100วันดันสมรสเท่าเทียมแน่

นักการเมืองแห่ร่วมเดินพาเหรดงานบางกอกไพรด์ 2023 "พิธา"  สวมเสื้อหลากสี ลั่นผลักดัน กม.สมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ 100 วันแรก หนุน กทม.เจ้าภาพ World Pride 2028 "อุ๊งอิ๊ง" ประสานเสียง ดันนโยบายหลากหลายทางเพศเกิดขึ้นให้ได้

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 14.30 น.  บริเวณแยกปทุมวัน กรุงเทพฯ บริษัท  นฤมิตไพรด์ จำกัด ร่วมกับกรุงเทพมหานคร พร้อมองค์กรสิทธิเพศหลากหลายกว่า 30 องค์กร จัดงาน "บางกอกไพรด์ 2023 (Bangkok Pride 2023)"   เพื่อสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย และพื้นที่สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมสำหรับชุมชน LGBTQIAN+ ภายใต้แนวคิด "Beyond Gender ประเด็นความไม่เท่าเทียมทางเพศใดที่คุณอยากก้าวข้าม"

โดยมีการปิดถนนเดินขบวนอย่างสร้างสรรค์ทั้งสิ้น 6 ขบวน จากแนวคิด "สุขภาวะของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIAN+ well-being)" การมีสุขภาวะที่ดีสำคัญต่อคุณภาพชีวิต เริ่มตั้งแต่บริเวณแยกปทุมวัน ถนนพระราม  1 ฝั่งสยามวัน จนถึงแยกราชประสงค์ บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อมาเวลา 15.00 น. มีการตั้งขบวนบริเวณถนนพระรามที่ 1 โดยปิดถนน 1 ช่องจราจร ฝั่งมุ่งหน้าแยกราชประสงค์ น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง หรือวาดดาว กล่าวบนเวทีเรียกร้องการสมรสเท่าเทียม บรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมจนเต็มพื้นที่ ระหว่างนั้นมีการร่วมนำผ้าสีรุ้งขนาดใหญ่ชูขึ้นเหนือศีรษะแสดงสัญลักษณ์ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักการเมืองจากหลายพรรคเดินทางเข้าร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 กันอย่างคับคั่ง อาทิ  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่งกายด้วยเสื้อหลากสี ที่แสดงถึงความหลากหลายทางเพศ ได้เดินทางมายังลานกิจกรรมสยามดิสคัฟเวอรี่ด้วยวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

โดยนายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่มีงานบางกอกไพรด์ในวันนี้ ทำให้เห็นว่าเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าความรักทุกรูปแบบของสังคมไทยเป็นไปได้ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงโลกว่าความรักมีโอกาสที่จะชนะในหลายๆ  เรื่อง ในสิ่งที่โลกอาจจะคาดคิดไม่ถึงมาก่อน การมาร่วมฉลองกันวันนี้ไม่ใช่แค่เป็นพาเหรดหรือสัญลักษณ์เท่านั้น แต่เมื่อรัฐบาลตั้งได้เมื่อไร ตั้งใจสนับสนุนในเรื่องของสมรสเท่าเทียม และการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ รวมทั้งเรื่องสวัสดิการ

"2-3 เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ทำให้การเฉลิมฉลองความหลากหลายในเดือนแห่งไพรด์ ให้เป็นเรื่อง pride always คนจะได้มองประเทศไทยว่าเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ เป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นพื้นที่ที่จะทำให้คนเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด และลบคำครหาต่างๆ เพราะบางคนมีความรักในอาชีพของเขา แต่เป็นไม่ได้ เพราะเพศสภาพไม่ได้รับการยอมรับ บางคนวางแผนครอบครัว วางแผนภาษี ซื้อประกันให้คนที่เรารักก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการที่เราทำแบบนี้ได้จะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นคุณค่าที่คนไทยเชื่อร่วมกัน และเป็นการสร้างสังคมที่ดีขึ้น และหวังว่างาน World Pride 2028 จะมาจัดที่ กทม. ประเทศไทย เป็นประเทศเอเชียประเทศแรกของการจัดเทศกาลนี้ จะมีผลพวงเรื่องเศรษฐกิจตามมา" นายพิธาระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะผลักดันพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภาใน 100 วันแรกหรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ใช่ น่าจะภายใน 100 วันแรกเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องที่คาอยู่แล้ว คณะกรรมาธิการทำงานเสร็จแล้ว แม้แต่วิปรัฐบาลชุดก่อนก็บอกว่าไม่มีปัญหา ดังนั้นหากนำเข้าสภาไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย จะทำให้ผ่านสภาได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดจะแสดงให้โลกเห็นว่าความหลากหลายไม่ได้เป็นจุดอ่อนของประเทศนี้ แต่เป็นจุดแข็ง  และคิดว่าอะไรดีๆ จะตามมามากมาย เป็นเรื่องสิทธิสวัสดิการ เศรษฐกิจเป็นแค่เรื่องสุดท้ายเท่านั้น

ทางด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมบางกอกไพรด์ 2023 เปิดเผยว่า แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสมรสเท่าเทียมหรือความหลากหลายทางเพศ ให้เกิดขึ้นให้ได้แน่นอน

เมื่อถามว่า จะเป็นกฎหมายหลักๆ  หากเปิดประชุมสภาเลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ ที่รัฐบาลชุดต่อไปจะต้องผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องแรกๆ ซึ่งความเท่าเทียมหรือความหลากหลายทางเพศสำคัญมากๆ และไม่ควรจะมีเรื่องเพศเป็นตัวกำหนดให้ชีวิตของเราดำเนินได้ไม่เต็มที่ไม่เต็มศักยภาพ อันนี้ตนเห็นด้วยมากๆ

เมื่อถามย้ำว่า จะผลักดันเป็นกฎหมายในส่วนของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตอนนี้เราได้ตกลงเจรจาอะไรกันหลายอย่างแล้ว ต้องทำร่วมกัน และในส่วนของพรรคเองต้องผลักดันเรื่องนี้ด้วย

ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมงานดังกล่าว โดยสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ประดับด้วยสายสะพายสีรุ้ง พร้อมร่วมถ่ายรูปกับประชาชน

นายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย น.ส.วิเวียน จุลมนต์, นายปรัชญา อึ้งรังษี, นายกอบกฤต สุขสถิตย์, น.ส.สวิชญา วาทะพุกกะณะ เข้าร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 บริเวณสยามเซ็นเตอร์  โดนายวรนัยน์ได้ย้ำถึงสิ่งที่นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค ได้วางยุทธศาสตร์ Rainbow Economy ให้เป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้เข้าประเทศโดยการขับเคลื่อนผ่านกลุ่ม LGBTQ+ Rainbow Economy เป็นแผนนโยบายที่นำไปสู่การปฏิบัติแบบเป็นรูปธรรม ทั้งในเรื่องสิทธิเห็นด้วยกับสมรสเท่าเทียม ควบคู่ไปกับโอกาสทางเศรษฐกิจในการสร้างรายได้เข้าประเทศ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลใหม่ที่จะมาถึงจะต้องผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เพื่อเป็นการประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนตาม  MOU ที่ได้ประกาศแก่พี่น้องประชาชน  สิทธิในการสมรสนั้น ในมุมหนึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะเกี่ยวข้องกับกฎหมายแพ่ง การรับมรดก การทำธุรกรรมทางการเงิน หากกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้เหมือนคู่ชายหญิง จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เช่น การซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ  ร่วมกัน รวมถึงการวางแผนที่จะทำธุรกิจร่วมกัน นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่จะได้จากการผลักดันการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับผู้มีความหลากหลายทางเพศจะทำได้มากขึ้น และจะสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า เนื่องในเดือน Pride Month เทศกาลแห่งความภาคภูมิใจ เป็นกิจกรรมเพื่อเปิดกว้างในสังคมที่มีความหลากหลายทางเพศได้มีสิทธิและเสรีภาพแสดงศักยภาพความสามารถอย่างเต็มที่ในประเทศ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายเปิดกว้างให้กับพี่น้องประชาชนทุกเพศทุกวัยได้ร่วมกันพัฒนาประเทศในทุกด้านทุกมิติ ตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ให้ไว้ คือเพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยได้รับประโยชน์ แม้มีความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนเคารพสิทธิของผู้อื่น รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างเปิดกว้างด้วย ทั้งการแสดงความคิดเห็นตามปกติและในโซเชียลมีเดียก็ตาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง