เอกชนจับตาโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ หวังราบรื่นไร้ปัญหา จัดตั้งรัฐบาลได้ตามไทม์ไลน์ สร้างเชื่อมั่นนักลงทุนไทยและต่างชาติ ผวาม็อบฉุดเศรษฐกิจแย่ หุ้นไทยปิดลบ 5.82 จุด ผันผวนความไม่แน่นอนทางการเมือง
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และกลุ่มนักลงทุน กำลังจับตาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นวันที่ 13 ก.ค.2566 ซึ่งคาดหวังให้การโหวตเป็นไปด้วยความราบรื่นไร้ปัญหา เหมือนการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร คาดหวังที่จะไม่เห็นการประท้วง หรือสถานการณ์รุนแรงจนกระทบต่อการท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ไฮซีซัน เพราะเศรษฐกิจไทยเวลานี้ต้องอาศัยการท่องเที่ยวมาขับเคลื่อนแทนการส่งออกที่คาดว่าจะติดลบ 2% หรือไม่เติบโตเลย
“ไม่ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ มองว่าภาคเอกชนคาดหวังแค่อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเอกชนสามารถทำงานร่วมกับพรรคใดก็ได้ และคาดหวังจะให้จัดตั้งรัฐบาลตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ เพราะมีเรื่องเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจที่ต้องรอรัฐบาลใหม่มาขับเคลื่อน โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ” นายเกรียงไกร ระบุ
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนรับได้หากทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นกฎหมายสูงสุด แต่การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าออกไป อาจส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาใหม่ โดยเป็นห่วงหากลากยาวจะกระทบเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะนักลงทุนอยากเห็นรูปร่างหน้าตาของรัฐบาลใหม่ คณะรัฐมนตรีใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ นโยบายที่ชัดเจน ที่จะมีการแถลงต่อสภา เพื่อที่จะตัดสินใจในการลงทุนต่อไปอย่างไร คนที่ลงทุนอยู่แล้วก็อาจจะลงทุนต่อ แต่คนที่จะมาใหม่ก็อาจจะชะลอไว้ นอกจากนี้ หากจะมีการชุมนุมแสดงออกทางการเมือง ขอให้ชุมนุมเป็นไปอย่างสงบตามกฎหมาย เพื่อไม่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นไทยผันผวนในแดนบวกและลบ กดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกฯ แม้ช่วงเช้าดัชนีปรับขึ้นจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบจากนโยบายพรรคการเมือง จากกรณีที่มีข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้งส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องสิ้นสุดจากประเด็นถือครองหุ้นไอทีวี ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ 1,491.14 จุด ลดลง 5.82 จุด หรือ 0.39% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 52,288.15 ล้านบาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พังงาจับ4หนุ่ม ขนปืน-กระสุน ภูเก็ตสั่งคุมเข้ม
ตำรวจพังงาจับ 4 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงคราม ผงะ! เตรียมไปส่งที่ภูเก็ต
‘ปปช.’รับคดีชั้น14สุดอืด ธนกรดีดปากนิติสงคราม
เลขาฯ ป.ป.ช.รับคดีชั้น 14 อืด เหตุติดปัญหาขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่น
โพลชี้คนไทยยี้‘กาสิโน’ หวั่นสร้างความขัดแย้ง
"นิด้าโพล" เผย ปชช.มีคำถามคาใจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ที่รวม "กาสิโน" เพียบ!
ทักษิณลั่นซื้อหนี้เกิดปีนี้แน่!
“สวนดุสิต” พบเกินครึ่งหนุนแนวคิด “ทักษิณ” ซื้อหนี้ แต่หวั่นไม่โปร่งใสประโยชน์แอบแฝง
อยู่ในกติกาตอบได้! แม้วการันตีลูกอิ๊งค์เย้ยปชน.อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ
“ทักษิณ” ติวการบ้าน “อิ๊งค์” เชื่อตอบได้ทุกเรื่องตรงไปตรงมา
‘อิ๊งค์’ สนุกสนาน! โชว์ภาพดินเนอร์พรรคร่วมก่อนขึ้นเขียงอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ยิ้มก่อนเครียด! "แพทองธาร" โพสต์ภาพดินเนอร์พรรคร่วมฯ หัวเราะชื่นมื่น บอกสนุกสนาน-มีกำลังใจ