ลุ้นฎีกาคดีธาริตรอบ10 โทรโข่งพท.โหนอัดบิ๊กตู่

ลุ้นระทึก! ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาครั้งที่ 10 คดี “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ฟ้อง “ธาริต” ปมสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 53 “ตรีชฎา” ได้ทีโหนอดีตอธิบดีดีเอสไอเปิดใจซัด “บิ๊กตู่” น้องแรมโบ้ดีดปากอย่าหิวแสงมากนัก “นิพิฏฐ์”  ทวงจดหมายให้กำลังใจคืน 

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม ศาลฎีกานัดอ่านฟังคำพิพากษา หรือคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ อ.310/2556 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี   และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชน, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต  และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 วรรคสอง  กรณีนายธาริตกับพวกแจ้งข้อหาดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพฐานสั่งฆ่าประชาชน ในการสลายม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 โดยจำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง   ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ลงโทษพวกจำเลย โดยศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งต่อมาจำเลยทั้งสี่ยื่นฎีกา และศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2564 และมีการเลื่อนล่าสุดครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2566

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายธาริตได้แถลงข่าวเปิดใจเกี่ยวกับคดีดังกล่าว พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาลฎีกา แต่เรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาเพื่อสอบสวนคืนความยุติธรรมให้ประชาชนที่สูญเสียในเหตุการณ์ รวมทั้งเปิดเผยข้อมูลว่าเป็นต้นตอที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร 2557 ด้วย

ขณะที่ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายธาริตเปิดใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารปี 2557 และนายทหารที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารทั้งหมด ควรแสดงความกล้าหาญออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมว่าสิ่งที่นายธาริตเปิดเผยออกมานั้น เป็นส่วนหนึ่งของต้นตอการรัฐประหาร 2557 จริงหรือไม่ และการรัฐประหารที่จริงแล้วเป็นการพยายามช่วยเหลือให้ผู้เกี่ยวข้องกับการสั่งสลายการชุมนุมประชาชนในปี 2553 ให้หลุดคดี   หรือเป็นเพียงการทำเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นความผิดหรือไม่ เพราะหลังการรัฐประหาร 2557 เป็นต้นมา คดีสลายการชุมนุมของประชาชนไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย

น.ส.ตรีชฎาระบุว่า พรรค พท.จะติดตามทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสีย คนสั่งการต้องไม่ลอยนวลอยู่เหนือความผิด ประชาชนต้องไม่ตายและเจ็บฟรี ต้องให้ความสำคัญกับการทำความจริงให้ปรากฏ และคืนความยุติธรรมให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะผ่านกระบวนการของการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระหรือการดำเนินการใดๆ  โดยพรรค พท.เตรียมเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเปิดทางให้ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลได้โดยตรง ทันทีที่การจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยเสร็จสิ้น

ด้านนายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า คดีนี้ได้มีการพิสูจน์ความจริงจากกระบวนการยุติธรรมแล้ว โดยศาลยกฟ้อง และกระบวนการของ ป.ป.ช.ยุติไปแล้ว จึงไม่ทราบว่าเหตุใดนายธาริตถึงนำมาพูดอีกครั้ง ดังนั้นมูลหรือคำพูดที่นายธาริตที่เอามาเอ่ยอ้างนั้น อยากจะขอให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าเชื่อถือได้แค่ไหนหรือไม่อย่างไรกับผู้ที่เคยต้องโทษ ติดคุกติดตะรางมาแล้ว และต้องการบิดเบือนกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นหรือไม่

“สิ่งที่น่าประหลาดใจ ที่รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเช่น น.ส.ตรีชฎากลับออกมาหาแสง ออกมาเสนอหน้าหยิบยกมาเป็นประเด็นทางการเมือง โบ้ยความผิดไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริง น.ส.ตรีชฎาต้องไปบอกนายใหญ่ออกมารับผิดชอบที่พี่น้องคนเสื้อแดงออกมาสู้ให้นายทักษิณจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ถึงวันนี้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยแสดงความรับผิดชอบให้ความช่วยเหลืออะไรคนเสื้อแดงบ้างไหม” นายชนะศักดิ์กล่าว และว่า ขอเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในพรรค พท.ช่วยห้ามปราม หรือตักเตือนพฤติกรรมของรองโฆษกคนนี้บ้าง เพราะออกมาแถลงแต่ละเรื่องนั้นดูจะเป็นการเอาข่าวมั่วมาแถลงต่อสื่อโดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริงเลย หากมีพฤติกรรมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ระวังประชาชนจะเบื่อหน่ายทั้งคนทั้งพรรคได้

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องนี้ว่า ป.ป.ช.และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ว่าการชุมนุมกลุ่ม นปช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้ชุมนุมมีอาวุธและใช้อาวุธในการชุมนุม รัฐบาลจึงจำเป็นต้องรักษาความสงบและขอพื้นที่ชุมนุมคืน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเป็นพรรคเพื่อไทย จากเดิมที่นายธาริตฟ้องกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงในข้อหาก่อการร้าย,  ปล้นทรัพย์, ฆ่าผู้อื่น, วางเพลิงเผาทรัพย์, ทุบรถและทำร้ายเลขาธิการนายกฯ จนเกือบเสียชีวิตในกระทรวงมหาดไทย และอื่นๆ หลายข้อหา นายธาริตกลับเปลี่ยนดุลพินิจมาฟ้องนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพว่าสลายการชุมนุมโดยมิชอบ ชนิดที่ว่า กลับลำ 180 องศาหลายรอบ ทำให้นายอภิสิทธิ์ฟ้องนายธาริตข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ 

“ผมเคยเขียนจดหมายส่วนตัวด้วยลายมือถึงคุณธาริต ให้กำลังใจ ให้เข้มแข็งและยึดความถูกต้องเป็นหลัก จากนั้นคุณธาริตถูก ป.ป.ช.มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ 346 ล้านบาท ผมเห็นใจคุณธาริต แต่เมื่อเห็นข่าวคุณธาริตออกมาแถลงข่าว ผมว่าคุณธาริตกลับไปกลับมา และพลาดอีกแล้ว ประวัติศาสตร์บางเรื่องเขาสอนให้เรียนรู้เพื่อจำ แต่ประวัติศาสตร์บางเรื่องเขาให้เรียนรู้เพื่อลืม ซึ่งน่าเห็นใจคุณธาริต วันนี้เรื่องจำกลับลืม เรื่องลืมกลับจำ จนหมดความน่าเชื่อถือ กลายเป็นคนหลงๆ ลืมๆ ไปเสียแล้ว ถ้าคุณธาริตยังพอจำได้ ขอจดหมายที่ผมเคยเขียนชื่นชมคุณธาริตคืนให้ผมเถอะ” นายนิพิฏฐ์โพสต์ทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช' เมิน 'ทักษิณออนทัวร์' ปลุกระแสชี้ของอย่างนี้ขึ้นกับปชช.

'ชัยธวัช' ชี้ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนนิยมก้าวไกล เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของ สส. มองลงพื้นที่ที่ผ่านมา ก็หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม พท.แต่จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ ปชช.

เด็กก้าวไกลชี้ 'ทักษิณ' ลงภูเก็ตเหมือนแข่ง ครม.สัญจรกับ 'เศรษฐา'

'ณัฐชา' เหน็บ 'ทักษิณ' ทัวร์ภูเก็ต เพราะปรับ ครม.เสร็จ ทำตัวเหมือนพ้นโทษ ทั้งที่พักอยู่ ทำชาวบ้านสงสัย ครม.สัญจรกี่ที่-มีนายกฯกี่คน เชื่อเป็นไปได้สูง 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทย