"ศรีสุวรรณ" ตามบี้ ส.ส.ส้มทำร้ายแฟน ร้อง ป.ป.ช.สอบผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ปิดช่องสกัดเกี๊ยะเซียะจบเรื่องฉาว กังขาพรรคสุดย้อนแย้ง หาเสียงเล่นใหญ่ความเท่าเทียมในสังคม ขณะที่ "ก้าวไกล" ซื้อเวลาอ้างรอดูผลสอบอย่างเป็นทางการ เอวัง! "สิริน-แฟนสาว" ดอดถอนแจ้งความกลางดึก
จากกรณีนายสิริน สงวนสิน ส.ส.กทม. เขตทวีวัฒนา-ตลิ่งชัน พรรคก้าวไกล ถูกแฟนสาวแจ้งความเอาผิดกรณีทำร้ายร่างกาย ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่มีพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บ่อวิน จว.ชลบุรี อันถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
นายศรีสุวรรณระบุว่า กรณีดังกล่าวเมื่อย้อนกลับไปดูประวัติของการหาเสียงของ ส.ส.รายดังกล่าว พบว่าเคยมีบทบาทในการรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับสตรีและส่งเสริมบทบาทของสตรี เพื่อสังคมที่คนเท่ากันมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหาเสียงที่ผ่านมา แต่ทว่าเหตุที่ถูกแจ้งความกลับเป็นเรื่องย้อนแย้งโดยสิ้นเชิง และยังเพิกเฉยต่อการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งผู้แทนราษฎรพึงปฏิบัติให้รวดเร็วเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของสังคม แต่กลับประวิงเวลาออกไป อันชี้ให้เห็นถึงตัวตนและพรรคการเมืองต้นสังกัด ที่โฆษณาชวนเชื่อทางนโยบายมาโดยตลอดว่าสังคมต้องเท่าเทียมกัน
นายศรีสุวรรณระบุว่า การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำผิดกฎหมายเยี่ยงนี้ รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ ป.ป.ช.ทำหน้าที่ไต่สวนเอาผิดนักการเมืองเหล่านี้ได้ ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 อันเป็นความผิดหลายข้อ อาทิ ต้องยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง รวมทั้งไม่กระทําการอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุทําให้ผู้ถูกกระทําได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรือกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น
“กรณีดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับอาญาแผ่นดิน เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว ไม่สามารถยอมความได้ ความพยายามที่จะเกี๊ยะเซียะกันเพื่อยุติเรื่อง โดยมีการแจ้งว่าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้วนั้น ผู้เสียหายอาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม ป.อ.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงจำต้องนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนเอาผิดว่าการกระทำหรือพฤติกรรมของ ส.ส.รายดังกล่าว เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนให้รีบดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษตามครรลองของกฎหมาย ป.ป.ช.ต่อไป" นายศรีสุวรรณระบุ
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ระบุว่า ได้สอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณี ส.ส.เมาแล้วขับที่ต้องลาออกเลยหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ต้องรอดูผล ตอนนี้กำลังเสนอกรรมการบริหารพรรคพิจารณา
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิรินได้แชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กของแฟนสาวเกี่ยวกับการชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยระบุข้อความช่วงหนึ่งว่า "ก่อนอื่นดิฉันขอชี้แจงข้อเท็จจริงในวันเกิดเหตุ ในวันนั้นเรามีปากเสียงกัน และเกิดการยื้อแย่งโทรศัพท์กันในรถ คุณสิรินใช้กำลังยื้อแย่งโทรศัพท์จากดิฉัน จนทำให้โทรศัพท์มากระแทกหน้าดิฉันอย่างแรง
ภายหลังที่มีการพูดคุยทำให้ทราบว่า เป็นการกระทำโดยมิได้ตั้งใจและยังมีเหตุการณ์ยื้อฉุดกันบริเวณข้างรถ ทำให้ดิฉันเผลอล้มกระแทกลง จนเป็นเหตุให้เกิดบาดแผล อีกทั้งคุณสิรินยังใช้คำพูด และอารมณ์ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันจึงตัดสินใจไปแจ้งความ เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง และต้องการให้คุณสิรินได้สำนึกว่าตนเองทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
หลังจากดิฉันไปแจ้งความ คุณสิรินและครอบครัวได้ติดต่อมายังดิฉัน และคุณสิรินกับครอบครัวได้แสดงความสำนึกผิด อีกทั้งตระหนักว่าตนเองกระทำผิดต่อดิฉัน และได้ขออภัยดิฉันอย่างจริงใจแล้ว ทำให้ดิฉันและครอบครัวไม่ติดใจเอาความต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ดิฉันต้องการได้บรรลุผลแล้ว นั่นคือให้บทเรียนกับคุณสิริน และทำให้เขาตระหนักว่าต้องไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้กับดิฉันหรือบุคคลใดๆ อีก
ดิฉันขอแจ้งให้ทราบตรงนี้ว่าดิฉันไม่ติดใจเอาความคุณสิริน และหวังว่าบทเรียนที่เขาได้จากสังคม จากการถูกแจ้งความ รวมถึงบทลงโทษที่เขากำลังจะได้รับจากพรรคก้าวไกล จะเพียงพอทำให้คุณสิริน และนักการเมืองทุกคนตระหนักว่า การใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ไม่ว่าต่อเพศใด โดยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม เป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ และผู้กระทำผิดจะต้องได้รับผลจากการกระทำนั้น"
ที่ จ.ชลบุรี พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผู้กำกับการ สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสิรินและแฟนสาวได้เดินทางมาถอนแจ้งความทั้งหมด ประกอบด้วย คดีทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ซึ่งในส่วนของคดีทำให้เสียทรัพย์สามารถยอมความได้ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย
“ขณะที่คดีทำร้ายร่างกายเป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความได้ แม้ฝ่ายหญิงจะแจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน หรือไม่ติดใจเอาความก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยินยอมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยตกลงกันเอง ซึ่งจะมีบุคคลที่สามเข้ามาช่วยเหลือเจรจาต่อรอง ก่อนจะทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน และหลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำบันทึกส่งอัยการพิจารณาคดีต่อไป” พ.ต.อ.เอนกระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จงรักภักดีจนชีวิตหาไม่
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
‘บุญทรง’พ้นคุก คุมตัวที่บ้าน3ปี ชื่นชมลูกผู้ชาย
"บุญทรง" ได้พักโทษ พ้นคุก ใส่กำไลอีเอ็มกลับบ้านที่เชียงใหม่
รุมดีดปาก‘เชิดชัย’ขู่ยุบสภา
"ภูมิธรรม" โบ้ย "หมอเชิดชัย" ให้ไปยุบสภาเอง ยันอำนาจอยู่ที่นายกฯ
เมินเปิดเวทีถกMOU รอทีบีซีช่วยคนไทย
“ภูมิธรรม” ปัดทิ้งข้อเสนอ พปชร.เปิดเวทีสาธารณะถก MOU 44
ชูแม่สายโมเดลแก้ท่วมใต้ เพิ่มงบผู้ว่าฯ-เร่งเยียวยา
"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบภัย
เงิน10ล้านค่าหุ้นกู้ ศรีสวัสดิ์โต้แทนหวานใจบิ๊ก จ่อฟ้องคนทำให้เสียชื่อเสียง
"บิ๊กเต่า" เผยคดีรีสอร์ตหรูรุกที่ ส.ป.ก.เป็นอำนาจ ป.ป.ช. เชื่อมีผู้กระทำผิดหลายคน