ก.ก.โว100วันได้เมาเท่าเทียมแน่!

งานชุก! “พิธา” นำทีมเศรษฐกิจก้าวไกลพบนักธุรกิจรุ่นใหม่ เลกเชอร์กระดุมเม็ดแรกลดความเหลื่อมล้ำ ขณะที่เครือข่ายเหล้าเสรีเข้าพบทวงสัญญาตอนหาเสียง "พิธา" ย้ำกระดุมเม็ดแรก 100 วันแรกทำแน่ แต่ถามพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ประชาชนเตรียมเมาแบบไม่มีความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และทีมเศรษฐกิจ เข้าพบตัวแทนสภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ (Young FTI) ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะทางนโยบายจากนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตของภาคอุตสาหกรรมไทย

กิจกรรมภายในงานเริ่มต้นด้วยตัวแทนนักธุรกิจจากสภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่นำเสนอปัญหาและข้อเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่นักธุรกิจเจอในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการพัฒนาสินค้าเกษตร การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมภาคการผลิต ลิขสิทธิ์ ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐ การคอร์รัปชัน นวัตกรรม และโอกาสในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานของประเทศไทย

เมื่อตัวแทนนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่นำเสนอจบแล้ว นายพิธากล่าวกับที่ประชุมว่า สิ่งแรกที่เราต้องแสดงให้เห็นก่อน คือไม่ทำงานเป็นแท่งๆ เป็นไซโล แต่ต้องมองภาพใหญ่ว่าการบริหารเศรษฐกิจที่เราต้องการคืออะไร สิ่งที่พรรคก้าวไกลมองเห็นบทเรียนจากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตมา 40 ปี คือในอนาคตต้องเป็นการเติบโตแบบ inclusive growth เศรษฐกิจโตด้วย และลดความเหลื่อมล้ำ เปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตด้วย

นายพิธากล่าวว่า ต้องแก้ที่กระดุมเม็ดแรก มองให้เห็นโครงสร้างทั้งระบบ เช่นเดียวกับการขอใบอนุญาตต่างๆ ที่ปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้นจากกระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพ การรวมศูนย์อำนาจ ถ้าประเทศไทยมีการกระจายอำนาจ จะทำให้ท้องถิ่นกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศระเบิดศักยภาพในการเติบโต สามารถสร้างเศรษฐกิจของประเทศได้อีกมหาศาล

เขาบอกว่า อยากทำความเข้าใจว่าค่าแรง 450 บาท ไม่ใช่เป็นนโยบายที่เราคิดเอาเอง แต่เราเอาตัวเลขไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน ถ้าคิดตั้งแต่ปี 2556 มาจนถึงปัจจุบัน ค่าแรงที่ควรจะเป็นคือเท่าไร ตัวเลขอยู่ที่ใกล้เคียงกับ 450 บาท ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่ได้มีแค่นโยบายเพิ่มค่าแรง แต่มาพร้อมกับแพ็กเกจนโยบายเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีเอสเอ็มอี และมาตรการเพิ่มสภาพคล่องอื่น ให้ไม่น้อยกว่าในสมัยที่มีการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท

หลังจากนายพิธาได้แสดงวิสัยทัศน์ สภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ได้มอบเสื้อที่มีสัญลักษณ์ Young FTI และโลโก้พรรคก้าวไกล แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต บรรยากาศการพบปะพูดคุยเป็นไปอย่างชื่นมื่น นักธุรกิจรุ่นใหม่ฝากความหวังในการสร้างความเปลี่ยนแปลง การทำงานร่วมกับภาครัฐไว้กับทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ว่าจะทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็ว เปิดกว้างการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน

วันเดียวกันนี้ เครือข่ายสุรา นำโดยสมาคมสุราท้องถิ่นไทย เครือข่ายสุราแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟต์เบียร์ ผนึกกำลังเข้าพบนายพิธา และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล เพื่อให้ขับเคลื่อนนโยบายสุราก้าวหน้า ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคก้าวไกล

นายพิธากล่าวภายหลังรับหนังสือจากเครือข่ายสุราว่า วันนี้มารับหนังสือจากเครือข่ายสุราเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และการผลักดันนโยบายสุราก้าวหน้า ที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชน พร้อมขอบคุณและให้เครดิตภาคประชาสังคม ประชาชน คนที่อยู่ในวงการ ทั้งสุราไทย สุราพื้นบ้านและคราฟต์เบียร์ ที่เห็นตรงกันกับพรรคก้าวไกล อยากจะเปลี่ยนสินค้าการเกษตรจากโภคภัณฑ์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ ในการที่จะทำนโยบายวัฒนธรรมสืบสานประเพณีต่างๆ

 “ไม่ว่าจะแป้งหมัก สาโท ที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทย ที่ป็นนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายท่องเที่ยว ทำให้ไทยมีความหลากหลาย และทำให้คนทั่วโลกรู้จัก เข้าใจถึงศักยภาพของสินค้าไทย” นายพิธากล่าว

ส่วนขั้นตอนการแก้ไขกฎกระทรวงที่ประกาศใช้ก่อนผ่าน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้านั้น นายพิธาอธิบายว่า กฎกระทรวงเป็นของกระทรวงการคลัง ต้องนำไปแก้ไขให้ยกเลิกการกีดกันด้านทุนจดทะเบียน แรงม้า รวมถึงเรื่องอื่นๆ และทำให้การผลิตมีความเท่าเทียม ส่วน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะกฎกระทรวงสามารถแก้ไขไปมาได้ด้วยอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องหารือกันในคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกที

 “ทั้งหมดเป็นเพียงกระดุมเม็ดแรก กระดุมเม็ดถัดมาคือ กฎหมายห้ามโฆษณา เรื่องใบอนุญาต จากนั้นต้องค่อยๆ ทำให้สู่ระบบการค้าของโลกให้ได้ มีเรื่องของสาธารณสุข เรื่องการทำแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ และการทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ดังนั้นทุกกระทรวงมีหน้าที่หมด ทุกกระทรวงมีหน้าที่ทำให้อุตสาหกรรมทางการเกษตรที่ไม่เคยเกิดขึ้นนี้ ได้เกิดขึ้นจริงสักที”

นายพิธาย้ำว่า สำหรับนโยบายสุราก้าวหน้าสามารถดำเนินการได้ภายใน 100 วันแรกหลังเป็นรัฐบาล จากนั้นต้องอาศัยการบูรณาการระหว่างกระทรวงต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่ต้องทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะในระดับจังหวัด ซึ่งต้องหารือกันว่าแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะมีแนวทางสนับสนุนอย่างไร โดยเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง

ส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่า พรรคก้าวไกลไม่สนับสนุนกัญชา แต่กลับสนับสนุนสุรา ซึ่งเป็นสินค้าอบายมุขเหมือนกัน นายพิธากล่าวว่า ทั้ง 2 สิ่งมีทั้งประโยชน์และโทษ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรเสรีจริง เราจึงต้องใช้คำว่า สุราก้าวหน้า ในเรื่องกัญชาเช่นเดียวกัน ต้องควบคุมให้เหมาะสม เราไม่ต้องการให้เกิดการบริโภคมากขึ้นภายในประเทศ แต่ต้องการเพิ่มมูลค่า มีราคาสูงกว่าแอลกอฮอล์ทั่วไปและหาได้ตามร้านสะดวกซื้อ

 “ถ้าคิดว่าเป็นการมอมเมา เข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อเบียร์ไม่กี่กระป๋องก็ราคาถูกกว่า เราต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาในประเทศไทย มีอะไรที่ยึดโยงกับพื้นที่ในการที่จะได้รับอรรถรสมากขึ้น รวมถึงการเป็นผู้นำส่งสินค้าเหล่านี้ไปยังต่างประเทศมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือเวลามีการจัดประชุมใหญ่ๆ ผู้นำต่างประเทศมาประชุมที่ไทยไม่ต้องใช้ไวน์ของต่างประเทศ เราสามารถใช้สุราของคนกลุ่มนี้ ทั้งเรื่องเล่า คุณภาพต่างๆ เพื่อให้ผู้นำรู้ถึงศักยภาพของวัตถุดิบไทย และฝีมือความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย” นายพิธากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง