‘หนู’ขยี้‘เสี่ยนิด’ลั่นคนไม่ใช่ควาย

เดือด! "อนุทิน" ปราศรัยจวกยับ "เศรษฐา" โกหกใส่ร้ายเลือก ภท.จะได้ "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ ยันถ้าได้เสียงมากพอตำแหน่งนายกฯ จะไม่แบ่งใคร ลั่นคนกินข้าวไม่ใช่ควาย ย้อนดูอดีต พท. ปี 62 ได้เสียง ส.ส.มากสุด แต่ไปเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคอื่น ถามกลับคนพูดมีอำนาจได้รับฉันทามติจากพรรคไหม แจงลูกพรรคฟ้องหมิ่นฯ  เพราะผู้สมัครเสียหายด้วย ชม "อุ๊งอิ๊ง" แข็งแรงคลอดไม่กี่วันลุกขึ้นมากอบกู้พรรค ขณะที่ "เศรษฐา" ประกาศเป็นศัตรูกับกัญชา ยอมติดคุกเพื่อปกป้องอนาคตลูกหลาน "นรวิชญ์" โดดป้องวิจารณ์โดยสุจริต เตือน ภท.ฟ้องเท็จอาจถูกยุบพรรค

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ณ หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย  (ภท.) และคณะ ลงพื้นที่ปราศรัยช่วยนายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้สมัครเขต 2 มีประชาชนมารับฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน

  โดยนายอนุทินได้กล่าวแนะนำผลงานที่ผ่านมาของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข   กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากนั้นได้กล่าวถึงประเด็นที่ถูกพาดพิงทางการเมืองว่า   "มีบางพรรคมาสร้างความเข้าใจผิดกับพี่น้อง ว่าเลือกภูมิใจไทย จะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ไปบอกว่าอย่างไรเสียเราก็เลือก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่จริง เขากำลังโกหก ผมประกาศแล้วว่าพร้อมเป็นนายกฯ เข้ามาดูแลพี่น้อง ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เสียงมากพอ ดูแลเหมาะสม คนชื่ออนุทินนี่เองจะเป็นนายกฯ ไม่แบ่งให้ใคร เราสู้กันมาขนาดนี้ เพื่อขอโอกาสเข้าไปทำงาน ถ้าประชาชนไว้ใจ จนเราได้เสียงมามากแล้ว มีความเหมาะสมในการเป็นนายกฯ แล้ว เราไม่ให้ใคร มันไม่มีคนโง่ขนาดนั้น นี่คน กินข้าว ไม่ใช่ควาย ส่วนคนที่มาใส่ร้ายเรา เขาพูดไม่จริง โกหก   วันนี้หาเสียงเขาให้พูดความจริง"

"เมื่อปี 62 เราถูกกล่าวหาว่าก็ไปยกมือให้คนอื่นเป็นนายกฯ ซึ่งขณะนั้นเรามีแค่ 50 เสียง ไม่อาจหาญ เราจึงต้องเคารพกติกา เลือกพรรคที่ได้เสียงมาก  ซึ่งพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ 120 เสียง มากกว่าเรา ถ้าวันนั้นพี่น้องเลือกเราเยอะพอ ผมก็จะเป็นนายกฯ และมีพรรคที่มาด่าผม ยกตัวอย่างพรรคเพื่อไทย ยกให้ใคร ก็ยกให้นายธนาธร แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกล ทั้งที่มีแคนดิเดตตั้ง 3 คน แต่ภูมิใจไทยถูกกล่าวหา ใครกันแน่โกหก"

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีของนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย บอกว่า เมื่อปี 62 บอกภูมิใจไทยได้มา 50 ที่ รีบโทร.หาทหารขอเป็นรัฐบาลว่า   "นั่นก็โกหก ตอนนั้นมีสายเข้ามาจำนวนมาก ผมไม่ต้องโทร.หาใครเลย มีแต่คนที่โทร.เข้ามาจนต้องปิดเครื่อง เปลี่ยนเบอร์ เพราะสายเข้ามากมายมหาศาล ไม่ต้องโทร.หาใครก่อนเลย พวกรู้ไม่จริง อย่าพูดพล่อยๆ ยืนยันไม่ต้องไปต่อรอง พอรู้ว่าได้ 50 ก็ได้คุม 3 กระทรวงอย่างที่ตั้งใจไว้ โดยนายกฯ ก็ขอให้สุจริต อย่าขัดขาพรรคร่วมด้วยกันเอง ซึ่งก็ทำมาตลอดจนถึงวันนี้"

