ละเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก่าที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เคยพูดไว้ เหมือนการลอกการบ้านนายชูวิทย์มาอภิปราย ซึ่งเป็นเรื่องเก่าที่นายกฯ เคยสั่งการไปหมดแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมายจนหมดแล้ว

"การอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายแบบน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง เป็นการหาเสียงตีกินทางการเมืองเท่านั้นเอง พี่น้องประชาชนฝากบอกมาว่าเสียเวลาปิดทีวี เปลี่ยนช่องไปดูละครจะดีกว่า ไม่อยากฟังฝ่ายค้านอภิปรายสิ่งที่ไม่มีเนื้อหาสาระ ซึ่งไม่มีข้อมูลอะไรที่เป็นข้อมูลใหม่การอภิปรายครั้งนี้เป้าหมายคือจะโจมตีนายกฯ และรัฐบาล แต่นายกฯ ได้ตอบชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้นเหล่านี้ล้วนเกี่ยวโยงมาจากรัฐบาลในอดีตที่มีนายกฯ เจ้าของคอกได้สร้างขึ้นไว้ตั้งแต่ในยุคนั้น การแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องมารับปัญหา ตามล้างตามเช็ดและแก้ไขปัญหาที่ผู้นำในอดีตได้ก่อไว้" นายเสกสกลระบุ

ที่ปรึกษาของนายกฯ กล่าวว่า การยื่นอภิปรายตามมาตรา 152 หลักก็คือต้องเสนอแนะปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อเท็จจริงให้กับรัฐบาล แต่กลับมาอภิปรายลักษณะใส่ความ ใส่ร้ายป้ายสีจนทำให้พี่น้องประชาชนฟังแล้วรับไม่ได้ และพี่น้องประชาชนชอบใจที่นายกฯ ได้ชี้แจงชัดเจน และตอกหน้าฝ่ายค้านหงายหลังกลับจนไปไม่เป็น งานนี้ต้องเรียกว่าฝ่ายค้านเสียมวยเลยทีเดียว สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลในอดีต นายกฯ ฉายาหัวหน้าคอกเคยสร้างปัญหาทิ้งไว้แล้วทั้งสิ้น

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายว่า ขอขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ได้มีการร่วมมือกัน สามารถครบองค์ประชุมได้ และมีบรรยากาศในการประชุมที่ดี โดยวันแรกของการอภิปรายกรอบเวลาเป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่ได้ตั้งกันไว้ และคิดว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดี โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้าน ที่เปิดประเด็นให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจะมีข้อเสนอแนะอะไรบ้าง ที่จะให้เกิดผลประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องขอชื่นชม ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลในเชิงการเสนอแนะให้เห็นภาพอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม การตอบของนายกฯ ครั้งนี้มีการเตรียมการและมีความมั่นใจ ตอบในประเด็นที่ท่านคิดว่าควรจะตอบ  และต้องขอชื่นชมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้นำข้อมูลมาประกอบการชี้แจง โดยใช้ระยะเวลาสั้น แต่สามารถมองเห็นภาพในการตอบทั้งหมดได้ หากประเมินแล้วการอภิปรายครั้งนี้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน ที่อยากฟังข้อมูลและตัวเลขของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดี ส่วนการตัดสินใจของประชาชนจะเป็นอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทางด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้อย่างดียิ่งในการนำเสนอข้อเท็จจริงสอบถามไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่นายกฯ จะตอบว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านพูดไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ก็ต้องบอกกับสภาเอง และหลายเรื่องที่เราอภิปรายสามารถนำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป รัฐมนตรีต้องไปดูว่าเป็นจริงตามที่เราพูดหรือไม่ รวมทั้งประเด็นที่นำมาพูดและมีหลักฐานชัด สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้

 เมื่อถามว่า การชี้แจงของนายกฯ ถือว่าได้ความชัดเจนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่อยากวิจารณ์ แต่ประชาชนก็รู้อยู่ การบอกว่าฝ่ายค้านเอาข้อมูลเก่ามาใช้เป็นการตอบเลี่ยงๆ แต่ที่บอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัวตน อะไรที่ไม่เกี่ยวคือไม่เกี่ยว ท่านจะปฏิเสธความผูกพันความเป็นญาติไม่ได้ จะดูแลเพียงครอบครัวตัวเอง ภรรยาและบุตรไม่ได้ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมทางนิตินัยอยู่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำตอบของนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลานหรือการแก้ไขเศรษฐกิจ บ่งชัดที่บอกว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านพูดมาทำหมดแล้ว 8 ปี แต่วันนี้ยังไม่มีผล คือล้มเหลว จึงจำเป็นที่ฝ่ายตรวจสอบต้องนำมาบอกประชาชนว่าล้มเหลวอย่างไร ทำไม่สำเร็จแล้วยังอาสาต่ออีก

ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงในสภาว่าข้อมูลฝ่ายค้านเป็นข้อมูลเก่าและใช้โอกาสหาเสียงนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือสิ่งที่ปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องถามว่าจะจัดการอย่างไร ไม่ได้เป็นเรื่องเก่าหรือใหม่ ส่วนที่บอกว่าเป็นการหาเสียงในสภานั้น การนำข้อมูลมาเปิดเผยในเรื่องนี้ย่อมส่งผลต่อการตัดสินของประชาชน เราไม่ต้องหาเสียง แต่สิ่งที่บอกเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ เพียงแค่นำมาเปิดเผย

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นการอภิปรายที่เดือดมาก และมีข้อมูลหลายอย่าง ประชาชนหลายคนและพรรคการเมืองต่างๆ ได้เห็นความจริงมากขึ้น พวกเขาเข้ามาชื่นชมในเรื่องของการอภิปราย ซึ่งขอสดุดีพลเมืองดีอย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่พยายามปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน และการเปิดโปงครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น จะนำข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด

"นายกฯ ชี้แจงเหมือนไม่ชี้แจง แม้ท่านจะชี้แจงไม่ละเอียดและไม่ตรงประเด็น อย่างเรื่องของ "ตู้ห่าว" ที่มีการพาดพิงนักการเมืองบางพรรค ท่านต้องจัดการ เพราะจะทำให้สังคมเห็นว่าท่านผู้มีอำนาจที่สุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถจัดการได้ แต่คนใกล้ชิดของนายกฯ ไม่ว่าจะหลานชาย หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อดีตพี่เลิฟ ต้องตรวจสอบว่ามีการเกี่ยวพันหรือไม่ ขอให้มีการตรวจสอบก่อน อย่าทำตัวเหนือปัญหา ถ้าทำตัวแบบนี้ประชาชนจะไม่เชื่อถือ" นายรังสิมันต์ระบุ.