ระทึก!สธ.แจงโอไมครอน

ไทยติดเชื้อ​ใหม่ 4.7 พันราย​ ดับเพิ่ม​ 27​ ราย ฉีดวัคซีนแล้ว​ 95​ ล้านโดส นายกฯ พอใจคุมโควิดได้ดี เยอรมนีถอดไทยจากประเทศเสี่ยงสูงแล้ว ลุ้น สธ.เตรียมแถลงเรื่องผลตรวจโอไมครอน นครพนมผวาคลัสเตอร์ร้านเหล้าติดโควิดแล้ว 10 ราย เสี่ยงกว่า 300 ราย

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,704 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 4,649 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ​ 4,447 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 202 ราย มาจากเรือนจำ 47​ ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 8​ ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,141,241 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 6,149 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน​ 2,048,815 ราย อยู่ระหว่างรักษา 71,482 ราย อาการหนัก 1,263 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 328 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 27​ ราย เป็นชาย 15​ ราย หญิง 1​2​ ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 23​ ราย มีโรคเรื้อรัง​ 4​ ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 20,944 ราย ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมเมื่อวันที่​ 4​ ธ.ค.​ 720,201 โดส​ ยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่​ 28​ ก.พ. 95,291,358 โดส​

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 5​ ธ.ค. ได้แก่ กทม. 781 ราย นครศรีธรรมราช 418 ราย สงขลา 311 ราย ปัตตานี 181 ราย ชลบุรี 174 ราย สมุทรปราการ 142 ราย สุราษฎร์ธานี 136 ราย เชียงใหม่ 134 ราย ขอนแก่น 118 ราย ยะลา 97 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พอใจที่ไทยยังสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศได้เป็นอย่างดี ในส่วนการติดตามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงสูงเพื่อตรวจคัดกรองโควิด-19 ซ้ำด้วย RT-PCR สธ.ยืนยันว่ายังไม่พบเชื้อโควิด-19 และสายพันธุ์โอไมครอน ถือว่าไทยยังคงมีความปลอดภัยจากสายพันธุ์โอไมครอน ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังได้ประเมินการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอนยังไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวไทย ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน รายงานว่าเยอรมนีถอดไทยออกจากประเทศเสี่ยงสูงแล้ว ส่งผลให้ผู้เดินทางจากประเทศไทยไม่ต้องลงทะเบียนการเดินทางเข้าและไม่ต้องกักตัว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังคงเน้นแนวทางบริหารสถานการณ์ โดยการเดินหน้าเศรษฐกิจควบคู่กับการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด และย้ำให้ประชาชนอย่าการ์ดตก

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประเทศมาเลเซียพบการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในนักศึกษาที่เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ ขณะนี้ทางการมาเลเซียแจ้งว่ายังไม่มีเหตุที่น่ากังวล เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้รับการกักตัวทันทีที่เดินทางถึงมาเลเซีย และได้ทำการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด รวมถึงทำการตรวจหาเชื้อบุคคลที่มีความเสี่ยงแล้ว สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 (สงขลา, สตูล, ตรัง, พัทลุง, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส) ได้รายงานว่า ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์โอไมครอน ขอให้ประชาชนอย่าตระหนก สธ.มีระบบการตรวจหาเชื้อและส่งไปถอดรหัสพันธุกรรมหาสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา

ส่วนที่มีข้อเรียกร้องของกลุ่ม ส.ส.จังหวัดชายแดนใต้ให้มีการเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซียนั้น รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ครั้งที่ผ่านมาได้เห็นชอบหลักการในเบื้องต้นแล้ว และให้ ศบค.ส่วนหน้าไปพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลังจากการประชุม ศบค.ครั้งนั้นก็ได้เริ่มพบการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในประเทศมาเลเซีย ศบค.ส่วนหน้าจึงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะหารือกันในสัปดาห์นี้เพื่อเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในการประชุมครั้งหน้า 13 ธ.ค.นี้

ทางด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อโอไมครอนว่า ขณะนี้ยังรอผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อสายพันธุ์ใด ในขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่านักท่องเที่ยวรายนี้ติดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน และยังอยู่ในกระบวนการของการตรวจหาเชื้อ หากเจอว่าเป็นสายพันธุ์ใดจะรีบแจ้งให้ทราบในทันที จึงขอให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากัน ซึ่งจะมีการแถลงผลการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เวลา 11.00 น. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวอยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว โดยหากพบว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนจะทำการรักษาตามปกติ และในส่วนของแผนการรักษาไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนกรณีพบชาวแอฟริกันป่วยและรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรนั้น ผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อเดลตา ไม่ใช่โอไมครอน

อย่างไรก็ตาม การตรวจหาโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้นต้องใช้เวลาตรวจ เนื่องจากยังไม่มีน้ำยาตรวจเฉพาะเหมือนสายพันธุ์อื่นๆ โดยจะใช้เทคนิคการตรวจหาตำแหน่งพันธุกรรมจากน้ำยาตรวจของอัลฟาและเบตาแทน หากให้ผลเป็นบวกสันนิษฐานว่าติดเชื้อโอไมครอน เนื่องจากตำแหน่งของรหัสพันธุกรรมบางตัวของอัลฟา และเบตามีตรงกับโอไมครอน จากนั้นจึงจะนำมาสู่กระบวนการด้วยหาพันธุกรรมทั้งตัว ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจยืนยัน และเมื่อพบก็จะรายงานผลให้ GISAID ด้วย ทุกขั้นตอนต้องใช้เวลา หากพบคนติดเชื้อโอไมครอน กระทรวงสาธารณสุขไม่ปกปิดแน่นอน

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกเริ่มพบเชื้อโอไมครอน ก็มีความเป็นไปได้หากจะมีการพบเชื้อมากับผู้เดินทางเข้ามา แต่ทุกอย่างต้องมีการตรวจยืนยันให้แน่ใจก่อน และไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกเพราะกระบวนการป้องกันยังเหมือนเดิม ทั้งสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง การล้างมือ และกระบวนการรักษาก็ยังเหมือนเดิม อีกทั้งวัคซีนยังเป็นกลไกสำคัญช่วยลดความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการติดตามนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกันนับร้อยรายที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม จะมีแนวทางในการติดตามต่อไปอย่างไร นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ในส่วนของการติดตามตัวกรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งสามารถตามมาได้เรื่อยๆ หากตามมาแล้วผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบละเอียด หรือ RT-PCR เป็นบวก ถึงจะมีการส่งมาตรวจหาสายพันธุ์ แต่ถ้าผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ จะสามารถออกไปท่องเที่ยวได้ปกติเช่นเดิม

เมื่อถามว่า ที่มีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในประเทศมาเลเซีย และประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยหวั่นเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นนั้น ไทยมีมาตรการควบคุมอย่างไร นพ.ศุภกิจกล่าวว่า เราจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาไทย โดยใช้มาตรการเดียวกันคือ หากผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะมีการส่งต่อเพื่อตรวจหาสายพันธุ์ต่อไป ใจเย็นๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไร เราก็ควบคุมกันอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว เฝ้าระวังในส่วนของการเข้าออกพื้นที่

ที่ จ.เชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า สถานการณ์​เริ่มดีขึ้นพบการติดเชื้อ​ใหม่ลดลงต่อเนื่อง​ วันนี้ต่ำกว่า​ 100​ รายเป็นวันแรก อยู่ที่​ 96 ราย แต่เสียชีวิต​มากถึง​ 4​ ราย ทั้งนี้จากสถานการณ์​ที่ดีขึ้น คณะกรรมการ​โรคติดต่อ​จังหวัด​ได้ประกาศ​ผ่อนคลายให้สถานประกอบการต่างๆ เริ่มเปิดบริการเป็นปกติตั้งแต่​ 6​ ธ.ค.เป็นต้นไป ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (อำเภอเมืองเชียงใหม่, อำเภอจอมทอง, อำเภอดอยเต่า, อำเภอแม่แตง และอำเภอแม่ริม)

ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม รายงานว่าพบผู้ป่วยใหม่ 10 ราย ทั้งหมดล้วนติดเชื้อในพื้นที่เป็นคลัสเตอร์ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาปี 2 และ 3 ของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยผู้ที่เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์เป็นนักศึกษาหญิงฝึกงาน ที่เข้าไปเที่ยวร้านเหล้าพร้อมกับเพื่อนนักศึกษาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีอาการกำเริบเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ก่อนจะตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด ซึ่งคลัสเตอร์นี้มีกลุ่มเสี่ยงกว่า 300 คน และมีผู้ป่วยติดเชื้อกระจายในบางหน่วยงานแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์