เลขาฯ ป.ป.ส.เผย กฎหมายยาเสพติดใหม่ เริ่มใช้ 9 ธ.ค.นี้ ตั้งเป้าปี 65 ยึดทรัพย์ให้มากกว่า 6 พันล้าน ผู้ต้องขังที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 30,000 ราย ผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดจะไม่แค่ติดคุก แต่ถูกยึดทรัพย์หมดตัว
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้ เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการปรับการใช้กฎหมายยาเสพติดให้เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ โดยรวบรวมกฎหมายยาเสพติดที่เดิมกระจายอยู่ในบทบัญญัติหลายฉบับ และกระจายอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน รวมเป็นฉบับเดียวคือ ประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้การทำงานสอดคล้องและไม่ซ้ำซ้อนกัน และง่ายขึ้นต่อประชาชนในการศึกษาทำความเข้าใจด้วย
ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้ ปรับแนวคิดเพื่อให้ทันสมัยและเป็นสากล โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะปรับปรุงและพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติให้สอดคล้องกับผลการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก (United Nations General Assembly Special Session on the world drugs Problem-UNGASS 2016) โดยยึดหลัก “ผู้เสพ” คือ “ผู้ป่วย” การนำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ และการลงโทษให้เหมาะสมกับพฤติกรรมในการกระทำความผิด
รวมไปถึงการพิจารณาคดีของศาลใช้ดุลยพินิจพิจารณาการลงโทษที่เหมาะสม หรือใช้มาตรการทางเลือกอื่นได้ตามระดับความร้ายแรงของการกระทำความผิด “ลงโทษตามพฤติการณ์ของผู้กระทำผิด” จำแนกผู้ค้า/ผู้เสพชัดเจน โดยแบ่งกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดออกเป็น 3 กลุ่ม (1.ผู้เสพ 2.ผู้รับจ้างขน และ 3.กลุ่มนักค้า) ซึ่งนายทุน ผู้สั่งการ นักค้ารายใหญ่ต้องใช้มาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด และริบทรัพย์สิน
สำหรับด้านการปราบปรามยาเสพติด การสืบสวนเส้นทางการเงิน เพื่อยึดทรัพย์และตัดวงจร เป็นแนวทางสำคัญของรัฐบาลเพื่อใช้ทำลายผู้อยู่เบื้องหลังองค์กรการค้ายาเสพติด ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่จะเป็นเครื่องมือสำคัญเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์ โดยยึดทรัพย์สินตามมูลค่า (Value-based Confiscation) การกำหนดให้การดำเนินคดีทรัพย์สินไม่ผูกติดกับคดีอาญา และการทำลายของกลางยาเสพติดให้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอศาลพิพากษาตัดสินคดี เพียงแค่มีผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นยาเสพติด ก็สามารถนำไปทำลายได้เลย ไม่ต้องเก็บรักษาไว้เหมือนปัจจุบัน
นายวิชัยเผยว่า ในปีงบประมาณ 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้มากกว่าปีงบประมาณ 2564 ที่ตั้งเป้าไว้ 6,000 ล้านบาท และในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งจะเป็นรางวัลให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสยาเสพติดที่นำไปสู่การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดด้วย หลังประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นี้มีผลบังคับใช้ จะมีผู้ต้องขังที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 30,000 ราย ซึ่งศาลจะนำกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดมาใช้พิจารณาได้ โดยในภาพรวมการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะมีประสิทธิภาพขึ้น
"ผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดที่เป็นผู้ทำลายอนาคตของชาติ จะไม่แค่ติดคุก แต่ถูกยึดทรัพย์หมดตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเน้นสำคัญของประมวลกฎหมายนี้ เพื่อจัดการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ซึ่งตรงนี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน” นายวิชัย กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นภินทร'สั่งเดินหน้าทำFTA ลุ้นปิดดีลเอฟตา-ยูเออี-ศรีลังกา
“นภินทร” มอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าทำ FTA ใหม่
แนะส่งกฤษฎีกา‘กู้มาแจก’2ขยัก
"วิษณุ" แนะรัฐบาล ควรส่งเรื่องถามกฤษฎีกา 2 ขยัก
เฮ!‘สงกรานต์’มรดกโลก วธ.ชวนคนไทยฉลองใหญ่
คนไทยเฮ! ยูเนสโกขึ้นทะเบียน “สงกรานต์” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ห่วงศก.ปีหน้า เบรกขึ้นค่าไฟ ครองชีพอ่วม
กกร.คาดจีดีพีปี 67 โต 2.8-3.3% ภายใต้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเต็มวงเงิน 5 แสนล้าน
‘เศรษฐา’รับสายบ้าง สส.พท.โวยกลางสัมมนา ปัดกม.นิรโทษเอื้อทักษิณ
"เศรษฐา" ร่วมสัมมนาเพื่อไทย "สส." เขียนระบายความรู้สึกอยากให้ใกล้ชิดบ้าง
ทำดีถวาย‘พ่อหลวง’ พสกนิกรไทยทั่วหล้าสวมเสื้อเหลืองน้อมรำลึก5ธันวา
"ในหลวง" ทรงวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9