นายอนุทินกล่าวชี้แจงกรณีที่บางพรรคการเมืองกล่าวหาว่าพรรค ภท.สนับสนุนกัญชาเสรีไร้ขอบเขตว่า เรื่องกัญชา เป้าหมายของเราให้เป็นไปเพื่อการแพทย์ เพื่อการรักษาโรค ตอนค่อยๆ คลายล็อกออกมา ประชาชนได้ประโยชน์มากมาย นครพนมนี่เมืองหลวงกัญชา เกษตรกรได้ปลูก ได้ขาย เป็นพืชเศรษฐกิจ ส่งทำยา ทำกับวิสาหกิจชุมชน รักษาโรคมากมาย น้ำมันกัญชา อยู่ในบัญชียาหลักแล้ว หมอสั่งจ่ายได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเลย ทุกขั้นตอนเรามีการควบคุม มีประกาศจากหน่วยงานราชการเข้ามาดู แล้วพรรคภท.ไปทำให้มันเข้มขึ้นด้วยการจะออกเป็นพระราชบัญญัติ ที่เกือบทั้งสภาก็เห็นด้วยกับร่างฉบับนี้ ผ่านหลักการไปแล้ว คนที่วิพากษ์วิจารณ์พรรค ภท.ก็รับหลักการ แล้วถามว่าใครดึงเช็ง ดึงเช็งไว้ ไม่ตีตกร่างกฎหมาย แต่พยายามสร้างเงื่อนไขมาโจมตีพรรคภูมิใจไทย กัญชาถ้าใช้ถูกต้องมีประโยชน์มีกฎหมายควบคุมแน่นอน

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย โจมตีว่าเลือกภูมิใจไทย ได้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ว่า เขาพูดแบบนี้ที่นครพนม ตนมาที่นครพนม ก็เพื่อมาชี้แจงประชาชน ที่จริงเรื่องแบบนี้ถ้าไม่รู้จริงอย่าพูด มันสร้างความเข้าใจผิด ที่สำคัญมันยังจะผิดกฎหมายด้วย ไม่ฟ้องก็ไม่ได้ เพราะผู้สมัครในพื้นที่ต่างๆ เขาได้รับผลกระทบไปหมด เขาก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเขาในการฟ้องร้องดำเนินคดี ส่วนใครจะตั้งรัฐบาล ใครจะเป็นนายกฯ พรรค ภท.ยึดถือกติกา  พรรคที่มีเสียงมากสุดต้องได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน

เย้ย 'เสี่ยนิด' ปล่อยไก่

"มาบอกว่าเลือกภูมิใจไทยได้ พล.อ.ประยุทธ์ คนพูดดูเงื่อนไขการเมืองรึเปล่าว่าปี 2562 กับปี 2566 มันต่างกันมาก ตอนนั้นพรรคภูมิใจไทยได้เท่าไหร่ พรรค พล.อ.ประยุทธ์ได้เท่าไหร่ พรรคเพื่อไทยได้เท่าไหร่ แล้วใครตั้งรัฐบาลสำเร็จ ซึ่งผมไม่รู้ว่านายเศรษฐาที่พูดออกมานี่ได้รับฉันทามติจากพรรคไหม ที่มากล่าวกันในสิ่งที่ยังไม่เกิด ซึ่งผมก็พูดมาตลอดว่า ถ้าเลือกภูมิใจไทยมากพอ เราจะเป็นนายกฯ"

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขอย้อนความกลับไปที่ท่านมากล่าวหาว่าเลือกภูมิใจไทยได้คนนั้นคนนี้เป็นนายกฯ ให้ดูปี 2562 ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงมาเป็นที่ 1 แต่เวลาเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านยังไปเลือกคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่เลย ทั้งที่ท่านมีทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มีท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีท่านชัยเกษม นิติสิริ แต่ท่านไม่เลือก ที่คุณเศรษฐาพูดมา เพื่อไทยเองก็ส่ายหัว นี่ไงที่บอกว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่รู้มีอำนาจรึเปล่า แต่กำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อน

"ผมว่าคุณเศรษฐาปล่อยไก่ รู้เรื่องไม่ละเอียดแล้วมาพูดนี่อันตราย ถ้าไปรับตำแหน่งสำคัญแล้วข้อมูลไม่พอ พูดเอามัน แค่กระบวนการความคิดก็ผิดแล้ว แล้วจะมารับผิดชอบบ้างเมืองหรือ"

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับนายเศรษฐา ที่ออกมาโจมตีนโยบายกัญชาของพรรคภท.ว่า ได้ติดตามดูแล้ว เขาไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่อง ซึ่งเป็นการพูดถึงการจับขั้วรัฐบาล 2 พรรค เรื่องนี้เราอย่าเพิ่งไปผูกมัด ตนไม่ได้มีปัญหากับ น.ส.แพทองธาร ยังแสดงความยินดีด้วยซ้ำที่ได้ลูกชาย น้องธาษิณ จึงไม่ใช่เวลาที่เราจะมาวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร แข็งแรงมาก แค่วันสองวันก็ออกมาแล้ว ออกมากอบกู้พรรคเพื่อไทย

เมื่อถามถึงกรณีที่โลกโซเชียลเผยแพร่ศึกวิวาทะ “หนูนิด” นายอนุทิน กล่าวว่า จะหนูนิด หนูหน่อย หนูอี๊ด หนูแอ๊ด ก็ไม่มีปัญหา ส่วนจะมีปัญหาในการจับคู่รัฐบาลในอนาคตหรือไม่ ขอย้ำว่าเคยบอกไปแล้วว่าแต่ละพรรคเขารู้ว่าคนไหนคือคนที่เคาะ เราจบประเด็นนี้ได้แล้ว ส่วนกรณีที่ลูกพรรคหลายคนไปดำเนินคดีกับนายเศรษฐา เพราะกระทบกับตัวเขา ตนจะไปบังคับเขาได้อย่างไร เพราะภูมิใจไทยไม่ได้เสียหายอย่างเดียว ผู้สมัครก็เสียหายด้วย จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ผิดกฎหมาย อย่าทำอะไรที่จะกระทบต่อคะแนนที่ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ต้องระวัง เพราะจะผิดไม่รู้อีกกี่กระทง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ประกาศจะจัดตั้งศูนย์ต่อต้านกัญชา จนกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทินกล่าวสวนกลับทันทีว่า คงอีกหลายปี จริงๆ แล้วสิ่งที่นายชูวิทย์ ดำเนินการป้องกันการใช้กัญชาผิดกฎหมายถือเป็นเรื่องดี เรื่องที่เป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมือง แต่ถ้าใช้กัญชาเพื่อเศรษฐกิจ ทางการแพทย์สุขภาพ อันนี้ใครก็ต้านไม่ได้

วันเดียวกัน เวลา 18.00 น. ที่สนามสามเหลี่ยม ทุ่งนาเชย อ.เมืองฯ จ.จันทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีปราศรัยช่วย 3 ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี พรรคเพื่อไทยหาเสียง ตอนหนึ่งว่า  ปัญหายาเสพติดเกิดขึ้นทุกจังหวัด เพราะรัฐบาลปัจจุบันจัดการไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนผู้เสพ เปลี่ยนเป็นผู้ป่วย จัดหางานที่เหมาะสม ผู้ค้ายาต้องถูกจัดการอย่างรวดเร็ว

ลั่นเป็นศัตรูกับกัญชา

"เมื่อพูดถึงยาเสพติด อดพูดถึงกัญชาเสรีไม่ได้ มีพรรคการเมืองหนึ่งหาเสียงให้พี่น้องสูบ ให้พี้กัญชาอย่างเมามัน ประชาชนรับกันได้หรือไม่ ผมไม่ได้เป็นศัตรูพรรคนั้น แต่เป็นศัตรูกับกัญชา ไม่ยอมให้มามอมเมาลูกหลานคนไทย ผมพูดมากก็สะเทือนพรรคนั้นถึงขั้นไปฟ้องผม เพราะไม่เห็นด้วยกับเรื่องกัญชา แต่ผมยอมติดคุก เพื่อไม่ให้ลูกหลานติดกัญชา อยากให้ประชาชนตัดสินใจ หากเลือกพรรคนั้น ลูกหลานถูกมอมเมาด้วยกัญชา อย่ายอมเด็ดขาด ขอให้สู้ไปด้วยกัน วันเลือกตั้งอย่าปันใจให้ใคร พรรคเพื่อไทยมาคนเดียว ไม่มีพรรคพี่น้อง ขอให้เทใจกาบัตรทั้งสองใบให้เพื่อไทย" นายเศรษฐากล่าว

ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะนายทะเบียนของพรรค ภท. แถลงว่าผู้สมัคร ส.ส.พรรค ภท.ได้ฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน กรณีปราศรัยที่ จ.นครพนม ว่า นโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนในการหาเสียงเลือกตั้งนั้น อยู่ในวิสัยที่ประชาชนคนทั่วไปสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยสุจริต และสามารถแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ ซึ่งไม่เข้าข่ายการกระทำผิดต่อกฎหมายใดๆ อยู่แล้ว ทั้งนี้ การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายกัญชาเสรีนั้น ได้มีคำวินิจฉัยของศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ.1650/2566 ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่า  “…การกล่าวหรือแสดงความคิดเห็นของจำเลยในเรื่องของกัญชา ทำให้ประชาชนได้รับทราบถึงประโยชน์และโทษของกัญชา จึงถือได้ว่าเป็นประโยชน์แก่สุขภาพของประชาชนเป็นส่วนมาก…”

 "ฉะนั้นการที่นายเศรษฐาได้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี แต่เห็นด้วยในนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ จึงเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และเป็นการให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชน และยังเป็นการแสดงจุดยืนของนายเศรษฐา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ว่า“หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่มีนโยบายกัญชาเสรีอย่างแน่นอน จะมีแต่เพียงนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ถือว่าเป็นการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย จึงไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5)"

 ส่วนกรณีที่ว่า หากเลือกพรรคภูมิใจไทยจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกรอบนั้น นายนรวิชญ์กล่าวว่า ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และได้สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ทั้งที่ก่อนเลือกตั้ง นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศว่า "ไม่ยอมรับให้คน 250 คน ที่ไม่ได้มาจากพี่น้องประชาชนมาเลือกนายกรัฐมนตรีของพวกผม” แต่ท้ายที่สุด ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายอนุทินกลับโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี

 นอกจากนี้ ตามคลิป Yes or No ของ TheStandardNews ในการตอบคำถาม Yes หรือ No ในประเด็นคำถามว่า “แก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่อง ส.ว. เลือกนายกฯ” นายอนุทินก็ได้ตอบว่า “NO” นั่นหมายความว่า นายอนุทินไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะให้ตัดอำนาจ ส.ว. 250 คนในการเลือกนายกฯออก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายเศรษฐา ทวีสิน จะเข้าใจ และเชื่อโดยสุจริตว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยก็ยังคงสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี 

 "ดังนั้น กรณีการปราศรัยของนายเศรษฐา ที่มาจากความเชื่อโดยสุจริต ไม่เป็นการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย จึงไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) แต่อย่างใด การที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นั้น จะส่อเป็นฟ้องเท็จ อาจเข้าข่ายเป็นการใส่ร้ายนายเศรษฐา  ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) เสียเอง อีกทั้งการที่พรรคภูมิใจไทยรับรู้ รับทราบ ถึงการที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพรรคของตนไปฟ้องนายเศรษฐาแล้ว แต่ยังกลับปล่อยปละละเลย ไม่ห้ามปราม อาจถือได้ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ควบคุมสมาชิกพรรคให้ดำเนินการด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 101 ที่อาจถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และให้เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้ จึงขอให้พรรคภูมิใจไทยรีบสั่งการให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคของตนถอนฟ้องคดีนายเศรษฐาเสียโดยเร็ว" นายนรวิชญ์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

'เสี่ยหนู' ขอเช็กปมเก้าอี้ 'ครูแก้ว' หลังถูก ป.ป.ช.ฟันจริยธรรมร้ายแรงก่อน

'อนุทิน' ขอเช็กรายละเอียด ตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี หลัง 'ครูแก้ว' ถูก ป.ป.ช.ชี้จริยธรรมร้ายแรงที่ดินป่าดงพะทาย