จีนหนุนไทยฟัน‘ทุนสีเทา’ นายพลจ.ให้ปากคำ8มีค.

"สถานทูตจีน" เคลียร์ปมทุนจีนสีเทา หนุนไทยดำเนินคดีเด็ดขาด  วอนอย่าเหมารวม "เสี่ยหนู" สวน "ชูวิทย์"  โชว์ภาพวิธีแสดงความรักคนภูมิใจไทย   นครบาลเดือด! "เฮียชู" ปรี่เข้าใส่ "สันธนะ"  โยนนวมท้าชก เจ้าหน้าที่แยกกันวุ่น จเรตำรวจเรียก "นายพล จ." ให้ปากคำ 8 มี.ค.นี้ พร้อมยืดเวลาสืบสวนอีก 30 วัน  

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เพจเฟซบุ๊ก  Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีสื่อไทยตั้งคำถามต่อโฆษกสถานทูตจีนเกี่ยวกับเรื่องชาวจีนมีส่วนเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทาในไทย ฝ่ายจีนมีความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเรียกร้องให้ชาวจีนและวิสาหกิจจีนที่อยู่นอกประเทศเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและขนบธรรมเนียมประเพณีในประเทศ หรือเขตอาณาที่อาศัยอยู่มาโดยตลอด และดำเนินธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนตอบแทนสังคมในท้องถิ่น ซึ่งชาวจีนก็ได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ชาวจีนและวิสาหกิจจีนที่อยู่ในประเทศไทยได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่การพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ทั้งยังมีส่วนร่วมในงานการกุศล ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ประจักษ์ชัดอยู่ทุกเมื่อ

"ข้าพเจ้าได้ติดตามข่าวที่เกี่ยวข้องจากสื่อไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายจีนจะสนับสนุนทางการไทยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับการกระทำมิชอบของชาวจีนบางรายในประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างจีน-ไทยได้มีความร่วมมืออันใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ การพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือ การกระทำมิชอบนั้นเป็นเพียงการกระทำของคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่การกระทำของชาวจีนและวิสาหกิจจีนทั้งหมดในประเทศไทย การนำประเด็นเหล่านี้มาคัดค้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าถือเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ มีกลุ่มอิทธิพลที่สามพยายามใช้ปัญหานี้เพื่อใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน และทำลายความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน-ไทย ซึ่งฝ่ายจีนจะคัดค้านอย่างเด็ดขาด และจะร่วมกับประชาชนชาวไทยทั้งหลายเพื่อรักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ" สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “Anutin Charnvirakul” เป็นภาพของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังยกเท้าในลักษณะเตะหยอกล้อกับนายอนุทิน ขณะที่อีกภาพ นายอนุทินกำลังใช้เท้าเตะหยอกล้อนายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย พร้อมระบุแคปชั่นว่า “วิธีการแสดงออกถึงความรักกันของคนในพรรคภูมิใจไทย

โดยก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์   อดีตนักการเมือง ได้ออกมาเปิดเผยภาพที่นายเนวินใช้เท้าในลักษณะเตะหรือถีบไปที่บั้นท้ายของนายอนุทิน โดยระบุว่าเป็นการสั่งสอน

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เพื่อเร่งรัดคดีที่ร้องทุกข์กล่าวโทษนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  พร้อมพวกรวม 9 คดี โดยขณะที่นายสันธนะลงจากรถบริเวณหน้า บช.น. นายชูวิทย์ที่มาดักรออยู่หน้าประตูทางเข้าได้ปรี่เข้าหานายสันธนะทันที การ์ดของอดีตตำรวจสันติบาลได้เข้าล็อกคอนายชูวิทย์ไว้จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ตำรวจควบคุมฝูงชนที่มาคอยรักษาการณ์อยู่กว่า 30 นายต้องเข้าห้ามทั้งสองออกจากกัน

อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ไม่ยอมลดราวาศอก พยายามจะเอาเรื่องกับนายสันธนะ โดยนายชูวิทย์ได้ถอดเสื้อเชิ้ตออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามพร้อมกับใส่นวม และตะโกนให้นายสันธนะมาต่อยกันตามประสาลูกผู้ชาย และโยนนวมชกมวยให้นายสันธนะให้รับคำท้ามาชกกับตนเอง     นายสันธนะยืนกัดฟันแต่ไม่ได้ตอบโต้ พร้อมกับยื่นหนังสือร้องเรียนให้ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 จากนั้นให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระหว่างนั้นนายชูวิทย์ได้ตะโกนท้าทายอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ถูกต่อว่าอย่างหนักท่ามกลางสื่อมวลชนและตำรวจ นายสันธนะเริ่มหมดความอดทนและตะโกนด่านายชูวิทย์ว่า จะไม่ยอมให้นายชูวิทย์ต่อว่าอย่างเสียศักดิ์ศรี และจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ภายหลังเจ้าหน้าที่พยายามเคลียร์ทั้งสองฝ่ายและนายสันธนะเดินทางกลับ

นายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์ว่า จากนี้จะตามนายสันธนะไปทุกที่ ถ้านายสันธนะคิดจะไปร้องเรียนเรื่องอะไร พร้อมเปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ จะแถลงข่าวเปิดโปงความชั่วร้ายของพรรคการเมืองและสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่งอีกด้วย ขอให้ติดตาม

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สันติ์นที ประยูรรัตน์ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 4 สำนักงานจเรตำรวจ ในฐานะโฆษกจเรตำรวจ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนายพลตำรวจชื่อย่อ จ. ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญผู้ร้อง ทั้งทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด,  นายสันธนะ ประยูรรัตน์, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  เข้าให้ข้อมูลในประเด็นที่จำเป็น และจะพิจารณาว่าจำเป็นต้องเชิญ “นายพล จ.” เข้าให้ข้อมูลหรือไม่ แต่ยอมรับว่าจเรตำรวจทราบว่า “นายพล จ.” คือใครอย่างที่สังคมเข้าใจ และมีข้อมูลของ “นายพล จ.” อยู่แล้ว แต่ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ร้อง โดยได้ขอขยายระยะเวลาสืบสวนไปอีก 30 วัน จากเดิมที่ ผบ.ตร. กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน

ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะได้มาติดป้ายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ได้ส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ทางจเรตำรวจแห่งชาติได้เร่งรัดให้นำมารวมกับคณะกรรมการที่ดำเนินการอยู่แล้วในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทุกเรื่องที่มีการดำเนินการ หลายเรื่องขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญผู้ร้องมาให้ถ้อยคำ เพราะอยากได้ประเด็น เมื่อได้ประเด็นจากผู้ร้องแล้ว จะได้ไปรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบคู่ขนานไปกับผู้ร้องในเรื่องเอกสารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาจจะไม่รวดเร็วทันใจ แต่จะทำให้การดำเนินการมีความรอบคอบรัดกุม ซึ่ง จตช.มีนโยบายสำคัญคือ ทุกสัปดาห์ใน 3-7 วันจะประชุมกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้า หากดำเนินการล่าช้ากว่ากรอบที่กำหนด ทางคณะกรรมการอาจจะถูกพิจารณาทัณฑ์เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ หากใครมีเบาะแสข้าราชการตำรวจทุกระดับชั้นเกี่ยวข้องทั้งทางตรงหรือทางอ้อมกับอบายมุขและการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่ชัดเจนได้ 2 ช่องทาง ดังนี้ ช่องทางแรกผ่านทางมือถือเข้าระบบ JCoMS อีกช่องทางสามารถส่งจดหมายปิดผนึก (ระบุลับ) ส่งตรง พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ตั้ง สำนักงาน จตช.อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กทม. หรือสำนักงาน จตช. ที่ตั้ง สำนักงานจเรตำรวจ ถนนรามอินทราเขตบางเขน กทม. 10220 โดย จตช.จะเปิดจดหมายด้วยตนเองเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

มีรายงานว่า คณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมเชิญนายพล จ. เข้าให้ข้อมูลในวันที่ 8 มี.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง