รับรองสส.500คนรวด กกต.ขู่สอย82รายถูกร้อง พท.พลิ้วชิงเก้าอี้ปธ.สภา

“กกต.” ปล่อยผีแล้ว รับรอง 500 ส.ส.รวดเดียว ระบุให้มารับหนังสือได้ตั้งแต่ 20-24 มิ.ย. ย้ำยังมีอำนาจเด็ดปีกเพราะมีเรื่องร้องเรียนถึง 82 ราย คุยปม “พิธา” ยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวน ทำตามระเบียบไม่สนการเมืองเรื่องโหวตนายกฯ “ชัยธวัช” เตรียมยกทั้งพรรครายงานตัวพร้อมกัน 27 มิ.ย. รีบขอบคุณเพื่อไทยหลีกทางเก้าอี้ประธานสภา เชื่อได้ข้อสรุปสัปดาห์นี้ “ภูมิธรรม” ลิ้นพันแจงยังไม่ได้ประเคนให้ แค่พูดในหลักการ ยันต้องเจรจาให้ได้ข้อยุติ สะพัด! “ชลน่าน-พ่อมดดำ” เมินเก้าอี้รองประธาน

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย.66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ได้แถลงรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อว่า กกต.ตรวจสอบรายงานความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร และ 3 แหล่งข้อมูลจากการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย เมื่อ กกต.ได้พิจารณาแล้วจึงมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน

นายแสวงกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวน ตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หมายความว่าหลังการเลือกตั้ง หากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง ทั้งนี้ที่ กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนอาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวน ส.ส. 400 เขต พบว่ามี ส.ส.ไม่มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 318 คน และมีเรื่องร้องเรียน 82 คน อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่ กกต.ประกาศรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 20-24 มิ.ย.นี้ เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

นายแสวงยังกล่าวอีกว่า จำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1  คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งประกอบด้วย พรรคก้าวไกล (ก.ก.) 39 คน, พรรคเพื่อไทย (พท.) 29 คน, พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 13 คน, พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 3 คน, พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 3 คน, พรรคประชาชาติ (ปช.) 2 คน, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน (ค.พ.ช.), พรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.), พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.), พรรคท้องที่ไทย (ท.), พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.), พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.), พรรคเป็นธรรม (ปธ.), พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), พรรคพลังสังคมใหม่ (พ.ส.ม), พรรคเสรีรวมไทย (สร.) และพรรคใหม่ (ม.) พรรคละ 1 คน

กกต.โวทำตามหน้าที่

เมื่อถามว่าหลังประกาศรับรองแล้ว กกต.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก.ก.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เลยหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงาน ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และดูว่ามีการดำเนินการไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ

เมื่อถามย้ำว่า จะต้องยื่นเรื่องก่อนโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง การสอบสวนของ กกต.จะต้องสอบสวนให้สิ้นกระแสความ ถ้าเร็วก็เร็วโดยลักษณะงานที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง

ขณะเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ประกาศถึงการเตรียมรับรายงานตัว ส.ส. ชุดที่ 26 ตั้งแต่วันที่ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และ ส.ส.ได้รับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็นต้นไป ว่า ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. เวลา  08.30-16.30 น. ที่ ห้องสัมมนา ชั้น B1 อาคารรัฐสภา สามารถมารายงานตัว โดยต้องเตรียมเอกสารสำหรับการรายงานตัว ดังนี้ 1.หนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้ง 2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.สำเนาทะเบียนบ้าน 4.สำเนาใบสำคัญการสมรส 5.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส 6.สำเนาหลักฐานวุฒิการศึกษา และ 7.รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นดำ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3 รูป และขนาด 2 นิ้ว จำนวน 6 รูป

นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ก.ก.กล่าวเรื่องนี้ว่า ในวัน 21-24 มิ.ย.นี้พรรคมีงานสัมมนาว่าที่ ส.ส.ใหม่ที่ต่างจังหวัด พรรคจึงมอบหมายให้ฝ่ายไปรับเอกสารที่ กกต.แทน และในวันที่  27 มิ.ย.จะไปรายงานตัวที่รัฐสภาพร้อมกันทั้งหมด

 “การพูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกับพรรคเพื่อไทย ขณะนี้กำลังรอนัดหมายอยู่ เพราะช่วงนี้พรรคเพื่อไทยมีการสัมมนาเหมือนกัน แต่น่าจะพูดคุยกันอย่างเป็นทางการก่อนวันที่ 22 มิ.ย.นี้ สำหรับการโหวตเลือกประธานสภาคาดว่าจะเป็นวันที่ 4-6 ก.ค. ซึ่งจะเปิดการประชุมสภาครั้งแรก”

เมื่อถามว่า ขณะนี้ไทม์ไลน์เหลือน้อยลงมีกระบวนการพูดคุยกับ ส.ว.อย่างไรบ้าง นายชัยธวัชกล่าวว่า พรรคพยายามอย่างดีที่สุดในเวลาที่มีอยู่ สำหรับการพูดคุยทำความเข้าใจ ส.ว. ซึ่งอยู่ในทิศทางที่ดีอยู่ ยังยืนยันเช่นเดิมว่า ส.ว.จำนวนมากมีวุฒิภาวะและมีวิจารณญาณ และไม่อยากเห็นทางตันในทางการเมือง และยิ่งมีการรับรอง ส.ส.แล้ว เป็นทางการแล้ว จะยิ่งมีความชัดเจนยิ่งขึ้น

ก.ก.รีบขอบคุณ พท.หลีกทาง

ก่อนหน้านี้นายชัยธวัชให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวในเก้าอี้ประธานสภา โดยเฉพาะกรณีพรรค พท.ระบุว่าจะเป็นคนของพรรค ก.ก. และตำแหน่งรองประธานสภา 2 ตำแหน่งเป็นของพรรค พท. ว่าจะได้ข้อยุติของตำแหน่งภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้บริหารพรรค พท.ที่มีท่าทีออกมาในลักษณะนี้ ทำให้การทำงานร่วมกันดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคจะเข้าพูดคุยกับแกนนำของ พท.ในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่า ในส่วนรายชื่อของประธานสภาของพรรค ก.ก.ที่เปิดเผยมาก่อนหน้านี้ ทั้งนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ ส.ส.พิษณุโลก และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ ส.ส.กทม.จะเป็นไปตามนี้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่าต้องรอกระบวนการภายในพรรค และในวันพฤหัสบดีนี้จะประชุมหัวหน้าพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค ซึ่งเราคิดว่าจะประชุมกันหลังจาก กกต.รับรอง ส.ส.เรียบร้อยแล้ว

ถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าการที่พรรค พท.ให้ตำแหน่งประธานสภา เพราะอาจมองข้ามขั้นไปถึงที่นายพิธาชวดตำแหน่งนายกฯ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่คิดไปไกล ตอนนี้เดินหน้าจับมือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อผลักดันในการจัดตั้งรัฐบาลให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ

 “วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา ผมยืนยันแทนพรรคเพื่อไทย แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล ผลักดันผลักดันให้นายพิธาเป็นนายกฯ ส่วนจะปล่อยฟรีโหวตหรือไม่ ยืนยันว่าไม่แน่นอน และหาก กกต.รับรองผลการเลือกตั้งภายในสัปดาห์นี้ ต้นเดือนหน้าก็จะเปิดประชุมสภาและเลือกประธานสภา ซึ่งหากเป็นไปตามไทม์ไลน์ปกติก็จะเลือกนายกฯ กลางเดือนหน้า” นายชัยธวัชระบุ

สหายอ้วนลิ้นพันปมประธานสภา

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาที่ถูกตีความพรรค พท.ยอมถอยว่า ตำแหน่งประธานสภายังไม่มีข้อสรุปใดๆ เพราะเพิ่งพูดคุยไปเพียง 1-2 ครั้ง ตั้งแต่เกิดข้อถกเถียงกัน โดยทั้ง 2 พรรคมี ส.ส.ต่างกันไม่มาก ในเบื้องต้นจึงได้ตกลงกันตามที่เสนอว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีควรได้ในจำนวนที่เท่าๆ กัน 14 คน โดยพรรค ก.ก.เป็นประมุขฝ่ายบริหาร เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรค พท.ที่เป็นพรรคอันดับ 2 ในขณะนั้นก็ควรได้ตำแหน่งประธานสภา ถือว่ามีความเท่าเทียมกัน ทำให้ผู้สนับสนุนสามารถมองได้ว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และไม่มีความคืบหน้าใดๆ อีก จนนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ออกมาแสดงความคิดเห็นและจองตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรค ก.ก.เท่านั้น จึงได้ตำหนิไปว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว แต่ความเป็นจริงต้องรอให้ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันให้ชัดเจนก่อน ดังนั้นเมื่อยังไม่มีความชัดเจน การออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ โดยมารยาททางการเมืองนั้นไม่มีผู้ใดกระทำกัน และเมื่อเป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 พรรคการเมือง จึงควรยุติเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เรื่องอื่นๆ ที่สำคัญกว่า โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลสามารถดำเนินการต่อไปได้

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีย้ำหลักการตำแหน่งประธานสภา ว่าพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งอันดับ 1 ควรครองตำแหน่งประธานสภา และพรรคอันดับ 2 หากคะแนนเสียง ส.ส.ห่างกันไม่มาก ก็ควรได้ครองตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 ตำแหน่ง ว่าไม่ได้ระบุว่าจะมอบตำแหน่งประธานสภาให้พรรคการเมืองใดหรือ ส.ส.คนใด เพราะในทางปฏิบัติต้องพูดคุยในรายละเอียดร่วมกันก่อน ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย และรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.ก่อน เพื่อให้ทราบว่าพรรคการเมืองใดจะชนะการเลือกตั้งลำดับที่ 1 ที่ชัดเจน กระบวนการพูดคุยระหว่างพรรค พท.และ ก.ก.จึงจะเริ่มต้น ซึ่งหลัง กกต.รับรองการเลือกตั้งแล้วก็ยังมีเวลาอีก 15 วันก่อนมีรัฐพิธี และขั้นตอนการเลือกประธานสภา

เมื่อถามว่า ได้ต่อสายพูดคุยกับนายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พท.แล้วหรือไม่ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีเรื่องใดเลยเถิด โดยต้องรอให้เจ้าตัวมาชี้แจงหลังจากนี้ เพราะได้ย้ำเพียงหลักการ จึงขออย่าเพิ่งมีการตีความใดๆ

ถามถึงสาเหตุที่พรรค พท.ออกมาชี้แจงหลักการดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ย้ำถึงตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรค พท. นายภูมิธรรมกล่าวว่า เดิมเป็นเพียงการพูดคุยเพื่อให้ทำความเข้าใจกันได้ เบื้องต้นจำนวนเสียง ส.ส. ระหว่าง 2 พรรคไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้นก็ไม่ต้องการให้เกิดข้อถกเถียงกัน จึงได้ออกมายืนยันหลักการ เพราะประชาชนรอคอยความเปลี่ยนแปลง มากกว่าการช่วงชิงตำแหน่ง

เมื่อถามว่า มีรายงานว่าพรรค ก.ก.จะเปิดชื่อบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งประธานสภานั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลคิด แต่ยังไม่ใช่ข้อตกลงร่วมของทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งพรรค พท.ก็ยังไม่ได้เตรียมบุคคลเพราะยังไม่มีความชัดเจนใดๆ และการเตรียมวางตัวบุคคลนั้นต้องให้ได้ข้อสรุปจากทั้ง 2 พรรคก่อน ย้ำว่า 3 รายชื่อที่เปิดเผยไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อมวลชน พท.ยังไม่มีการกำหนดตัวบุคคลดำรงตำแหน่งประธานสภาหรือรัฐมนตรี ควรเร่งพูดคุยถึงการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จมากกว่า

รายงานข่าวจาก พท.แจ้งว่า พท.รอความชัดเจนในเรื่องจำนวน ส.ส.จาก กกต.ก่อนจะสรุปบุคคลนั่งในตำแหน่งรองประธานสภาในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ โดยจะไม่มีชื่อทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.และนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรค พท. อดีตรองประธานสภา

เพื่อไทยย้ำยังไม่ประเคนเก้าอี้

นพ.ชลน่านกล่าวเช่นกันว่า ตำแหน่งประธานสภายังอยู่ในกระบวนการพูดคุย ยังไม่ใช่ข้อยุติหรือข้อตกลงร่วมกัน และในการประชุมวันที่ 22 มิ.ย.เป็นเพียงการนัดหมายประชุมของหัวหน้าพรรคร่วม 8 พรรค ซึ่งปกติจะไม่เอาวาระของการเจรจามาร่วมประชุมเพื่อต่อรองตำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง เว้นแต่ว่ามีข้อสรุปแล้ว เพราะฉะนั้นวันนั้นหากยังไม่มีข้อสรุปก็ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าแต่อย่างใด

เมื่อถามถึงกรณีคนในพรรค ก.ก.ออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะขอบคุณที่พรรค พท.ยอมถอยในเรื่องตำแหน่งประธานสภา นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราได้ให้ตัวแทนของคณะเจรจาได้พูดคุยกันในส่วนของพรรค ที่อาจมีการพูดถึงหลักการว่าพรรค พท.เองก็ยินดีหากสิทธิ์ของประธานสภาจะให้เป็นของพรรคอันดับหนึ่ง และพรรค พท.จะได้ตำแหน่งรองประธานสภาทั้งสองคน ก็เป็นเพียงหลักการที่เสนอเหมือนกัน แต่ พท.กับ ก.ก.ยังไม่ได้เจรจากัน เป็นเพียงการพูดกันภายในพรรค พท.

เมื่อถามว่า ข้อเสนอในตำแหน่งรองประธานสภา 2 คนนั้น มีบุคคลที่มีความพร้อมเตรียมไว้แล้วหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า พท.เรามีบุคคลไว้พร้อมอยู่แล้ว

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามว่าขณะนี้ยังมีกำลังใจดีอยู่หรือไม่ ว่าก็ยังดีอยู่ และเมื่อถามว่าห่วงอะไรหรือไม่จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็ขึ้นอยู่กับสื่อว่าจะช่วยกันไหมล่ะ การเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่มันอยู่ที่สื่อเนี่ย แล้วเป็นยังไง มันเป็นแบบนี้ ชอบกันนักหรือ ชอบแบบนี้อีกหรือเปล่าล่ะ”

เมื่อถามว่า ที่มีการมองว่าหากโหวตเลือกนายกฯ แล้วไม่ได้จะเกิดความวุ่นวายขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำ 2  รอบว่า “ไม่รู้ๆ ไม่รู้ ไม่ทราบ”

สำหรับความคืบหน้าในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 ซึ่งวันที่ 18  มิ.ย.66 ถือเป็นวันสิ้นสุดการขอขยายเวลาการยื่นนั้น นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ข้อมูล ณ เวลา 16.00 น.ของวันที่ 19 มิ.ย. มีผู้มายื่นแล้ว 335  ราย รวมที่ขอขยายระยะเวลาด้วย ส่วนที่ขอขยายเวลาแล้วยังไม่ยื่น 42 ราย และอีก 5 รายยังไม่ได้ยื่นและไม่ได้ขอขยายเวลา ส่วนกรณีนายพิธาที่ส่งไปรษณีย์มาแล้ว ณ เวลานี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับ ไปรษณีย์ยังมาไม่ถึง

 “คนที่ยังไม่ได้ยื่น และคนที่ไม่ได้ขอขยายเวลาก็ต้องชี้แจงว่าทำไมไม่ยื่น โดยชี้แจงต่อ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณา ซึ่งป.ป.ช.ก็ต้องรับฟังเหตุผลว่าทำไมถึงได้ยื่นเกินกำหนดระยะเวลา รวมทั้งไม่ได้ขอขยายเวลาด้วย ส่วนการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นเข้ามาต่อสาธารณะนั้นก็ภายใน 30 วันนับแต่วันยื่น" เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าว

ขณะเดียวกัน ที่สำนักงาน กกต. นายรัชพล ศิริสาคร  หรือทนายรัชพล มายื่นหนังสือถึง กกต.เพื่อคัดค้านการดำเนินการสอบนายพิธากรณีการถือหุ้น iTV ใน 6 ประเด็น โดยระบุว่า ที่มายื่นเรื่องเพราะมีความคาดหวัง และทำงานมาเหนื่อย ไปแจ้งความและเสียเวลาเตรียมเอกสารมาให้ กกต.ก็คาดหวังว่าจะนำไปพิจารณา ส่วนจะดำเนินการตามหรือไม่ ไม่อาจจะก้าวล่วงได้ เพราะ กกต.ก็เป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ส่วนตัวก็ทำในนามประชาชนคนหนึ่ง ที่อยากเห็นความเป็นธรรมเกิดกับประเทศไทยไม่ว่าใครก็ตาม

ส่วนที่รัฐสภา กลุ่มอาชีวะราชภักดีจำนวน 20 คน เดินทางมาให้กำลังใจ ส.ว.ในการใช้สิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ  โดยมีนายทศพร แย้มวงษ์ รองเลขาธิการวุฒิสภา เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต. คิกออฟ 'เลือก สว.' ทำ MOU เผยแพร่ประชาสัมพันธ์

กกต. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือก ส.ว. พร้อมคิกออฟภายใต้แนวคิด '20 กลุ่มอาชีพร่วมใจ ขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน'

โยนรบ.ปลดล็อกม.112 กมธ.นิรโทษฯชง3ข้อเสนอทะลุฟ้า/ก.ก.ย้ำสิทธิประกันตัว

"กลุ่มทะลุฟ้า" บุกทำเนียบฯ-รัฐสภา ร้องรัฐบาลตรวจสาเหตุ  "บุ้ง" เสียชีวิตให้โปร่งใส จี้คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง