ปลุกไร้พรรคพี่น้อง! พท.ปูดซื้อเสียง5พันล./รทสช.ชี้บิ๊กตู่ไม่ต้องปรับลุกส์

รทสช.จ่อทยอยเปิดนโยบายต่อเนื่อง "พีระพันธุ์-เอกนัฏ"  ประกบเข้ม กทม. มั่นใจกลยุทธ์ปลุกกระแส "บิ๊กตู่" ยันไม่ต้องปรับลุกส์ ให้เป็นตัวของตัวเอง แย้ม "นิโรธ-ศรัณย์วุฒิ" ย้ายซบ โวทุกนโยบายทำได้จริง สานต่อสิ่งที่ "ประยุทธ์" ทำมา 8 ปี "อนุทิน" เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 3 จว.ชายแดนใต้ ไม่หวั่นถูกเจ้าถิ่นโจมตีกัญชาเสรี "พท." ปลุกอย่าเลือกพรรคพี่-พรรคน้อง ลุย กทม.-พิษณุโลก ย้ำเลือกพรรคเดียวแลนด์สไลด์ไปเลย "ชลน่าน" หยาม รทสช.ได้ไม่ถึง 25 เสียง ปูดทุ่มซื้อเสียง 5 พันล้าน ย้ำ พท.ต้องได้ 310 เสียง ไม่งั้น “บิ๊กตู่” รักษาการยาว  "เศรษฐา" คึกปราศรัยมันขึ้นเพราะอัดอั้นตันใจ 

เมื่อวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางร่วมงานเทศกาลสาดสี “โฮลี เฟสติวัล” ครั้งที่ 1 (Holi Festival Bangkok) เพื่อเป็นการเผยแพร่ส่งเสริมวัฒนธรรม และความหลากหลายของวิถีชีวิตชาวอินเดีย และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีนายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานที่ปรึกษากลุ่มบริษัท สยามพาร์คซิตี้, รศ.ดร.โสภนา ศรีจำปา ประธานศูนย์ภารตะศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการสมาคมวิศวะฮินดูปาริชาดแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยสมาชิก รทสช. ร่วมงานด้วย

นายพีระพันธุ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานนี้ ซึ่งประเทศไทยนับว่าโชคดีที่มีผู้คนอยู่รวมกันอย่างเป็นสุขทุกศาสนา ทุกเชื้อชาติ  และทุกศาสนา ประเทศมีวัฒนธรรมที่ดี  ประเทศไทยเองมีคนทุกเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นพันปีตั้งแต่ก่อนอยุธยา ดังนั้นไม่ว่าเชื้อชาติอะไรก็คือคนไทย และสิ่งนี้คือความสวยงามของประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นการเมืองว่าหลังเปิดนโยบาย 5 ข้อแล้ว จะมีการเพิ่มนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า จะทยอยเปิดเพิ่มเติมขึ้นหลังจากนี้เรื่อยๆ โดยตนในฐานะหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้ชี้แจงนโยบายดังกล่าวด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาในการดำเนินการเรื่องนโยบายต่างๆ ของพรรค ผู้บริหารพรรคทุกคนได้ร่วมกันทำงานมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว  ในส่วนของพรรค รทสช. จะมุ่งมั่นทำงาน  ไม่ต้องการที่จะไปทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่มุ่งการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและสร้างความปรองดอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนและบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ในการหาเสียงหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ปรับเปลี่ยนอะไร อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นตัวของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และแผนการหาเสียงก็ยังคงเป็นไปเหมือนเดิม แต่เนื่องจากแพทย์ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์มีเวลาพักผ่อนสัปดาห์ละ 1 วัน วันนี้ตนจึงเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์มืออักเสบและเชื่อว่าจะหายในเร็วๆ นี้

เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวว่านายนิโรธ สุนทรเลขา และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ  จะย้ายพรรคมาเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า สำหรับนายนิโรธ จะมีความชัดเจนมากขึ้น ในส่วนของนายศรัณย์วุฒิ มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง แต่ได้มีการพูดคุยกันจริง แต่ยังต้องรอความชัดเจนในรายละเอียดอีกครั้ง

เวลา 14.00 น. ที่บ้านเอื้ออาทรหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. และนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ได้ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงช่วย น.ส.ฐิติภัสร์  โชติเดชาชัยนันต์ อดีต ส.ส.กทม. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง โดยมีแกนนำและผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรหัวหมากร่วมรับฟังนโยบายของพรรคจำนวนมาก

นายเอกนัฏกล่าวว่า รทสช.ได้ออกนโยบายมาหลายข้อ เพื่อสานต่อนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ 5 นโยบายเด่นในการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน นโยบายของ รทสช.เป็นนโยบายต่อเนื่อง ทำต่อจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มา 8 ปี จึงรู้ว่าจะมีงบประมาณมาดำเนินการหรือไม่ ดังนั้นทุกนโยบายพิจารณาอย่างดีแล้วว่าทำได้จริงและมีงบประมาณ 

รทสช.มั่นใจกลยุทธ์หาเสียง

"ช่วงใกล้เลือกตั้งจะมีหลายพรรคการเมืองนำเสนอนโยบายต่างๆ นานา ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ เป็นนโยบายที่สวยหรูแต่ไม่มีงบประมาณ ยิ่งเลือกตั้งเสร็จไม่ได้เป็นรัฐบาลนโยบายเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นต้องเลือก ส.ส.เขตและเลือกพรรค รทสช. เพื่อให้ลุงตู่ได้เข้าไปทำงานต่อ สานต่อนโยบายที่ทำมาแล้ว ทำอยู่ และต้องทำต่อไป ถ้าลุงตู่ไม่ได้เป็นนายกฯ การทำงานจะขาดตอน การพัฒนาก็ไม่ต่อเนื่อง" นายเอกนัฏกล่าว

รายงานข่าวจากพรรค รทสช.แจ้งว่า ภายหลังวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรคเสร็จสิ้นแล้ว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. จะลงพื้นที่ตรวจการบ้านของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในทุกเขตอย่างเข้มข้น เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนทำพื้นที่ให้เข้มแข็งมากที่สุด พร้อมเน้นย้ำให้ว่าที่ผู้สมัครลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน

 “นายพีระพันธุ์และนายเอกนัฏเคยเป็น ส.ส.กทม.มาก่อน จึงรู้ดีว่าคน กทม.ต้องการอะไร และไม่ชอบอะไร ประสบการณ์ตรงนี้จะสามารถช่วยให้ว่าที่ผู้สมัครของรทสช.มีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากชาวกรุงเทพฯ ให้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ได้มากขึ้นได้ โดยล่าสุดนายเอกนัฏได้ประเดิมลงพื้นที่เขตบางกะปิร่วมกับ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีต ส.ส.กทม. เขตบางกะปิไปแล้ว ซึ่งนโยบายของ รทสช. และตัวของ น.ส.ฐิติภัสร์ มีเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่เขตบางกะปิ” แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ขณะนี้กระแสในพื้นที่ กทม.ของ รทสช.เริ่มดีขึ้นมาภายหลังที่มีการเปิดตัว พร้อมติดป้ายว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยแกนนำ รทสช.มั่นใจว่าความนิยมในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ยังมีเยอะอยู่ และสามารถทำให้กลายเป็นคะแนนของพรรคได้ในที่สุด ที่สำคัญ รทสช.ได้วางกลยุทธ์การหาเสียงในพื้นที่กทม.ช่วงการเลือกตั้งเอาไว้แล้ว ซึ่งหลังประกาศเขตเลือกตั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.ของ รทสช. พร้อมลงพื้นที่หาเสียงเต็มรูปแบบ

 เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ (สวน ร.5) ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ จัดเวทีปราศรัยพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ท่ามกลางประชาชนกว่า 15,000 คน มาร่วมรับฟังการปราศรัย โดย นายอนุทินปราศรัยตอนหนึ่งว่า นโยบายหลัก 4 อย่างของพรรคคือ การดูแลเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนต้องอิ่ม หนี้สินต้องได้รับการจัดการดูแล พักหนี้ 3 ปี ปลอดต้นปลอดดอกเบี้ย การดูแลด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการศึกษา พรรคจะทำให้ด้ามขวานไทยเป็นด้ามขวานทองคำทั้งดุ้น

 “ขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง อสม.ที่จะได้ 2,000 บาท แน่นอนในเดือน ต.ค.ที่ยังไม่ได้เลือกก็ทำให้แล้ว นี่คือคุณงามความดีของพี่น้อง อสม. ผมอยู่มา 4 ปี ไม่มีใครรัก ไม่มีใครจริงใจ และรักพี่น้องอสม. เท่ากับ อนท. (อนุทิน) คนอื่นไม่ต้องให้ใครมาเคลมใดๆ ทั้งสิ้น” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีหลายพรรคเริ่มตั้งเป้าที่จะคว้าจำนวน ส.ส. อย่างพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าคว้า ส.ส. 310 ที่นั่งว่า พรรคภูมิใจไทยรู้อยู่แล้วว่าจะได้เท่าไหร่ ที่เพื่อไทยประกาศคว้า 310 เสียง ก็ยินดีด้วย ทุกคนต้องมีความหวัง แต่ ภท.เราทำวิสัยทัศน์ให้เป็นความจริง เราทำเรื่องจริง อยู่กับความจริง ไม่วิจารณ์ใคร ไม่เคยเสียดสีใคร

ส่วนการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะทางพรรคเจ้าถิ่นอย่างพรรคประชาชาติ ได้หยิบยกนโยบายกัญชาเสรีมาโจมตี นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเจ้าถิ่น มีแต่ประชาชน เจ้าถิ่นคือประชาชน ประชาชนแยกแยะได้ว่า อย่างไหนคือการโจมตี อย่างไหนคือประโยชน์ พรรคไหนทำงาน พรรคไหนไม่ทำงาน กัญชาทางการแพทย์และเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประเทศหลายหมื่นล้านบาทแล้ว ถ้ายังมาโจมตีอยู่ก็ถือว่าล้าหลัง ไม่ควรเสนอตัวเองมาเป็นผู้แทนของประชาชน พรรคไหนไม่เชื่อก็ไปหาเสียงห้ามไม่ให้มีกัญชา แต่พรรคภูมิใจไทยก็จะหาเสียงบอกว่ากัญชาดีอย่างไร  ภาคใต้พืชกระท่อมก็ถูกกฎหมาย แล้วกัญชาเสรีทางการแพทย์ ถูกกฎหมายมันจะต่างกันอย่างไรถ้าเราใช้ถูกวิธี

ที่บริเวณท่าเรือหับโห้หิ้น หรือโรงสีแดง ย่านเมืองเก่าสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง จ.สงขลา จัดกิจกรรมร่วมกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 ด้วยการว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาเป็นประธานเปิดกิจกรรม ท่ามกลางผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 500 คน และยังมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และ น.ส.วิเวียน จุลมนต์ ที่ปรึกษาทีมนโยบายของพรรค ได้ร่วมกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 ด้วยการว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทย โดยนายกรณ์สามารถว่ายน้ำทำลายสถิติของตัวเอง จากเดิมที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ปีนี้สามารถว่ายเข้าถึงเส้นชัยได้โดยใช้เวลาเพียง 54 นาที

นอกจากนี้ ยังมีนายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครอีก 3 คน ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1, ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และทนายอาร์ม-นายพงศธร สุวรรณรักษา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 เข้าร่วมกิจกรรมด้วย

ปลุกอย่าเลือกพรรคพี่-น้อง

ทางด้านพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสะพานสูง, นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางนา-พระโขนง และนายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางกะปิ ลงพื้นที่เปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตบางกะปิ บริเวณถนนโพธิ์แก้ว หน้าวัดบึงทองหลาง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม

นายสมชายกล่าวว่า เพื่อไทยเราประเมินว่าศักยภาพของผลงานที่ผ่านมา รวมถึงผู้สมัครที่เราคัดเลือก เมื่อดูจากโพลแล้ว 310 ที่นั่งมีความเป็นไปได้ และทาง พท.เองก็อยากให้กรุงเทพแลนด์สไลด์ด้วย กรณีเรื่อง ส.ว. ซึ่งท่านเองก็เป็นประชาชน ดังนั้นจึงคิดว่าคงจะมีวิจารณญาณในการโหวตครั้งหน้า

นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า หากเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ 310 ที่นั่งขึ้นไป เชื่อมั่นว่า ส.ว.จะไม่กล้าที่จะดูถูกประชาชนเพราะประชาชนเป็นคนเลือกทั้งหมดเข้ามา ให้มือของท่านกาเพื่อไทย อย่าไปสงสัย แบ่งใจ แบ่งปันให้พรรคอื่น ขอให้เชื่อมั่นในเพื่อไทย เพราะประชาชนเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครได้

ขณะเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) พรรค พท. นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เข้า​​สักการะหลวงพ่อพระพุทธชินราช เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนไปขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่อาคารวังเป็ดร่วมใจ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งมี น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งมีประชาชนรอรับฟังคำปราศรัยจนเต็มพื้นที่

โดย นพ.ชลน่านปราศรัยว่า ถ้าเราไม่คิดใหญ่ โอกาสของประชาชนจะไร้ทิศทาง ถ้าเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส. 310 เสียง จะไม่มีการเลือกนายกฯ ในรัฐสภา เพราะส.ว. 250 เสียงบวก ส.ส.ของเขา ขณะที่ของเราได้ 270 เสียง จะไม่มีฝ่ายไหนถึง 376 เสียง จะเป็นรัฐบาลรักษาการไปอีก 2 ปี จนถึงปีที่ ส.ว.หมดวาระคือปี 2567 อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ถึงปี 67 หรือไม่ นี้คือสิ่งที่เขาวางแผนไว้

"เพราะพรรคที่ พล.อ.ประยุทธ์สังกัด ไล่ดู ส.ส.เขตคิดว่าไม่ถึง 25 เสียงที่จะส่งพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และมีคนบอกว่าจะมีการเตรียมซื้อเสียง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10 ล้านเสียง ด้วยเสียงละ 500  เป็นเงิน 5,000 ล้าน แต่ผมไม่เชื่อ มั่นใจว่าประชาชนซื้อไม่ได้ แต่ถ้าคิดเช่นนั้นเป็นเรื่องอันตราย แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ได้ต่อ ดังนั้นเพื่อไทยจึงคิดใหญ่ ป้องกันไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่ออีก 2 ปี รักษาการยาว จนกว่า ส.ว.จะหมดวาระ และที่ร้ายกว่านั้น ถ้าเขาอยู่ยาวได้ เขาจะแก้รัฐธรรมนูญให้ ส.ว.ยังมีอำนาจเลือกเขาอยู่ เพื่อให้ ส.ว.อยู่ในรัฐธรรมนูญต่อ และ พล.อ.ประยุทธ์สามารถอยู่ได้มากกว่า 8 ปีโดยไม่มีกำหนด และถ้าเราได้ถึง 310 พรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ" นพ.ชลน่านกล่าว 

ด้าน น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า ตอนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลหวังใช้งบ 480 ล้านเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แต่มีการรัฐประหารเสียก่อน วันนี้การเลือกตั้งมาถึง พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว เราจะนำโมเดลดังกล่าวกลับมาทำให้กับประชาชน  จะแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งด้วยการขยายคลองผันน้ำจากแม่น้ำน่านไปแม่น้ำยม  ทำแก้มลิงดักน้ำหลากให้ประชาชน และจะขยายอ่างเก็บน้ำชุมชนไว้ใช้ในหน้าแล้ง นอกจากนี้ยังจะพัฒนาสนามบินพิษณุโลก ขอให้พี่น้องรวมใจเลือกทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์

ขณะที่นายเศรษฐาปราศรัยว่า ในฐานะน้องใหม่ทางการเมือง ตนมาพร้อมหัวใจที่เต็มเปี่ยม เชื่อมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร ถึงเวลาแล้วที่ต้องพิจารณาว่า 8 ปีที่ผ่านมาเราเจอปัญหาอะไรบ้าง ทั้งรายได้ตกต่ำ ค่าใช้จ่ายสูง

"เรามี ส.ว. 250 คน เป็นขวากหนาม อย่างน้อยเราต้องได้ 310 เสียง ต้องเริ่มต้นที่นี่ วันนี้ 5 เขตพิษณุโลกต้องยกหมด ถ้ายก 5 เขต เชื่อว่าเราทำได้ 8 ปีที่ผ่านมาเพียงพอแล้ว 4 ปีต่อไปอยากได้อะไร คิดให้ดี อย่าปันใจ พรรคพี่พรรคน้องพรรคสาขาเราไม่เคยพูด เพื่อไทยพรรคเดียวแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน" นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้มีคนของพรรครวมไทยสร้างชาติพยายามท้าให้พรรคเพื่อไทยยกเลิกบัตรคนจน เราจะยกเลิกทำไม พี่น้องต้องเก็บไว้ประจานมันที่ทำให้คนจนถึงต้องมาแจกบัตรคนจนแบบนี้ พรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิกบัตรคนจน แต่เราจะยกเลิกให้คนไทยหายจนทั้งประเทศ

'เศรษฐา'คึกอัดอั้นใจมานาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแนะนำผู้ร่วมปราศรัย ปรากฏว่านายประเสริฐ ได้ก้าวพลาดตกเวทีที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร 20 เซนติเมตร ทำให้มีอาการเจ็บข้อเท้าเล็กน้อย แต่นายประเสริฐยังสามารถเดินขึ้นเวทีได้ต่อ ทำให้ นพ.ชลน่านปราศรัยทีเล่นทีจริงว่า นายประเสริฐ กระโดดลงไปรับ ส.ส.ใหม่

ต่อมา เวลา 12.00 น. ที่อาคารวังเป็ดร่วมใจ อ.บางระกำ น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจจะได้ ส.ส.พิษณุโลกยกจังหวัดว่า เรามั่นใจในเรื่องดังกล่าว เรานำนโยบายมาเสนอให้ประชาชน และว่าที่ผู้สมัครเองก็ทำงานอย่างหนัก เราจึงมั่นใจและมีกำลังใจอย่างมาก

ด้าน นพ.ชลน่านให้สัมภาษณ์กรณีประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องนี้มีกระแสมาปิดกั้นยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของ พท.ที่เราประกาศไว้ หากพี่น้องสนับสนุนเราตามที่ประกาศไว้ว่าจะได้ ส.ส. 310 เสียง เราประกาศชัดไม่จับมือกับใคร โดยเฉพาะฟากฝั่งที่มาจากเผด็จการ ทั้งนี้ อยู่ที่ผลการเลือกตั้งของประชาชน

ขณะที่นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการขึ้นเวทีปราศรัยวันที่สองว่า ตื่นเต้น และดีใจ ซาบซึ้งใจที่ประชาชนให้การต้อนรับที่ดี ตนมีหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคคนอื่นๆ เป็นแรงบันดาลใจ ทุกท่านให้กำลังใจและให้การช่วยเหลือเต็มที่

เมื่อถามว่า เวทีที่สองวันนี้เหมือนพูดได้ดุดันขึ้น นายเศรษฐากล่าวว่า คงมาจากความอัดอั้นตันใจ เมื่อถามว่าพอได้ปราศรัยแล้วเริ่มติดใจการขึ้นเวทีแล้วหรือยัง นายเศรษฐากล่าวว่า “มันเป็นหน้าที่ที่พรรคมอบหมายให้ เป็นหน้าที่ที่เราต้องมาขยายนโยบายให้ประชาชนทราบถึงอนาคต ว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยมาเราจะทำอะไรให้เขาได้บ้าง”

ต่อมาเวลา 17.00 น. พรรค พท.จัดปราศรัยใหญ่ที่สวนกลางเมือง จ.พิษณุโลก มีประชาชนร่วมรับฟังจำนวนมาก โดย น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า วันนี้ตนและ พท. พร้อมมาบอกว่าทำไมอยากให้เลือกเพื่อไทย ทำไมต้องเลือกส.ส.เพื่อไทย ทำไมถึงแบ่งใจไม่ได้ เพราะถ้าแบ่งใจพรรคเพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ และจะไม่สามารถผลักดันนโยบายดีๆ สู่มือประชาชนเหมือนที่เคยทำมาได้ เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ไปเลย

ขณะที่นายเศรษฐาปราศรัยว่า ต้องเลือกเพื่อไทย นายกฯ จะเป็นใครก็ตามที แต่รับประกันได้ว่าศักดิ์ศรีจะถูกคืนมาให้ประชาชน อีก 2 เดือนจะมีการเลือกตั้ง ถ้าไม่พอใจกับ 8 ปีที่ผ่านมา ขอให้เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หัวหน้ารทสช. มั่นใจพรรคไม่สะเทือน ไร้คลื่นใต้น้ำ ปม 'กฤษฎา-สุพัฒนพงษ์' ลาออก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ออกจากตำแหน่งรมช.คลัง ว่า คงเป็นกระแสข่าว ตนยังไม่ทราบ ตนเพิ่งประชุมเสร็จเดี๋ยวนี้

'สุพัฒนพงษ์' ไขก๊อกพ้นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มีหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค