ปชป.อุ้ม‘ชัยชนะ’ ขอขมาม.ทักษิณ ปัดดูถูกด้อยค่า

บูลลี ม.ทักษิณเผาทั้งพรรคประชาธิปัตย์ “ชัยชนะ” มืออ่อนกราบขออภัย ปัดดูหมิ่นด้อยค่าสถาบันการศึกษา อ้างแค่สร้างสีสันบนเวที “นิพิฏฐ์” สั่งสอนรุ่นน้องอย่าดูถูกคนจน ไม่ได้โคตรรวยเหมือนคน ปชป. ขณะที่อธิการบดีกู้คืนศักดิ์ศรีสถาบัน ซัดประจานวุฒิภาวะ ภูมิปัญญาและพฤติกรรมที่ยังเล่นการเมืองแบบโบราณ เชื่อจะถูกลงโทษทางสังคมในที่สุด ด้านผู้ใหญ่ ปชป.วอนสังคมไทยให้โอกาส จ่อขอขมา 9 มี.ค.นี้

เมื่อวันจันทร์ จากกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ปราศรัยเปิดตัวผู้สมัครของพรรคในจังหวัดพัทลุง เมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการแชร์คลิปการปราศรัยบางช่วงบางตอนของนายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปราศรัยยกยอคุณสมบัติผู้สมัครของพรรคทั้ง 3 คน ใน 3 เขตเลือกตั้งจังหวัดพัทลุง ล้วนแต่จบการศึกษาจากต่างประเทศ ในขณะที่พรรคอื่นจบ ม.ทักษิณ ทำให้คลิปข้อความดังกล่าวถูกส่งต่ออย่างกว้างขวาง  สร้างความไม่สบายใจ รวมทั้งอาจถูกตีความไปในทางด้อยค่า ม.ทักษิณหรือไม่ และมีการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในวุฒิภาวะการปราศรัยทางการเมือง 

โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.หลายสมัยของจังหวัดพัทลุง โพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่า "อย่าดูถูกคนจน  ผมอยากให้น้องแทน ส.ส.ชัยชนะ เดชเดโช และพรรคประชาธิปัตย์อย่าดูถูกคนเรียนจบในประเทศ คนเรียนจบในประเทศเขาอาจยากจน พ่อแม่ไม่ร่ำรวยเหมือนคนในประชาธิปัตย์ แต่เขาก็ภูมิใจที่ได้เรียนจบ ไม่รวยเหมือนคนในประชาธิปัตย์ที่โคตรรวย แต่ไม่รู้ว่ามีอาชีพอะไร"

ขณะที่นายชัยชนะได้โพสต์ข้อความในเพจ ส.ส.แทน  พร้อมภาพตัวเองกำลังยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ระบุข้อความว่า “ผมกราบขอโทษคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันมหาวิทยาลัยทักษิณ ทุกคนด้วยครับ  สืบเนื่องจากเวทีปราศรัย และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์  ณ จังหวัดพัทลุง"

 “ผมต้องกราบขออภัยหากการปราศรัย ซึ่งในบางช่วงบางตอนอาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ ซึ่งในข้อเท็จจริงผมไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นหรือด้อยค่าสถาบันการศึกษาใดทั้งสิ้น เป็นเพียงการสร้างสีสันให้เกิดบนเวทีเท่านั้น และขอน้อมรับคำแนะนำของทุกท่านเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงต่อไป”

วันเดียวกัน รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ระบุว่า ด้วยชื่อเสียงและเกียรติภูมิอันยาวนานกว่า 50 ปีของมหาวิทยาลัย ที่ได้ผลิตบัณฑิตไปเป็นภูมิปัญญาของสังคม พลังสังคม ได้เป็นที่ยืนยันและประจักษ์ชัดที่ไม่ต้องพิสูจน์ใดๆ คำพูดราคาถูกไม่อาจทำให้คุณค่าแห่งมหาวิทยาลัยด้อยค่าลงไปได้ การเมืองยุคเปลี่ยนผ่านต้องอาศัยการทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ และการแสวงหาความร่วมมือของทุกภาคี เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมไปตามโครงสร้างและหน้าที่ที่กำหนด

 “การปราศรัยแบบมุ่งทำลายคู่แข่ง ดูถูกดูแคลนจึงสะท้อนถึงวัยวุฒิ คุณวุฒิ วุฒิภาวะและสติปัญญาของผู้พูด  ทั้งยังสะท้อนความคิด และพฤติกรรมที่ยังเล่นการเมืองแบบเดิมๆ ซึ่งในท้ายที่สุดจะกัดกร่อนตนเองและจะถูกลงโทษทางสังคมในที่สุด” อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังสถานการณ์บานปลายอย่างต่อเนื่อง ว่าที่ผู้สมัครและตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์จะเดินทางมาขอโทษและขอขมาในสิ่งที่เกิดขึ้นต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ในวันที่ 9 มีนาคม ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การปราศรัยของนายชัยชนะนั้นถูกทำเป็นคลิปแล้วส่งต่อกันไปอย่างรวดเร็วหลายกลุ่ม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยทักษิณอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันที่ 6 มี.ค. นายนิพิฏฐ์ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า "พรุ่งนี้ทราบว่า ผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ พัทลุง ทั้ง 3 คนจะไปขอขมาอธิการบดี ม.ทักษิณ ผมบอก ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร อดีตผู้ช่วยอธิการบดี ม.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐในเขต 2 พัทลุง ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงว่า อย่าไปร่วมในพิธีขอขมาเขาเลย จะกลายเป็นการเมืองเปล่าๆ ใจเราอย่าโกรธแค้น ให้อภัยเขาก็พอแล้ว เจอกันก็ทักทายกัน เราเป็นผู้ใหญ่ ถ้า ดร.พลกฤษณ์ไปด้วย จะมีปัญหาเปล่าๆ  เรื่องนี้ผมขอก็แล้วกัน เรานักเลงพอ จบก็จบ" 

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวลือว่า กรรมการบริหารพรรคไม่พอใจและกดดันนายชัยชนะไม่ให้ลงสมัครว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนตัวคิดว่าเจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาที่จะด้อยค่าสถาบันการศึกษาในประเทศ เพียงแต่ยกตัวอย่างให้เห็นถึงความพร้อมของผู้สมัคร ที่ต้องการนำความรู้ต่างๆ มาพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญรุ่งเรืองเท่านั้น

 “โดย ส.ส.ชัยชนะถือเป็นกำลังสำคัญในการสู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพราะดูแลปัญหาทุกข์สุขตลอดการเป็นผู้แทนราษฎร จากเหตุการณ์นี้เชื่อว่า ส.ส.ชัยชนะจะนำไปเป็นบทเรียน แก้ไขให้มีความรอบคอบมากขึ้น และทราบว่าขณะนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง” นายนิพนธ์ระบุ

ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ปชป. และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า เข้าใจดีถึงปฏิกิริยาไม่เห็นด้วยและการตำหนิติเตียนต่อคำปราศรัยดังกล่าว ซึ่งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างกันและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนราคาแพงทั้งของนายชัยชนะและพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต้องขอโทษและขออภัยมา ณ โอกาสนี้

 “ความผิดพลาดในการปราศรัยบนเวทีการเมืองมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วรู้สำนึกหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไร สำหรับ ส.ส.ชัยชนะรู้ถึงความผิดพลาด โดยสำนึกผิดแถลงขอโทษต่อสังคมและขอขมาต่อมหาวิทยาลัยทักษิณทันที ซึ่งแสดงถึงความรู้ผิดชอบชั่วดี ผิดพลาดแล้วแก้ไข ส.ส.ชัยชนะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่ยังมีอนาคตอีกยาวไกลในการรับใช้ประเทศชาติ วันนี้รู้ว่าผิดและสำนึกผิด นับเป็นตัวอย่างที่ดี จึงขอให้สังคมไทยให้อภัย ให้โอกาสกับเขาสำหรับความผิดพลาดครั้งนี้" นายอลงกรณ์ระบุ

นายอลงกรณ์ระบุด้วยว่า โดยพรรคประชาธิปัตย์จะปรับปรุงตัวเองและเปลี่ยนแปลงการปราศรัยทางการเมือง  โดยมุ่งเน้นการชี้แจงแถลงวิสัยทัศน์ นโยบายและผลงาน  เพื่อเป็นตัวอย่างของการเมืองแบบสร้างสรรค์ต่อไป การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมืองในประเทศของเราไม่ง่ายนัก แต่พรรคประชาธิปัตย์จะพยายามปฏิรูปตัวเองให้ดีที่สุด

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เป็นเรื่องของความผิดพลาด ซึ่งเจ้าตัวได้ขอโทษแล้ว แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนมากเข้าใจสาระเนื้อหาที่ประชาธิปัตย์เดินหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ว่าจะนโยบาย การนำเสนอสิ่งดีๆ ดังนั้นเชื่อว่าไม่น่าส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ทั่วประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง