เฉลิมชัยวางมือ‘ปชป.’ชุดใหม่13ก.ค.

“เฉลิมชัย” ลั่นขอวางมือทางการเมือง ไม่นั่งเลขาฯ ปชป. หลังได้ ส.ส.ต่ำกว่าปี 62 คาด 13 ก.ค.นี้ได้ หน.พรรค-กก.บห.ชุดใหม่ “นริศ” เสนอรื้อโครงสร้างใหม่อย่างจริงจัง หนุนสัดส่วนคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารมากขึ้น

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ต้องรอให้ตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จก่อนหรือไม่ว่า   มีการกำหนดวันแล้ว คือ 13 ก.ค.2566 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายภายในระยะเวลา 60 วัน ตามข้อบังคับพรรค เมื่อถามว่าเลขาธิการพรรคยังเป็นคนเดิมหรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่ ตนหยุดอยู่แล้ว

ถามต่อว่า การหยุดบทบาท แต่ยังให้คำปรึกษาใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ถ้าเขามาปรึกษาก็ปรึกษาได้ ถ้าไม่มาปรึกษาตนก็อยู่บ้าน ส่วนหัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเป็นคนรุ่นใหม่ใช่หรือไม่นั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ก็ต้องให้กรรมการและที่ประชุมใหญ่เขาเลือกแล้วกัน เมื่อถามอีกว่ามีการวางคนไว้แล้วหรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายเฉลิมชัยเคยให้สัมภาษณ์ในวันที่ 14  สิงหาคม ปี 2565 ที่จังหวัดสงขลา ว่าถ้า ปชป.ได้ ส.ส.ต่ำว่า 52 คน จากที่ได้รับในปี 2562 จะเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต โดยระบุว่า “ผมเคยประกาศไปแล้ววันที่พรรคกำลังมีปัญหาว่า ถ้าได้ ส.ส.ต่ำกว่า 52 จะเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต ประกาศวันนั้นก็ติดตัวผมไปอยู่แล้ว นี่คือคำมั่นสัญญา อยู่ที่พี่น้องประชาธิปัตย์ ผมเชื่อว่าถ้าประชาธิปัตย์มีเอกภาพ เราสู้ได้ทุกพรรค สู้นี้คือสู้เพื่อชนะใจพี่น้องประชาชน ไม่ใช่สู้แบบไประรานใคร”

ขณะที่ นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ว่า กรรมการบริหารพรรคชุดเก่ามีมติเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งต้องมีการรับรอง ส.ส. 25 คน เพราะเป็น 70% ของคะแนนทั้งหมด ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งในครั้งนี้ต้องมาทบทวนการเลือกตั้งที่ผ่านมาทั้งหมด เพราะพรรคได้ ส.ส.น้อยมาก

เมื่อถามว่า ต้องมีการปรับครั้งใหญ่หรือไม่ นายนริศกล่าวว่า คิดว่าคณะกรรมการบริหารพรรคคงพิจารณาว่า ต้องปรับ และการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ค่อนข้างจะจริงจัง ส่วนจะให้โอกาสคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนหรือไม่นั้น  มองว่าพรรคมีการผสมผสานระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของพรรคอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่มากกว่า และคะแนนของพรรคที่ได้จำนวนเท่านี้ ถึงเวลาที่เราควรจะปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง