ขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า กกต.แจงพิมพ์เกินไว้สำรอง

ประเดิมขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า​ 2.2 ล้านใบ เลขาฯ กกต.เตือนผู้ใช้สิทธิ์เตรียมเอกสารยืนยันตัวตนก่อนลงคะแนนให้เรียบร้อย "สตช." จัดกำลัง 1,400 นาย รถนำขบวน​กว่า 600 คัน​ดูแลความเรียบร้อย​ "ไปรษณีย์​" จัดศูนย์มอนิเตอร์​ติดตามรถขนส่งเรียลไทม์ "แสวง" แจงพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินกว่า​ 4 ล้านใบเป็นสำรองบัตรเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกทุกหน่วยไม่ให้เกิดปัญหา ​อ้างมีกระบวนการตรวจสอบขอให้สบายใจ

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เขตหลักสี่ นายแสวง​ บุญมี​ เลขาธิการคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.) พร้อมด้วย​ พล.ต.อ.รอย​ อิงคไพโรจน์​ รองผู้บัญชาการ​ตำรวจแห่งชาติ​ (รอง ผบ.ตร.)​ นายรุจ​ ธรรมมงคล​ อธิบดี​กรม​การกงสุล​ และนายดนันท์​ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวการจัดภารกิจขนส่งบัตรเลือกตั้ง ส.ส.​ ปี ​2566

โดยนายแสวง​กล่าวว่า​ สำนักงาน กกต.เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก​ให้ประชาชนในการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า​ จึงขอความร่วมมือ สตช.ดูแลความเรียบร้อยในเรื่องการจราจร​ และความปลอดภัย​ ให้คนที่ไปออกเสียงเลือกตั้ง​ ซึ่งผู้ลงทะเบียนออกเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าจะใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.​ โดยจะสามารถใช้สิทธิ์ได้เฉพาะในวันที่​ 7 พ.ค. ไม่สามารถใช้สิทธิ์​ในวันที่​ 14 พ.ค.ได้​ ถ้าหากไม่ได้ไปใช้สิทธิ์จะต้องแจ้งเหตุ​ในช่วง​ 7 วันก่อน​และหลังวันเลือกตั้ง​

ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตมี​ 2,235,830 คน​ โดยเป็นการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง​ 2,216,951 คน​ ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง 18,879 คน​ ซึ่งมีสถานที่​ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต​เลือกตั้ง​จำนวน​ 447 แห่ง​ และในเขตเลือกตั้ง​ 442 แห่ง

นายแสวงยังขอให้ผู้ที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าจัดเตรียมเอกสารแสดงตน เช่น บัตรประชาชน​ หรือบัตรที่หน่วยงานของรัฐออกให้ รวมถึงแอปพลิเคชัน​ ThaiD ให้พร้อม รวมถึงเมื่อใช้สิทธิ์แล้วจะต้องพับบัตรใส่ในซองที่ระบุจังหวัด​ เขตเลือกตั้ง​ และรหัสเขตเลือกตั้งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก่อนจะนำไปหย่อนลงในหีบบัตร​ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำการคัดแยกบัตรลงคะแนนเสียงส่งไปยังสถานที่นับคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ เพื่อนับในวันเลือกตั้ง

ด้าน พล.ต.อ.รอย​กล่าวว่า​ สตช.​มีการประสานงานกับ กกต.และ บ.ไปรษณีย์​ไทย​มาอย่างต่อเนื่อง​ โดย สตช.ได้รับภารกิจในการขนส่งบัตรทั่วประเทศ​ โดยมีการจัดตำรวจทางหลวง​ ตำรวจในพื้นที่​ และตำรวจตระเวน​ชายแดนรวมประมาณ 1,400 นาย​ พร้อมอาวุธ​ รถนำขบวน​กว่า​ 600 คัน​คอยดูแลความสะดวก​ รวมทั้งได้ตั้งศูนย์ประสานงานการปฏิบัติดูแลตลอด​ 24 ชม. เชื่อว่าการขนส่งบัตรจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ด้านนายรุจ​กล่าวว่า​ กรมการกงสุล​ได้รับมอบหมายให้เตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร​ ซึ่งมีคนไทยลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 153,139 คน​ ปัจจุบันสถาน​ทูต​หลายแห่งได้เริ่มจัดเลือกตั้งนอกราชฯ แล้ว​ ขณะเดียวกันก็มีถุงเมลทางการทูตที่ขนส่งบัตรออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งกลับมาที่ไทยแล้ว ประกอบด้วย​ กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก​, กรุงกาฐมาณฑุ​ ประเทศเนปาล, นครลอสแองเจลิส​ ประเทศสหรัฐอเมริกา​, ประเทศคูเวต และเมืองซีอาน​ ประเทศจีน​ มั่นใจว่าการเลือกตั้งนอกราชฯ ทุกแห่งจะส่งบัตรกลับมาถึงไทยภายในวันที่​ 12 พ.ค.

ด้านนายดนันท์​กล่าวว่า​ ไปรษณีย์​ไทยได้ดำเนินการขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชฯ ไปยัง​ 66 ประเทศ​ 94 เมืองปลายทางเรียบร้อยแล้ว​ และจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิท​ธิ์เลือกตั้งไปยังเจ้าบ้าน​ (ส.ส.​1/16)​ จำนวน​ 18.4  ล้านครัวเรือนตั้งแต่วันที่​ 13 เม.ย.​ และตั้งแต่วันที่​ 28 ​เม.ย.ไปรษณีย์​ไทย​ได้รับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนอกราช​ฯ​ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะทำการคัดแยกก่อนส่งไปยัง​ 400 เขตเลือกตั้งของผู้ใช้สิทธิ์​ ส่วนการจัดส่งบัตรเปล่า​จะมีการใช้รถยนต์​ขนส่งประมาณ​ 535 เที่ยว​ ซึ่งก็จะมีการมอนิเตอร์ติดตาม​การขนส่งแบบเรียลไทม์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบัตรเลือกตั้งจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าวนายแสวงและคณะได้ร่วมกันปล่อยรถขนส่งบัตรเลือกตั้ง ที่จะใช้ในการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. โดยเป็นการจัดส่งบัตรเลือกตั้งไปยังพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด 14 ปลายทาง และสังเกตการณ์การคัดแยกบัตรเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ที่ศูนย์ปฏิบัติการคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส. 2566 ที่ลงคะแนนแล้ว บริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ โดยระบุว่า การคัดแยกจะดำเนินการภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 26 ตัว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้องคอยดูแลความเรียบร้อย หากพรรคการเมืองต้องการสังเกตการณ์จะต้องทำหนังสือขออนุญาตจาก กกต.และสามารถสังเกตการณ์ได้ผ่านทางกล้องวงจรปิดเท่านั้น

นายแสวงให้สัมภาษ​ณ์กรณีเกิดข้อสงสัย ในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินกว่าจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งว่า การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินนั้นพิมพ์ในลักษณะแบบนี้ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ซึ่งในปีนี้มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 52 ล้านคน แต่สำนักงาน กกต.จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งมากถึง 57 ล้านใบ นั่นหมายความว่าบัตรเลือกตั้งจะเกินมากว่า 4 ล้านใบ เหตุผลคือเกี่ยวข้องกับด้านเทคนิค จะเป็นการสำรองให้ทุกหน่วยเลือกตั้งทั้ง 95,000 หน่วย

"ยกตัวอย่างเช่น ประเทศซูดาน ซึ่งมีคนไทยได้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวน 94 คน กกต.ได้ส่งบัตรเลือกตั้งไปให้ 100 ใบ เมื่อไม่สามารถจัดให้มีการเลือกตั้งในประเทศนั้นได้ บัตรเลือกตั้งก็ไม่ได้ถูกส่งกลับมาที่ไทย ซึ่งจะต้องใช้บัตรสำรองที่ กกต.จัดเตรียมไว้ให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ต้องเดินทางกลับไทย นั่นคือเรื่องการบริหารจัดการเพื่อที่จะไม่ให้การเลือกตั้งมีปัญหาและอุปสรรค ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่า กกต.มีมาตรการในการดูแลบัตรเลือกตั้ง โดยมีกระบวนการที่สามารถตรวจสอบได้ว่าบัตรเลือกตั้งถูกใช้ไปเท่าไหร่ จึงขอให้ทุกคนสบายใจและไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้" นายแสวงกล่าว.