“บิ๊กตู่” ยกผู้ใช้แรงงานฟันเฟืองสำคัญพัฒนาประเทศ ขณะที่กลุ่มแรงงานเฮ “สุชาติ” ทอดสะพานรับลูก 7 ข้อเรียกร้อง ด้าน "บิ๊กป้อม" ไม่ตกขบวน ขายฝันลูกข้าวเหนียวต้องรวย-ไม่ต้องเป็นแรงงานอพยพย้ายถิ่น "เพื่อไทย" สับเละ 8 ปีแช่แข็งค่าแรง ตีปี๊บเด็กจบ ป.ตรี 2.5 หมื่น
เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ใช้แรงงานทุกคน เผยแพร่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ผู้ใช้แรงงานทุกคนถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ที่ต้องได้รับการดูแลเพื่อยกระดับคุณชีวิต พร้อมทั้งพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
ในนามของรัฐบาลขอชื่นชมทุกภาคส่วน และขอบคุณผู้ใช้แรงงานทุกคนที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตลอดจนมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของตน เพื่อเป็นแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจบริการมาโดยตลอด จนทำให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ พร้อมทั้งสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงท่ามกลางวิกฤตการณ์ของสังคมโลก” นายกรัฐมนตรีระบุ
ที่ลานคนเมือง เขตพระนคร นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 กล่าวว่า ในการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2566 ครั้งนี้ กลุ่ม 15 สภาองค์การลูกจ้าง สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และกลุ่มแรงงานนอกระบบ ร่วมกันจัดงานเพื่อแสดงจุดยืนของผู้ใช้แรงงาน โดยมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อภาครัฐรวม 7 ข้อ อาทิ ให้รัฐบาลตราพระราชบัญญัติ หรือประกาศเป็นกฎกระทรวงให้มีการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง เพื่อเป็นหลักประกันในการทำงานของลูกจ้าง ให้รัฐบาลปฏิรูป แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม ปรับฐานการรับเงินบำนาญ โดยให้มีอัตราเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติได้ยื่นข้อเรียกร้อง 7 ข้อ ได้แก่ 1.รัฐบาลต้องรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ 2.ให้รัฐบาลตราพระราชบัญญัติ หรือประกาศเป็นกฎกระทรวง ให้มีการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง เพื่อเป็นหลักประกันในการทำงานของลูกจ้าง 3.ให้รัฐบาลปฏิรูป แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม 4.ขอให้รัฐบาล (กระทรวงแรงงาน) จัดสร้างโรงพยาบาลประกันสังคม และจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อผู้ใช้แรงงาน 5.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดให้ได้ข้อสรุป ในแนวทางจัดระบบสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหลังเกษียณอายุ ให้ลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจได้มีระบบสวัสดิการจากรัฐเทียบเคียงกับข้าราชการบำนาญและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 รวมถึงการให้ลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้จากค่าตอบแทนความชอบ ด้วยหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับการลดหย่อนเงินได้ก้อนสุดท้าย หรือลดหย่อนเงินค่าชดเชยที่ลูกจ้างเอกชนได้รับเมื่อถูกเลิกจ้าง
6.เพื่อเพิ่มหลักประกันความมั่นคงให้แก่ลูกจ้าง ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการให้ พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติมีผลบังคับใช้โดยเร็ว และ 7.ให้ รมว.แรงงานแต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2566 และจัดให้มีการประชุมเพื่อติดตามผลทุก 2 เดือน
“เชื่อมั่นว่าข้อเรียกร้องทั้งหมด 7 ข้อ เป็นการนำเสนอปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และความต้องการของพี่น้องแรงงาน จะเร่งดำเนินการและติดตามให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานพึงได้รับตามกฎหมาย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในการทำงาน มีหลักประกันและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป” นายสุชาติระบุ
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พรรคมีนโยบายในการยกระดับแรงงานให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยเรามีเป้าหมายในการยกระดับภาคอีสานให้เป็นแหล่งงาน สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจ เกิดแรงงานใหม่ให้คนในพื้นที่ ลูกหลานคนอีสานจะได้ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานออกไปอยู่ที่อื่นหรือกรุงเทพฯ เพื่อประกอบอาชีพ
“เพราะเราจะผลักดันนโยบายอีสานประชารัฐ สู่การพัฒนา สร้างเมืองอีสานให้มีเศรษฐกิจที่สมบูรณ์ และจะเชื่อมโยงระบบขนส่งคมนาคม ที่ครอบคลุมทั้งการโดยสารและขนส่งสินค้า เชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เพื่อสร้างการค้าการลงทุนทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม จีน ดังนั้นแรงงานอีสานต้องรวย มีชีวิตที่ดี มีความมั่นคง" พล.อ.ประวิตรระบุ
ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์ยกระดับแรงงานไทยด้วยนโยบายพรรค ระบุใจความว่า เนื่องในวันแรงงาน พี่น้องแรงงานคือแรงขับเคลื่อนสำคัญในเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาโดยตลอด แต่ 8 ปีที่ผ่านมากลับเป็นภาคส่วนที่ถูกละเลย ได้รับผลกระทบสูงสุดจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ คุณภาพชีวิตเปราะบางย่ำแย่ลง จาก 8 ปีที่ผ่านมา ค่าแรงถูกแช่แข็ง รายได้ไม่พอต่อค่าใช้จ่าย ภาระหนี้สินฉุดรั้ง ไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ นโยบายของพรรคจะเริ่มจากการสร้างฐานที่แข็งแรง พี่น้องแรงงานต้องได้รับการดูแลในทุกมิติ อาทิ ค่าแรงขั้นต่ำ พรรคเพื่อไทยจะยกระดับรายได้ของพี่น้องแรงงานทั้งระบบ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนผ่าน 2 นโยบายหลัก คือ ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภายในปี 2570.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา
นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ

